ผวาเจอ "หมึกสายวงน้ำเงิน" ในร้านปิ้งย่าง โซเชียลช่วยยืนยัน "บลูริง" ของแท้
คอมเมนต์เอกฉันท์ ลูกค้าเจอ "หมึกสายวงน้ำเงิน" ในร้านปิ้งย่าง โซเชียลแห่ยืนยันคือ "หมึกบลูริง" ของแท้ ด้าน อ.เจษฎ์ เตือน ห้ามกินเด็ดขาด แม้จะผ่านความร้อนมาแล้ว
วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก ได้ถามลงในกลุ่ม นี่ตัวอะไร และกลุ่ม siamensis.org เพื่อสอบถามว่า ปลาหมึกในภาพ ใช่ "หมึกบลูริง" หนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกหรือไม่
พร้อมกับอธิบายเหตุการณ์ว่า เพื่อนตนเองและแฟนนั้น เจอหมึกดังกล่าวที่ร้านอาหารปิ้งย่างแห่งหนึ่งตนเองจึงบอกเพื่อนว่า จบมื้อนี้ให้ไปหาหมอ และแจ้งกับทางร้าน แต่ร้านกลับริบจานหมึกดังกล่าวไป บอกว่าไม่ใช่ ปฏิเสธว่า ต้องสีฟ้า เพราะมี QC ตรวจสอบ สักพักเดินมาบอกเพื่อนตนว่า เอาไปทิ้งแล้ว
สำหรับหมึกตัวดังกล่าวนั้น เพื่อนกับแฟนเพื่อนไม่ได้กิน เพราะเห็นว่าแปลกจึงคีบแยกไว้ แต่ก่อนหน้านี้กินไปหนึ่งตัว จึงไม่มั่นใจว่าใช่แบบเดียวกันหรือไม่ ทั้งคู่จึงพากันไปโรงพยาบาล แล้วพบอาการผิดปกติ คือ เพื่อนตนเริ่มอาเจียน ส่วนแฟนเขาแน่นหน้าอก และต้องเฝ้าระวังอาการ คาดว่าอาจจะเพราะนำตะเกียบที่คีบหมึกตัวดังกล่าว มากินอาหารอย่างอื่นต่อ
เนื่องจากหมอระบุตรงๆ ไม่ได้ เพราะไม่มีตัวอย่างอาหารมาให้ดูโดยตรง ต่อมาแม่เพื่อนคนดังกล่าว ก็ได้โทรติดต่อร้านไปแล้ว ซึ่งทางร้านเสนอรับผิดชอบ และติดต่อประมงเรียบร้อย ส่วนอาการล่าสุดของทั้งคู่ ยังมีปวดหัวนิดๆ แต่ต้องรอดูว่ามีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ
ทั้งนี้ ทางเจ้าของโพสต์ยังบอกอีกว่า ตนไม่อยากเอ่ยชื่อร้านโดยตรง ต้องย่อไว้ก่อน เพราะไม่ใช่เจ้าตัว ไม่อยากวุ่นวายมาก กลัวร้านหรือมีคนแฝงตัวมาคุกคาม แต่ขอฝากทิ้งท้ายนะครับ ธุรกิจที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า
เมื่อผิดพลาดไม่ยอมรับและแก้ไข วันนึงคนจะขุดรากถอนโคนเอาได้ อีกข้อในตลาดบ้านเราส่วนแบ่งธุรกิจประเภทนี้ก็มีเยอะนะ ไม่ได้มีคุณใหญ่ค้ำฟ้าเจ้าเดียว ผู้บริโภคเขารับรู้และเลือกทานได้ ผู้บริโภคหลายๆ คนไม่ได้ให้คุณลูบหลังง่ายๆ แบบเคสนี้หรอก
ป.ล.จริงๆ โทษทั้งธุรกิจก็คงเกินไป ควรตำหนิและเน้นพนักงานว่าได้รับการเทรนแผนงานมายังไง ถึงได้ทำสิ่งที่ไม่น่าทำกับลูกค้า ธุรกิจควรพิจารณาปลดออก หรือพักงานก็ดี บุคลากรแรงงานมีในตลาดเยอะ รับคนใหม่ๆ ทัศนคติดีๆ มาทำงานดีกว่า ผมเชื่อว่าสังคมให้โอกาสแน่นอน
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นยืนยันว่า หมึกตัวที่เห็นนั้น คือ "หมึกบลูริง" แน่นอน
ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ก็ได้มาแสดงความคิดเห็นว่า คอมเมนต์เสียงเป็นเอกฉันท์ มันคือ blue-ringed octopus หมึกสายวงน้ำเงิน ที่มีพิษร้ายแรงครับ ห้ามนำมาบริโภคเด็ดขาด แม้ว่าจะนำไปประกอบอาหารผ่านความร้อนแล้วก็ตาม เพราะสารพิษของมันทนความร้อนสูงได้.
อย่างไรก็ตาม คุณโจ เจ้าของโพสต์ ได้ให้ข้อมูลกับ "ไทยรัฐออนไลน์" เพิ่มเติมว่า ล่าสุดทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาล และกลับบ้านแล้ว กับร้านก็คุยจบกันด้วยดี เสนอจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ เพราะแม่เขาอยากให้จบเรื่อง เดินเรื่องมาทั้งวันแล้วคงเหนื่อย เข้าใจท่าน
ส่วนโพสต์ตนไม่ได้ลบ จะเก็บเป็นเคสตัวอย่างให้สังคมดูพฤติกรรม ผู้จัดการสาขานั้นกันเอง พร้อมฝากถึงธุรกิจประเภทเดียวกัน หรืออื่นๆนะครับว่า ถ้ามีเหตุการแบบนี้ แนะนำว่าให้รับผิดชอบลูกค้าตั้งแต่ ผู้จัดการในสาขาเลย ไม่ใช่เอาเปรียบลูกค้า จนเรื่องบานปลายไปถึงผู้บริหาร
ถ้าร้านสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้ ด้วยการรับผิดชอบแต่ต้น ทุกอย่างจะจบสวยกว่านี้ แป๊บๆคนก็ลืม ไม่มีใครต้องเสียหาย ขอบคุณทีมไทยรัฐที่ รับฟังผู้บริโภคคนหนึ่ง ที่อยากให้เพื่อนใช้สิทธิจนถึงที่สุด เพราะถ้าเสียชีวิตไป แล้วทุกอย่างคงแย่กว่านี้ ต่างประเทศเขาไม่ลับลมคมในแบบนี้หรอก
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊กกลุ่ม นี่ตัวอะไร, siamensis.org
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
