Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
8 ก.ย. 2023 เวลา 11:21 • ข่าวรอบโลก
สงครามยาจก…
สงครามรัสเซีย ยูเครน รอบนี้ค่อนข้างแปลกกว่า
สงครามใหญ่อื่นๆ ในหลายแง่
แต่ที่น่าเสียดายที่สุด
คือ เราแทบไม่ได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆเลย
โดยเฉพาะจากรัสเซีย ที่ดูว่าน่าจะมีทีเด็ดมากกว่านี้
ก็ไม่ได้โชว์ของอะไรอีก หลังจาก คินซาร์ ไอเปอร์โซนิค
พ่ายแพ้ให้กับการแทรกแซงระบบนำร่อง
แล้วต้องเก็บเงียบไปเลย
…มันกลับตรงกันข้าม ด้วยซ้ำ…
มันกลายเป็นว่า สงครามครั้งนี้ แข่งกันโลว์เทคซะงั้น
รัสเซียไปเอาโดรนถูกๆ จากอิหร่านมาใช้
เข้ามั่งไม่เข้ามั่งช่างมัน อาศัยว่าถูก
ส่วนยูเครนยิ่งหนักเลย อาวุธแฮนด์เมดก็เยอะ
เอาของเก่ามาปัดฝุ่นใช้ก็มาก
…นี่ล่าสุด ทางออสเตรเลีย ให้แบบโดรนที่ทำจาก
ลังกระดาษมันซะเลย แถมเดี๋ยวส่งกระดาษไปช่วยด้วย
ประหยัดสุดๆ 555….
กับยูเครน มันไม่น่าแปลกใจอะไร
พวกเขาไม่ใช่ประเทศร่ำรวยอะไรอยู่แล้ว คอรัปชั่นก็ขึ้นชื่อ
ก่อนสงครามพวกเขาก็จนกว่าไทยเราซะอีก
สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด คือ เรื่องเงินสนับสนุนจากตะวันตก
ที่ให้ยูเครนนั้น มันไม่ได้มากอย่างที่คิดกัน
เอาเฉพาะที่เป็นเงินนะ ต้องถือว่า น้อยมากเทียบกับสถานการณ์
แต่ที่บอกกันเป็นตัวเลขแล้วดูว่ามากๆนี่
มันคือ มูลค่าของสิ่งต่างๆที่ให้ไป
เช่น มูลค่าอาวุธ มูลค่าน้ำมันเขื้อเพลิง และอื่นๆ
รวมๆถึงตอนนี้ก็ประมาณ 3 ล้านล้านบาท
ย้ำ ว่าบาทไทย
ก็คือประมาณงบประมาณประเทศไทยนี่แหละ
และเงินส่วนมาก ก็คือ ต้องใช้กับภาคประชาชนมากกว่า
เช่น การซ่อมแซมโรงไฟฟ้า ถนน เขื่อน
ซื้ออาหาร พลังงานเองบ้างเป็นบางส่วน
เงินมันหมดกับเรื่องพวกนี้ มากกว่าที่จะไปถมที่กองทัพ
ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนี้ ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อย
เชื่อว่าที่เศรษฐกิจยุโรปไม่ดี เพราะส่งมาช่วยยูเครนมากเกินไป
ซึ่งความจริงไม่ใช่ แต่มันเป็นผลที่ต่อเนื่องมาจากโควิด
และราคาอาหาร และพลังงาน ที่พุ่งขึ้นสูงมากกว่า….
…และสามล้านล้านบาท มันก็ไม่ได้มากอะไรนัก ถ้าเทียบกับ
ขนาดเศรษฐกิจของพวกเขา ต้องไม่ลืม ว่าสหรัฐจ่ายเยอะสุด
ที่เหลือแชร์ๆ กัน มันไม่มากมายอะไรนักเลย กับเงินแค่นี้….
( ส่วนอังกฤษ ที่หลายคนกำลังพูดถึงมาก เพราะการล้มละลาย
ของเมือง Bermimgham นั้น เป็นผลต่อเนื่องจาก BEXIT ด้วย
จึงรุนแรงกว่าที่อื่น ไว้มาโม้ให้ฟังครับ )
…ดังนั้น กองทัพยูเครน จึงใช้ของมือสอง หรืออาวุธเกรด B
ที่รอปลดประจำการจากค่ายตะวันตกซะมากกว่า เราจึงไม่เห็นอาวุธไฮเทคอะไรใหม่ๆ จากพวกเขา …
…และด้วยเงินที่น้อย อาวุธแบบง่ายๆ โลว์เทค มันจึงจำเป็นต้องใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณนั่นเอง….
