24 ส.ค. 2023 เวลา 02:19 • สุขภาพ

มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่ผู้หญิงทุกคนต้องรู้

มะเร็งปากมดลูกมีอัตราความเสี่ยงมาก หากไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์หรือแต่งงานแล้วจะมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วสามารถหายได้เองในระยะเวลา 1 ถึง 2 ปี อย่างไรก็ตามด้วยความเสี่ยงที่สูงจึงต้องมีการฉีดวัคซีน HPV หรือทำการตรวจร่างกายเป็นประจำ
มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัส HPV จากการมีเพศสัมพันธ์รวมทั้งสาเหตุอื่น เช่น
- การสูบบุหรี่
- ใช้ยาคุมกำเนิดมาเป็นเวลายาวนานกว่า 5 ปี
- เคยคลอดบุตรมาแล้วหลายครั้ง
- เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเซลล์ในช่วงระยะก่อนมะเร็งมดลูก
- เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เริม ซิฟิลิส และหนองใน เป็นต้น
ปกติแล้วเวลาเชื้อ HPV เข้าไปสู่ร่างกายจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาจนกว่าจะเข้าสู่ระยะลุกลามที่เกินเยียวยาเสียแล้ว โดยสังเกตได้จากอาการ ดังนี้
- มีเลือดออกจากช่องคลอด บางคนอาจจะหมดประจำเดือนไปแล้ว แต่ยังมีเลือดออกจากช่องคลอด หรือมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
- ประจำเดือนมานานผิดปกติ
- ตกขาวมีเลือดปนออกมา และมีกลิ่นเหม็นคาว
- รู้สึกเจ็บ หรือปวดในช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์
- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือปวดปัสสาวะบ่อย
- อาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร ปัสสาวะมีเลือดปนออกมา ปวดกระดูก
การรักษามะเร็งปากมดลูกแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่
ระยะก่อนพบมะเร็ง
สามารถรักษาหรือทำการผ่าตัดในบางส่วนของมดลูกเท่านั้น และต้องคอยติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด
ระยะพบมะเร็งแล้ว มีวิธีการรักษา เช่น
- ทำการผ่าตัด
- การทำเคมีบำบัด
- รังสีรักษา
การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งจะเป็นการป้องกันสายพันธุ์ที่พบว่ามีความเสี่ยงมากที่สุด และวิธีการอื่น ๆ
- ป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนหลายคน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- ตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก
โดยทางโรงพยาบาลเพชรเวชมีบริการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัส HPV พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา