Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Check in Chic
•
ติดตาม
26 ส.ค. 2023 เวลา 09:38 • ท่องเที่ยว
ภาพยนตร์เรื่อง โจ เบลล์ "ด้วยรักจากใจพ่อ" เป็นแรงบันดาลใจให้ผมออกเดินเท้า
ในคืนหนึ่งของเดือนพฤษภาคมปี 2566 ที่ผ่านมา ผมได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้
โดยเช้าของวันนั้นผมกลับมาจากการทำงานที่เหนื่อยล้าเนื่องจากผมได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานก่อนวันนั้น แล้วตอนกลับผมกลับดึกมาก รู้สึกล้า และง่วงนอน จึงได้แวะจอดมอเตอร์ไซค์นั่งพักที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งแถวๆใกล้แยกบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยผมได้สะพายเป้ลงไปนั่งพักด้วย และได้นำเป้วางไว้ข้างๆตรงที่ผมนั่งพัก
สักพักใหญ่เป็นเวลาประมาณตี 2 กว่าผมลุกขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปเพื่อจะได้กลับที่พักที่อำเภอบางปะกง
ด้วยความที่นั่งหลับบ้างไม่หลับบ้าง และลุกขึ้นตื่นแบบงัวเงีย จึงได้ลืมกระเป๋าเป้ที่วางไว้ พอขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อนถึงโรบินสันฉะเชิงเทรา รู้สึกเหมือนหลังเบาๆ จึงรู้ว่าไม่ได้สะพายเป้มาด้วย อ้าว! ผมลืมเป้ไว้ที่สถานีบริการน้ำมันนี่เอง
ผมจึงกลับรถเพื่อจะรีบไปเอาเป้ที่ลืมไว้ เนื่องด้วยไฟที่หน้าปัดรถมอเตอร์ไซค์มันเสีย ผมจึงไม่เห็นว่าเกจ์น้ำมันมันตก
ขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงตรงสามแยกบางน้ำเปรี้ยว ซึ่งห่างจากสถานีบริการน้ำมันที่ผมลืมกระเป๋าเป้ไว้ประมาณ 2 กิโลเมตรกว่า รถมอเตอร์ไซค์น้ำมันหมดเครื่องดับ
ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 3:00 น น้ำมันรถหมดเครื่องดับผมจึงต้องจอดรถไว้ที่ริมทางตรงสามแยกบางน้ำเปรี้ยว
แล้วต้องรีบเดินเท้า เพื่อไปยังสถานีบริการน้ำมันที่ผมลืมกระเป๋าเป้ไว้ เดินไปก็กังวลไปว่าจะเจอกระเป๋า หรือมีใครหยิบไปแล้วหรือเปล่า เดินไปถึงก็โล่งใจกระเป๋าเป้ยังอยู่ที่เดิม ซึ่งผมเหนื่อย และง่วงมากพอสมควร จึงนั่งหลับบนเก้าอี้นวดที่สถานีบริการน้ำมันจนถึงเช้า แล้วจึงเดินกลับไปที่สามแยกบางน้ำเปรี้ยว ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่น้ำมันหมดไว้ ฝั่งตรงข้ามประมาณ 400 เมตรจากจุดจอดมอเตอร์ไซค์ไว้มีสถานีบริการน้ำมัน
ผมจูงมอเตอร์ไซค์ไปเติมน้ำมันและขี่กลับมานอนพักที่บางปะกง วันนั้นนอนพักทั้งวัน จากความเหนื่อยล้า
ช่วงดึกๆของคืนวันนั้น ได้ดูภาพยนตร์ เรื่องโจ เบลล์
ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของชายคนหนึ่ง ที่ออกเดินเท้าในสหรัฐอเมริกา เพื่อรณรงค์หลังจากที่บุตรชายของเขาฆ่าตัวตาย จากการถูกเพื่อนๆ และรุ่นพี่ในโรงเรียนบูลลี่ ว่าบุตรชายของโจ เบลล์ เป็นเกย์
หลังจากพิธีศพของบุตรชายเรียบร้อย โจ เบลล์ จึงได้ออกเดินเท้าจากบ้านของเขาเพื่อจะไปยังกรุงวอชิงตัน เพื่อรณรงค์การบูลลี่และไม่อยากให้เหตุการณ์ที่การบูลลี่กัน
นำไปสู่โศกนาฏกรรมอย่างที่เกิดกับ บุตรชายของ โจ เบลล์
เริ่มออกเดินเท้ารณรงค์ลดการทิ้งขยะลงถนน ไหล่ทางฯ
ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีลูก แต่ผมก็เคยเลี้ยงหลานหลายปี
มีความผูกพันเอ็นดู พอรับรู้เข้าใจได้ถึง ความรู้สึกของผู้ที่เป็นพ่อไม่มากก็น้อย
ชมภาพยนตร์เรื่อง โจ เบลล์จบ ผมมีความคิดว่า ผมต้องออกไปเดินเท้าบ้าง เพื่อรณรงค์บางสิ่งบางอย่าง แล้วจะรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องอะไร จากการที่ผมเดินเท้า มายังรถมอเตอร์ไซค์ในเช้าวันที่จอดไว้ เนื่องจากน้ำมันหมด
ระหว่างทางจะพบเห็นขยะต่างๆ เช่นก้นบุหรี่ ขวดน้ำดื่ม เศษพลาสติก เศษน็อต เศษยางรถยนต์ที่แตกระเบิด และขยะอื่นๆ ที่ทิ้งกันอยู่ตามข้างทางและไหล่ทางตลอดเส้นทาง
ผมจึงเริ่มออกเดินเท้าครั้งแรกโดยตั้งใจว่าจะใช้เวลาเดินทั้งไป และกลับประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นการเดินในเส้นทางที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับที่พัก ที่อำเภอบางปะกง
ในครั้งแรกที่ออกเดินเท้า ผมเดินได้ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรทั้งไปและกลับ เช่นเดิมภาพที่เห็นระหว่างทางจะมีขยะต่างๆ อยู่ที่ไหล่ทาง และข้างทางตลอดเส้นทาง
การออกเดินเท้าของผม เพื่อการรณรงค์ลดการทิ้งขยะ จะได้ผล หรือไม่ได้ผล ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรนัก
เพียงการเดินเท้าของผมอย่างน้อยก็ได้เป็นการเดินออกกำลังกาย ในเวลาที่ผมสะดวกและว่าง เพราะการเดินเท้าแต่ละครั้ง จะใช้เวลาทั้งขาไปและขากลับรวมกันประมาณ 3-4 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
การเดินเท้านั้นมีข้อดี คือ จะได้เห็นสิ่งต่างๆเยอะมาก มีเวลาแวะถ่ายรูปต่างๆตามเส้นทางที่สามารถถ่ายได้ และเดินเข้าไปถ่ายได้
นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินเท้าครั้งแรก
ต้องมีไม้ไว้ป้องกันสุนัข
ผมเลือกออกเดินเท้าในช่วงเวลาบ่าย ๆประมาณ 15:00 น. หรือ 16:00 น. โดยออกเดินไป และกะช่วงเวลากลับให้ถึงที่พักประมาณ 20:00 น หรือ 21:00 น.