แต่รัสเซียเนี่ย แปลก
เพราะน่าจะมีของไฮเทคเก็บไว้ในคลังเยอะ
แต่เรากลับไม่เห็นอะไรเลย นอกจากไฮเปอร์โซนิคมิไซล์
มันอาจเป็นไปได้ว่า ว่าเพราะรูปแบบการรบ ที่ส่วนมากเป็น
การรบด้วยทหารราบในเมืองนั้น มันไม่มีความจำเป็นต้องใช้
หรือ ใช้ได้ลำบาก รุนแรงไป ก็โดนพวกเดียวกัน
หรือ ทางงรัสเซียอาจมองว่า การเอาของแพงไปเสี่ยง
หรือใช้ไปหมดกับยูเครน หากสงครามบานปลาย
ก็จะไม่เหลือไว้ใช้กับชาติที่แข็งแกร่งกว่านี้ ก็เลยต้องกั๊กไว้
มันก็เป็นไปได้นะ ถ้าเรามองว่ารัสเซียเป็นฝ่ายรุกอย่างเดียว
ปัญหาคือ ขีดความสามารถการป้องกันตัวเอง
ของพวกเขา มันต่ำจนเหลือเชื่อ
จนไม่ได้มีคราบของกองทัพที่ไฮเทคหลงเหลือเลย
…โดรนเน่าๆของยูเครนไปได้ถึงมอสโคว์งี้ ระบบป้องกันภัย
ทางอากาศของพวกเขา ดูจะพึ่งพาไม่ได้เลย…
…เสียเรือรบไปแล้วอย่างน้อยสามลำ ทั้งที่ไม่มีการรบบนทะเล
ให้แก่อาวุธถูกๆจากยูเครน และจรวดมือสองจากอังกฤษ…
สิ่งเหล่านี้ มันทำให้น่าสงสัยมาก ถึงขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของรัสเซียเอง ว่าถ้าต้องเจอกับของเกรดเอจริงๆ
จากสหรัฐ พวกเขาจะเอาอยู่เหรอ ?…
บางกระแสบอกว่า ในอาวุธรัสเซียที่ไฮเทคนั้น
ไส้ในอาศัยส่วนประกอบจากค่ายตะวันตกเยอะมาก
โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
เมื่อถูกคว่ำบาตร ทำให้เกิดการขาดแคลน ไม่มีการซ่อมบำรุง
ที่ดีพอตามระยะเวลา ทำให้ประสิทธิภาพนั้นด้อยลงไป
และเมื่อไม่สามารถผลิตเองได้ในตอนนี้ หรือของจีนก็ยัง
แทนทันทีไม่ได้ เพราะระบบวงจรรวมออกแบบต่างออกไป
นั่นย่อมทำให้พวกเขาต้องเก็บเอาไว้ ไม่เอาออกมาใช้
เผื่อสงครามบานปลายขยายวงนั่นเอง….
( เรื่องนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายชาติ ที่มีเครื่องบินรบรัสเซียในครอบครอง พวกเขาพบว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทแทบทั้งหมด เป็นของ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน )
ซึ่งก็เป็นไปได้เหมือนกัน
ดังนั้น ทาง ออกของรัสเซีย จึงกลายเป็นว่า
ต้องมาเล่นอาวุธโลว์เทค แข่งกับยูเครน
ทำให้ความได้เปรียบมันน้อยลงมาก
จนเก็บฉากไม่ลงจนถึงปัจจุบัน อย่างที่เราเห็นกัน
ตามปกติแล้ว สงครามจะเป็นตัวกระตุ้นเทคโนโลยี
ให้แก่มนุษยชาติ ที่มากที่สุด
โดยเฉพาะถ้าคู่ขัดแย้ง มีระดับเทคโนโลยีสูงทั้งคู่
เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สอง
ที่นาซี มีเทคโนโลยีเหนือกว่าอเมริกา
อเมริกาจึงต้องเร่งพัฒนา เพื่อไล่ตาม
ทำให้เทคโนโลยีในแทบทุกด้าน ก้าวกระโดด
และอยู่กับเรามาจนถึงปัจจุบัน
คำว่า “น่าเสียดาย” ต้นบทความนั้น
ไม่ได้หมายความว่า เสียดายที่ไม่ได้เห็นเทคโนโลยี
ในการที่จะฆ่ากันได้ที่ลัมากๆ อย่างรุนแรง
แต่หมายถึงว่า ไม่เห็นสัญญาณของเทคโนโลยี
ที่มันอาจจะหลุดออกมาเป็นประโยชน์กับมนุษย์ได้เลย
ในอนาคต เมื่อสงครามจบลง
มันจึงน่าเสียดาย ในความหมายลักษณะนี้
แต่ถ้าจะบอกว่ามีการแข่งขันทางเทคโนโลยีไหม
มันก็มีนะ แต่อยู่นอกสมรภูมิ
เช่น การแข่งขันกันพัฒนาด้านพลังงานทดแทน
เพื่อลดความเสี่ยง
หรือการที่จีนพยายามไล่ตามเทคโนโลยีนาโน หรือชิพต่างๆ
ซึ่งสองส่วนนี้ คิดว่าอนาคต จะมีประโยชน์กับโลกมาก
…คือ สงครามมีผลในทางอ้อม ในการพัฒนาเทคโนโลยี
แต่กับคู่ขัดแย้งโดยตรงนั้น หาสาระอะไรกับตรงนี้ไม่ได้เลย
…น่าเสียดายมาก คนตายเปล่าแท้ๆ….
2
ภาพจาก The Telegraph
ข่าว
https://www.businessinsider.com/ukraine-is-using-a-cheap-flat-pack-cardboard-drone-australia-2023-8
1
ที่ไม่แปะลิ้งค์ Telegraph. โดยตรงเพราะมันเสียตังอ่านครับ
เอาอันนี้แทนแล้วกัน เนื้อหาใกล้เคียงกัน
…ที่จริงผมตามข่าวสงครามทุกวันแหละ แต่ขี้เกียจเขียน
ผมมันติ่งตะวันตก เสพแต่แหล่งข่าวพวกนี้ เดี๋ยวจะไปเหยียบหางใครเข้า โดนด่าอีก 🤣🤣🤣🤣 ….
ข่าวรอบโลก
russia
ยูเครนรัสเซีย
บันทึก
20
25
2
20
25
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย