“ผมเป็นคนหูหนวกมาตั้งแต่เกิด
พออายุสิบกว่าถึงเริ่มได้ยินบ้าง หมอเคยบอกว่าถ้าอยากได้ยินมากขึ้นต้องผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม แต่ครอบครัวของผมไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น เลยต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าเทียบกับคนหูดี ผมน่าจะได้ยินสัก 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องมาพูดใกล้ๆ ด้วยเสียงดังๆ ชีวิตวัยเด็กของผมอยู่จังหวัดตาก เข้ามาเรียนโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดชลบุรี ฝึกใช้ภาษามือที่นั่น เวลาผ่านไปก็เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ตอนนี้ขับแกร็บมา 3 ปีแล้วครับ
“เวลาคนหูหนวกไปสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ หลายคนเลยที่สอบข้อเขียนไม่ผ่าน เพราะอ่านข้อสอบแล้วไม่เข้าใจทั้งหมด ทำให้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ พอถึงการสอบปฏิบัติ คนหูหนวกต้องจองล่ามไปช่วยสื่อสาร เวลาขับอยู่บนถนน คนหูดีได้ยินเสียงแตร แต่คนหูหนวกต้องสังเกตสัญญาณไฟ อย่างผมเป็นคนหูตึง ยังได้ยินบ้างเล็กน้อย แต่ก็ต้องใช้สายตามาช่วยสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วย ถ้าเทียบกับสอบข้อเขียนแล้ว ผมว่าสอบปฏิบัติง่ายกว่านะครับ
“ครอบครัวของผมค่อนข้างยากจน ข้อดีของการขับแกร็บคือมีรายได้ทุกวัน ทำให้ผมมีเงินหมุนใช้และส่งไปช่วยครอบครัวด้วย ช่วงแรกผมขับเต็มเวลา วันไหนทำเยอะๆ ก็รายได้ดีเลยครับ แต่ทำแบบนั้นจะเหนื่อยเกินไป ผมเลยเปลี่ยนมาขับไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมงเพื่อให้ตัวเองได้พักด้วย ตอนนี้ผมเพิ่งเข้าเรียนปี 1 คณะคหกรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ผมมองว่าการเรียนสำคัญที่สุด ถ้าวันไหนมีเรียนหรือมีการบ้านก็ขับน้อยลง ยังดีที่มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาให้เป็นรายเดือนด้วย
“ปัญหาของคนหูหนวกที่มาขับ Grab คือการสื่อสารกับลูกค้าหูดี ผมจะพิมพ์แจ้งตลอดว่า ‘ผมเป็นคนหูหนวกนะครับ’ แต่ลูกค้าบางคนกดสั่งแล้ววางโทรศัพท์ทิ้งไว้ ทำให้การสื่อสารไม่ต่อเนื่อง เมื่อก่อนผมหงุดหงิดตัวเองนะครับ ถ้าเป็นคนหูดี คงโทรคุยแป๊บเดียว แต่ทำไปสักระยะก็เริ่มชิน สิ่งที่ผมอยากขอร้องคือ อยากให้คนหูดีช่วยอ่านข้อความด้วย นอกจากพิมพ์สื่อสารแล้ว บางครั้งผมก็ใช้แอปล่ามภาษามือทางออนไลน์มาสื่อสารกับลูกค้าด้วย
“พอการสื่อสารติดขัด ลูกค้าบางคนได้รับของช้าก็ต่อว่า ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ใส่แมสก์กัน ผมเลยอ่านปากไม่ได้ จับได้แค่สีหน้า แต่รู้เลยว่าโกรธ รู้เลยว่าคงกำลังต่อว่า ผมพยายามใจเย็น ยื่นของให้ แล้วขับออกมา แต่ลูกค้าแบบนั้นถือว่าเป็นส่วนน้อยนะครับ ส่วนใหญ่ผมเจอแต่ลูกค้าใจดี พอไปส่งของให้บ่อยๆ เขาจำผมได้ก็ให้น้ำฟรีหรือให้ทิปเพิ่ม บางคนส่งข้อความมาบอกว่า ‘ให้กำลังใจนะ’ ‘ขอให้ปลอดภัยนะ’ ผมดีใจและมีความสุข ยิ้มได้ เป็นกำลังใจให้เราตั้งใจทำงานด้วยครับ
“ข้อดีของการขับแกร็บคือไม่ต้องสื่อสารกับคนมากนัก เป็นอาชีพอิสระ และมีรายได้ให้ตัวเองและครอบครัว ภูมิใจนะครับ ผมเป็นคนชอบเต้น เคยใส่เสื้อแกร็บเต้นแล้วถ่ายวีดีโอลง Tiktok พอคนมาเห็นก็มีโอกาสอื่นๆ เข้ามา เป้าหมายของผมหลังจากนี้คืออยากมีบ้าน มีรถ และมีครอบครัว ช่วงนี้กำลังมีความรักด้วยครับ (ยิ้ม) ผมคงขับแกร็บต่อไป และอยากมีอาชีพอื่นเผื่อไว้ด้วย ผมอยากเปิดร้านอาหารครับ ตอนนี้ทำเป็นบางเมนู แต่หลังจากเรียนจบ ผมว่าตัวเองคงทำอร่อยขึ้นอีกครับ (ยิ้ม)”
“ผมอยากฝากถึงคนหูหนวกที่กำลังมองหางานว่า คนหูหนวกทำได้หลายอาชีพนะครับ บางคนทำงานภาครัฐ บางคนทำงานในโรงแรม เรามีข้อจำกัดทางร่างกายก็จริง แต่สามารถทำงานที่มีเกียรติได้เช่นเดียวกับคนหูดี และสำหรับคนทั่วไป ผมอยากชวนมาลองเรียนภาษามือกันนะครับ ถ้าคุณได้รู้จักกับคนหูหนวกจริงๆ อาจทำให้เข้าใจพวกเรามากขึ้นก็ได้นะครับ”
ยสินทร ก้องกาวัง พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ
ล่ามภาษามือ : ชนากานต์ พิทยภูวไนย
#มนุษย์กรุงเทพฯxGrab
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