การเดินเท้าก็ไม่ได้เร่งรีบเดินแต่อย่างใดเดินไปเรื่อยๆ
มีน้ำดื่มใส่เป้ไปพร้อมทั้งมีร่ม 1 คันเผื่อฝนตก
ผมเดินเท้าอยู่บริเวณใกล้ๆที่พักที่บางปะกงนี้หลายครั้ง
เดินไปเกือบครบทุกเส้นทางแล้ว ในคืนหนึ่งผมเห็นคลิปวีดีโอที่บอกว่ามีโรงแรมราคา 50 บาท อยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี
ผมจึงต้องการเปลี่ยนอารมณ์ไปเดินเท้า ที่สิงห์บุรีบ้าง
ขึ้นรถไฟไปเดินเท้า ที่จังหวัดสิงห์บุรี
จึงได้ค้นหาข้อมูลตารางเวลาเดินรถไฟจากสถานีกรุงเทพฯหัวลำโพงไปยังจังหวัดสิงห์บุรี
ค้นหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ พบว่าไม่มีรถไฟไปที่ไปจังหวัดสิงห์บุรี มีรถไฟไปลงที่ลพบุรีแล้วต้องต่อรถโดยสารไปยังจังหวัดสิงห์บุรี
ผมจึงไปขึ้นรถไฟที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทราไปลงที่สถานีกรุงเทพหัวลำโพง ค่ารถไฟ 13 บาท
เพื่อไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง จะไปลงที่สถานีลพบุรี
ค่ารถไฟจากหัวลำโพง ไปลพบุรี 28 บาท
ผมมีข้อมูลแล้วว่าผมต้องนั่งรถไฟจากสถานีกรุงเทพฯ - หัวลำโพง ไปลงที่สถานีลพบุรี ราคาค่ารถไฟโดยสารชั้น 3 จากสถานีกรุงเทพหัวลำโพงไปถึงลพบุรี 28 บาท
รถไฟไปถึงสถานีลพบุรีก่อน 13:00 น.
ผมจึงมีเวลาเดินเยี่ยมชมพระนารายณ์ราชนิเวศน์และพิพิธภัณฑ์ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์อยู่พักใหญ่
แล้วจึงไปที่สถานีขนส่งจังหวัดลพบุรี เพื่อนั่งรถโดยสารธรรมดาไปยังจังหวัดสิงห์บุรีค่าโดยสาร 25 บาท
รถโดยสารลพบุรี สิงห์บุรี
รถโดยสารจากสถานีขนส่งลพบุรี ออกประมาณ 4 โมงเย็น
ผมไปลงที่สถานีขนส่งสิงห์บุรีประมาณบ่าย 5 โมงครึ่ง
แล้วผมก็เดินไปยังโรงแรมราคา 50 บาท
โรงแรมสันติสุข ที่ตัวเมืองสิงห์บุรี อายุกว่า 80 ปี
ผมเดินไปถึงที่หมาย คือ โรงแรมสันติสุข ที่จังหวัดสิงห์บุรี
จะอยู่ห่างจากสถานี บขส. ประมาณ 700 เมตร ค่าที่พักที่โรงแรมแห่งนี้ราคา 50 บาทจริงๆ
แต่หลังจากที่ออกในสื่อโซเชียลแล้ว พนักงานบอกว่าห้องพักเต็มทุกวันเลย คืนนั้นผมจึงไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมสันติสุขแห่งนี้ที่ราคา 50 บาท
จึงเดินไปพักที่อพาร์ทเม้นท์รายวันที่อยู่ตรงข้ามกับศาลหลักเมืองจังหวัดสิงห์บุรีในราคา 350 บาท
ศาลหลักเมืองสิงห์บุรี
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมา ผมอาบน้ำแต่งตัว โดยมีความตั้งใจว่าจะไปวัดโฆสิตาราม หรือไม่ก็วัดพระนอนจักรสีห์
จึงเดินข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามเพื่อไปไหว้ศาลหลักเมืองสิงห์บุรีก่อน และได้ถามกับน้องที่ศาลหลักเมืองฯ ว่ามีรถโดยสารไปยังวัดโฆสิตาราม หรือวัดพระนอนจักรสีห์สายไหนบ้าง หรือไม่
น้องที่ศาลหลักเมืองบอกว่า ไม่มีรถโดยสารไป หากจะไปต้องเหมารถมอเตอร์ไซค์วินไป
ผมจึง search ดูระยะทางจาก google map พบว่าระยะทางจากศาลหลักเมืองสิงห์บุรีไปยังวัดโฆสิตารามมีระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร
เดินไปวัดพระนอนจักรสีห์ 5.8 กิโลเมตร
ระยะทางจากศาลหลักเมืองสิงห์บุรี ไปยังวัดพระนอนจักรสีห์เป็นระยะทาง 5.8 กิโลเมตร
ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 10:00 น. โมงกว่าเล็กน้อย
เป็นวันที่แดดร้อนแรงมากพอสมควร
เป็นครั้งแรกที่ผมต้องเดินเท้า และกางร่มเพราะว่าแดดร้อนมาก ระยะทางที่เดินไปวัดพระนอนจักรสีห์เป็นระยะทางประมาณ 5.8 กิโลเมตร
ผมเริ่มออกเดินประมาณ 10 โมงกว่า และได้แวะซื้อครีมกันแดดที่ร้านสะดวกซื้อแถวๆใกล้ๆกับศาลหลักเมือง
แล้วเดินไปเรื่อยๆ ก่อนถึงวัดพระนอนจักรสีห์จะมีสถานีบริการน้ำมันจึงได้แวะนั่งพักเหนื่อย พักทานน้ำ เข้าห้องน้ำที่สถานีบริการน้ำมันนี้
ก่อนถึงวัดพระนอนจักรสีห์ 2 กิโลเมตร
เดินมาท่ามกลางแสงแดด และอากาศที่ร้อนมากพอสมควร
อากาศก็ร้อนมากพอสมควร น่าจะจริงที่น้องบอกว่าไม่มีรถโดยสารเพราะผมเดินมาได้สักพักใหญ่แล้ว ไม่มีรถโดยสารผ่านไปและผ่านมาเลย
ได้แวะนั่งพักดื่มน้ำนั่งพักร้อน และเข้าห้องน้ำที่สถานีบริการน้ำมัน ก่อนถึงวัดพระนอนจักรสีห์ประมาณ 2 กิโลเมตร
ครั้งแรกที่เดินฝ่าแดดที่ร้อนมากพอควร ต้องกางร่ม
ผมเริ่มเดินออกจากศาลหลักเมืองสิงห์บุรีประมาณ 10 โมงกว่า และมาแวะนั่งพักที่สถานีบริการน้ำมันก่อนถึงวัดพระนอนจักรสีประมาณ 2 กิโลเมตร และออกเดินเท้าต่อถึงวัดพระนอนจักรสีห์ประมาณก่อน 13:00 น
ถึงวัดพระนอนจักรสีห์ หาร่มไม้ใหญ่นั่งพัก ใกล้กับห้องน้ำที่วัด ต้องถอดเสื้อออกตาก ผึ่งเลยครับ เพราะว่าเหงื่อท่วมเสื้อเปียก
รอสักพักใหญ่จนกว่าเสื้อจะหายเปียกจริงได้สวมเสื้อเข้าไปในวิหารพระนอนเพื่อกราบพระนอนขอพร
ตามเส้นทางจากศาลหลักเมืองสิงห์บุรีไปยังวัดพระนอนจักรสีนี้ มีความแตกต่างจากเส้นทางแถวๆจังหวัดฉะเชิงเทราและตัวอำเภอบางปะกง
คือ พบเห็นขยะต่างๆในปริมาณที่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี
วันนั้นผมกราบขอพรพระนอนที่วัดจักรศรี และนั่งพักผ่อนจนรอถึงประมาณ 5 โมงเย็น จึงได้เดินกลับออกมาหาของทานเล่นที่ตลาดนัดที่วัดพระนอนจักรสีห์
และเดินเท้ากลับมายังที่พัก ที่เดิมมาถึงที่พักประมาณ 19:00 น
ก่อนจะถึงที่พัก สักพักนึง ผมได้โทรไปจองห้องพักไว้ก่อน น้องพนักงานต้อนรับบอกว่าถ้าไม่โทรมาจองก่อน ห้องเต็มเหลือเป็นห้องสุดท้าย
โรงภาพยนตร์ในตำนานของสิงห์บุรี
พอมาถึงที่พัก ก่อนเข้าห้องพักผมก็ได้สอบถามน้องพนักงานต้อนรับอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีรถโดยสารไปยังวัดพระนอนจักรสีห์จริงๆ
น้องพนักงานต้อนรับได้ตอบยืนยันว่า ไม่มีรถโดยสารแล้ว
ปัจจุบันผู้คนมีรถยนต์ และใช้มอเตอร์ไซค์กันทุกบ้านรถโดยสารระยะสั้น จึงหมดความสำคัญและเลิกวิ่งไป
ผมนอนพักแรมที่สิงห์บุรีอีก 1 คืน คืนนั้นประมาณ 21:00 น กว่าผมเดินออกไปที่ร้านสะดวกซื้อที่สถานีบริการน้ำมันที่กลางเมืองสิงห์บุรีเลย
พบว่าสิงห์บุรีเป็นเมืองที่สงบมากๆ 3 ทุ่มกว่านี่เงียบมากแทบไม่มีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาเลย
ก๋วยจั๊บในตลาดสิงห์บุรี อร่อยนะ 25 บาท
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็เดินออกมาถ่ายรูปเก็บรูปตามทางเพื่อจะไปที่ บขส.สิงห์บุรี
พบร้านรถเข็นขายก๋วยจั๊บ จึงได้อุดหนุน เป็นก๋วยจั๊บที่คุณภาพดี รสชาติใช้ได้ ราคามิตรภาพ 25 บาทเอง
หลังจากนั้นผมก็เดินไปที่สถานีรถ บขส.
โดยได้เช็คตารางเวลาที่จะไปขึ้นรถไฟที่ลพบุรีแล้ว
พบว่าในขณะที่ผมเดินไปที่สถานี บขส.ไม่มีรถโดยสารที่ไปจังหวัดลพบุรีแล้วเวลาสัมพันธ์ กับรถไฟที่จังหวัดลพบุรี
มีรถตู้โดยสารขนาดกลาง ที่กำลังจะออกจากสิงห์บุรีไปกรุงเทพฯพอดี ผมจึงขึ้นรถตู้มาลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน MRT ที่จตุจักร
นั่งรถตู้มาลงที่สถานีรถไฟใต้ดินจตุจักร แล้วต่อรถไฟใต้ดินมายังสถานีหัวลำโพง
ต่อรถไฟโดยสารธรรมดาจากหัวลำโพง มายังชุมทางฉะเชิงเทรา กลับมาถึงที่พัก ที่บางปะกงโดยสวัสดิภาพ
สรุป ทริปนี้ 2 คืนผมได้ไปเยี่ยมชมพระนารายณ์ราชนิเวศน์และพิพิธภัณฑ์จังหวัดลพบุรี รวมถึงได้ไปเห็นว่ามีโรงแรมราคา 50 บาทอยู่จริงๆ ถึงแม้ไม่ได้พักเพราะว่าโรงแรมเต็ม
และได้เดินเท้าที่จังหวัดสิงห์บุรี ไปยังวัดพระนอนทั้งไปและกลับ รวมระยะทางเดินเท้าทั้งไป และกลับประมาณ 12 กิโลเมตร นับได้ว่าเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ในการไปเปลี่ยนสถานที่เดินเท้า
ได้เปลี่ยนสถานที่เดินเท้าตามที่ตั้งใจ และพบว่าระหว่างทางที่เดินไป พบเห็นขยะน้อยมาก ขอชื่นชมชาวจังหวัดสิงห์บุรี ครับ
ท่องเที่ยว
ลาออกไปเช็กอิน
สิ่งแวดล้อม
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย