3 ก.ย. 2023 เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์

ชาจีน 'ต้าหงเผา' แพงที่สุดในโลก ราคาเกือบ 42 ล้านบาท/กก. ที่สุดของชาพรีเมียม

#ชาพรีเมียม วัดกันที่ตรงไหน? ถ้าข้อบ่งชี้คือเรื่องราคา ก็รับประกันได้ว่า ชาจีน “ต้าหงเผา” คือที่สุดของความพรีเมียมหรูหรา เพราะราคาแพงระยับ กิโลกรัมละเกือบ 42 ล้านบาท!
ช่วงนี้เมนู #บิงซูชาไทย น่าจะฮอตฮิตเป็นพิเศษ เหตุเพราะดราม่า ‘ปังชา’ ยังร้อนแรง มีการวิพาษ์วิจารณ์ในหลากหลายประเด็นทั้งเรื่องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า, ทะเบียนสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์, โลโก้ และรูปวาดต่างๆ ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าของแบรนด์ก็ได้ออกมาขอโทษไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบผ่านสื่อต่างๆ และได้เคลียร์รายละเอียดกันไปหลายส่วนแล้ว
แต่อีกหนึ่งประเด็นที่มีการพูดถึงเช่นกันก็คือ “ชาพรีเมียม” คุณภาพดีที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในเมนูปังชา เมื่อนำมาเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคราต่างๆ ทำให้เมนูนี้ขายในราคาเกือบ 400 บาท (รวมค่าเซอร์วิสชาร์จ) จนมีหลายคนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมชาพรีเมียมถึงมีราคาแพง และความพรีเมียมนั้นดูจากอะไร?
เรื่องนี้มีข้อมูลจากทั้งจาก “กรมวิชาการเกษตร” และจากหลายแหล่งระบุตรงกันว่า ชาคุณภาพดีเกรดพรีเมียมนั้น มีปัจจัยการวัดผลที่ละเอียดยิบย่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์จากต้นแม่ที่ดี, วิธีการปลูก (ปลูกแบบออร์แกนิก/แบบอินทรีย์), ระดับความสูงในการปลูก (ควรสูงที่ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป), ฤดูกาลในการปลูก, ฤดูกาลเก็บเกี่ยว, วิธีการเก็บใบชา (ยอดตูม/ยอดอ่อน), วิธีการหมักใบชา, วิธีการทำแห้ง, วิธีคัดใบชา, วิธีการเก็บรักษา ฯลฯ
โดยเฉพาะกระบวนการเก็บเกี่ยวและการผลิตนั้นสำคัญมาก กล่าวคือ ต้องเก็บจากยอดชาอ่อนเท่านั้น (1 ยอดกับ 2 ใบแรก) โดยเฉลี่ยจะเก็บยอดชา 10 วันต่อครั้ง เก็บเกี่ยวยอดชาในเวลาประมาณ 05.00-14.00 น. ระหว่างเก็บเกี่ยว ต้องทยอยนำส่งโรงผลิตทันทีหลังเก็บภายในไม่กี่ชั่วโมง เพื่อให้ใบชาคงความสดใหม่ ส่วนกระบวนการผลิตต้องได้มาตรฐาน (ควบคุมความชื้น อุณหภูมิ กลิ่น) หากการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้ชาเสื่อมคุณภาพลง
2
จากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา ยิ่งควบคุมปัจจัยเหล่านั้นได้ดีเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ชาที่มีคุณภาพสูง ซึ่งทำให้ “ใบชาแห้ง” มีราคาแพงสูงตามไปด้วย ดังนั้นจึงอาจพูดได้ว่าใบชาที่ราคาแพง ก็คือ ชาคุณภาพดีระดับพรีเมียม ซึ่งในโลกนี้มีชาพรีเมียมชื่อดังจริงๆ อยู่ไม่กี่ชนิด
โดยชนิดที่ “แพงที่สุดในโลก” และได้รับการยอมรับในวงการชาพรีเมียมมาทุกยุคทุกสมัย คงหนีไม่พ้น “ชาต้าหงเผา” (大红袍 ; Da-Hong Pao) ที่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 41.9 ล้านบาท! (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 31 ส.ค.66)
ต้าหงเผา ถูกยกย่องให้เป็น “ราชาแห่งชาอู่หลง” มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศจีน เพราะมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนกลิ่นควันไฟผสมผสานกับน้ำผึ้งหรือลูกพีช มีรสชาติคล้ายบรั่นดีทว่านุ่มละมุนลิ้น นิยมปลูกมากที่แถบเทือกเขาอู่อี๋ซาน ของมณฑลฝูเจี้ยน สูงจากระดับน้ำทะเล 2,158 เมตร นับเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้หลักของมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดน “ต้นกำเนิดของชาอู่หลง”
ทั้งนี้ ชาอู่หลงเป็นชาจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปีนับตั้งแต่สมัยราชวงค์ฮั่น และถูกแบ่งย่อยออกเป็น 5 ชนิดหลัก ได้แก่ ชาต้าหงเผา ชาเถี่ยกวนอิน ชาสุยเซียน ชาหล่อฮั่นเฉินเซียง และชาแดง โดยชาต้าหงเผาเป็นชาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด และมีราคาแพงที่สุด
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ชาต้าหงเผามีราคาแพงที่สุดในโลกนั้น ก็เนื่องมาจากเป็นชาสายพันธุ์ดีเยี่ยมจากต้นชาแม่พันธุ์ที่มีเพียง 6 ต้นในโลก (ว่ากันว่าเป็นต้นชาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ) ซึ่งทุกต้นมีอายุมากกว่า 350 ปี ในแต่ละปีผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นดังกล่าว มีไม่ถึง 100 กรัมเท่านั้น จึงกลายเป็นสินค้าแรร์ไอเทม หายาก คุณภาพสูง จึงทำให้ราคาดีดไปไกลถึงหลักล้านดอลลาร์ กลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่ทางการจีนหวงแหน
โฆษณา