AI ในงานสถาปัตยกรรม ไปถึงไหนแล้ว ….?
ช่วงนี้คนแก่ๆ อย่างผม กลายเป็นนักเรียนใหม่อีกครั้งไปแระ
ซื้อคอร์สออนไลน์เรื่อง AI ในงานสถาปัตยกรรม มาหลายคัว
ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไป การเขียน พอร์ม แก้ไขต่างๆ ว่าทำอย่างไร
ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษา
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังครับ ….
ถ้าย้อนกลับไป ช่วง AI เริ่มตั้งไข่
คนมากมาย รู้สึกขำ กับสิ่งที่มันทำออกมา
ซึ่งดูแล้วว่า คงไม่น่าจะไปไหนได้ไกล….
เราลืมไปว่า แท้ที่จริง AI ก็เหมือนเด็กนักเรียนที่แค่ฉลาด
แต่ยังไม่มีข้อมูล มันไม่ใช่เก่งแบบสำเร็จรูป
เมื่อวันเวลาผ่านมาสักพัก AI เริ่มเข้าถึงข้อมูลต่างได้มากขึ้น
เร็วขึ้น ตามระดับของเทคโนโลยี ที่พัฒนาไป และฐานข้อมูลที่มากขึ้น
มันก็เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แล้วสำหรับตอนนี้
แต่ถ้าถามว่า มันแทนสถาปนิกได้ทั้งหมดเลยรึยัง
หรือมันง่ายพอที่คนทั่วไป จะออกแบบบ้านที่สมบูรณ์เลยได้ไหม
…ก็คงต้องตอบว่า ยัง ….
ผลงานของ AI ในเวลาไม่กี่นาที
สำหรับคนทั่วไป การให้ AI สร้างภาพบ้านขึ้นมาสักหลัง
ไม่ใช่เรื่องยาก ในการคีย์ข้อมูล ที่เรียกว่า เขียนพรอมพ์
ลงไป จะเอาสวยแค่ไหนก็ปรับแต่งได้ไม่ยาก
มี AI หลายตัว ที่ทำแบบนั้นได้ดี
แต่ถ้าจะให้ภาพที่ออกมานั้นใช้งานได้จริง คงยังลำบาก
นอกจากว่า ท่านเจ้าของบ้าน จะมีความรู้ด้านนี้อยู่พอสมควร
เพราะไม่งั้นคงเขียนพรอมพ์ไม่ถูก ว่าจะให้ AI ทำอะไร
ในการที่จะให้มันถอดแบบภาพ ออกมาเป็นแบบก่อสร้าง
หรือแม้แต่แบบในงานอินทิเรีย
โดยเฉพาะคนไทย หรือชาติที่ไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ
เพราะตัว AI มันพึ่งพาภาษาอังกฤษมากกว่า
แม้จะเป็น AI สัญชาติจีนก็ตาม
….อันนี้ต้องเข้าใจว่า ระบบเลขฐานสอง หรือ Binary system
ต่างๆ บนคอมพิวเตอร์ทั้งหมด มันอิงกับภาษาอังกฤษ
ไม่ได้เกี่ยวกับระดับเทคโนโลยี หมายความว่า ภาษาอื่นๆ
แม้กระทั่งพวกที่ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ทั้ง สเปน ฝรั่งเศส
ก็จะมีข้อจำกัดในการพัฒนาอยู่ดี
และนี่คือเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เทคโนโลยีด้านนี้ของจีน เป็นรองตะวันตก เพราะจีนทำอะไรออกมา ก็ต้องให้คนจีนส่วนมากใช้ได้ด้วย ไม่งั้นก็เจ๊งในทางธุรกิจ…
เราจึงสามารถสรุปได้ว่า ณ. ปัจจุบัน มีแต่สถาปนิก วิศวกร
หรือผู้มีความรู้ด้านนี้จริงๆเท่านั้น ที่จะสามารถใช้ AI ออกแบบบ้านสักหลังให้ใช้งานได้จริง….
แต่….อย่างที่บอก ขอแค่มีความรู้ด้านนี้ ก็ใช้ได้
มันไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่จบปริญญา หรือมีใบอนุญาต
หมายรวมถึงว่า คนในสายอาชีวะ แค่ ระดับ ปวช. หรือช่าง
ก็จะสามารถใช้งานมันได้ดี ไม่ต่างกับคนจบสูงกว่ามากนัก
ถ้ามีไอเดียในการเขียน พรอมพ์ภาษาอังกฤษที่ดีพอ….
…ซึ่งตรงนี้ จะกระทบกับการจ้างงานของสถาปนิก และวิศวกร
อย่างแน่นอนในอนาคต …..
มันทำอะไรได้บ้าง จนถึงตอนนี้ ?
ผมคงตัองบอกว่า “ทุกอย่าง” แล้วแต่ความสามารถของ
user ที่เขียนพรอมพ์นั่นแหละ
แต่ไม่ใช่ AI ตัวเดียวจบได้ทุกอย่างนะ มันต้องใช้หลายตัว
และบางครั้ง ต้องให้ AI เขียนโค้ด เพื่อเอาไปใช้ในโปรแกรม
ที่เราใช้อยู่ด้วยตัวเราเอง
มันสามารถเริ่มได้หลายแบบ เช่น ใช้ AI ตัวหนึ่ง สร้างรูปแบบโดยรวมขึ้นมา เข่นพวก midjourney หรือตัวอื่น ที่เฉพาะกว่า
แล้วนำรูปแบบโดยรวม ไปทำต่อใน AI จำพวกวาง floor plan
โดยเฉพาะ แล้วเราสั่งให้มันทำการปรับแต่ง ตามที่เราต้องการอีกที เพื่อให้มันเข้ากับรูปแบบ
…สองขั้นตอนนี้ สามารถทำสลับกันได้ คล้ายๆกับคนนั่นแหละ
ที่มักสลับสองขั้นตอนนี้กัน ตามความถนัดของผู้ออกแบบ…
เมื่อได้ floor plan ละรูปแบบที่สมบูรณ์แล้ว ก็อาจใช้อีกตัว
ในการทำการตบแต่ง ในแง่ความสวยงาม โดยระบุพร้อมพ์ให้ชัดเจน เช่น อยากได้ wall panel ฝั่งหนึ่งของภาพ ก็เขียนลงไป
หรือจะเพิ่มหน้าต่าง ช่องรับแสง เปลี่ยนสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์
ก็ทำตอนนี้ได้เหมือนกัน
ซึ่งขั้นตอนนี้แหละ ที่ AI ทำได้ดีมาก ดีจนเหลือเชื่อด้วยซ้ำ
…นี่คือขั้นตอนทั้งหมด ในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม
ในการทำงานกับ AI….
ตัวอย่าง การปรับภาพ เมื่อเราเลือกรูปแบบทีาต้องการได้หนึ่งรูปแล้ว เราก็สามารถปรับแต่งรายละเอียดส่วนต่างๆ ได้อีกด้วยการเขียนพรอมพ์
หนึ่งในรูปแบบงานที่ AI ทำได้ดี คือ การนำภาพถ่ายของพื้นที่งานจริงๆ ไปทำต่อ จะเห็นชัดเลยว่างานดีมาก จากตรงนี้เราสามารถเอาไปถอดเป็นแบบก่อสร้างทำต่อได้เลย
แล้วแบบวิศวกรรมล่ะ มันทำได้ไหม?
คำตอบคือ “ได้” และแม่นยำกว่าคนซะด้วย
เพียงแต่ว่า คนที่จะทำ ต้องเข้าใจว่าตรงไหนของอาคารมีหน้าที่อะไร และเข้าใจระบบรับน้ำหนักของอาคาร
ซึ่งมันไม่ยากนัก ที่จะทำความเข้าใจ ถึงระบบ เสา คานอยู่แล้ว
สำหรับคนที่มีความรู้พื้นฐานด้านนี้แบบพวกช่าง
ในกรณีที่เราใช้ AI เราจะไม่ต้องคำนวณเองเลย
แค่เราเอา floor plan ใส่เข้าไป แล้วระบุจดที่เป็น โหลดให้ถูกต้อง ใส่พรอมพ์ประเภทของอาคารที่อยากได้ลงไป เช่น
อยากได้โครงสร้างคอนกรีต หรือเหล็ก
AI มันก็จะทำที่เหลือให้เอง และมีให้เราเลือกได้หลายรูปแบบ
มันสามารถบอก สเปก จำนวนของวัสดุที่ต้องใช้ รูปแบบการผูกเหล็ก ซึ่งเราสามารถ คีย์สั่งลงไปได้อีก
ถึง สเปกเฉพาะที่เราต้องการ
…ความจริงนี่ก็ไม่ใช่อะไรที่ใหม่นัก ปกติโปรแกรมช่วยออกแบบจำลองทางวิศวกรรม มันทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่พอถึงยุค AI รูปแบบมันเปลี่ยนไป
…การคำนวณด้านวิศวกรรมของ AI นั้น ตัว AI จะเป็นเหมือน
User ใช้โปรแกรมที่คนใช้นี่แหละ มันจะเข้าถึง โปรแกรมจำพวก Grasshopper หรือ Sap ได้ โดยเอาข้อมูลที่เราให้มันไปคำนวณในโปรแกรมเหล่านั้น แล้วสร้างเป็นแบบวิศวกรรมออกมาให้เรา…
มันมีความแม่นยำสูงมาก แม้จะมีการปรับแก้หลายครั้ง
ก็แทบไม่มีความผิดพลาดเลย จัดเป็นความสามารถที่น่ากลัวมาก สำหรับวิศวกรทุกสาย เพราะโปรแกรมลักษณะนี้
มีทั้งการออกแบบระบบโครงสร้าง ไฟฟ้า และสาธารณูปโภค
โดยสรุปแล้ว AI ในงานออกแบบนั้น มาไกลมากจริงๆ
ยิ่งถ้าย้อนไปว่า มันเริ่มมาอย่างจริงจังเพียงปีสองปีเท่านั้น
ผมมองว่าข้อจำกัดด้านการเขียนพรอมพ์สำหรับคนทั่วไป
น่าจะถูกจัดการให้ง่ายขึ้นมาก ในระดับที่ใครก็สามารถทำได้
ภายใน 3-5 ปีต่อจากนี้
แต่ ถ้าถามว่าทุกคนจะได้แบบที่สวยจาก AI ทั้งหมด
หรือไม่นั้น ผมขอตอบว่า ไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้
เพราะการสั่ง AI ให้ทำอะไร มันจะเป็นไปตามรสนิยมของผู้สั่ง
มันอาจทำให้เจ้าของงานพอใจ
แต่ความงามในลักษณะที่ถูกต้องตามตำรานั้น อาจไม่ใช่
ทุกคนที่เข้าถึงได้ ….
แต่ใครสนล่ะ บ้านฉัน ฉันพอใจนี่ ไม่ต้องตามตำราก็ได้
มีแบบให้สร้างได้จริง ไม่พังก็พอแล้ว ถูกไหมล่ะ …
มันจะส่งผลกระทบกับธุรกิจก่อสร้างจากนี้ไปค่อนข้างมากทีเดียว โดยเฉพาะการจ้างงานในตำแหน่งเงินเดือนสูง
อย่างสถาปนิก และวิศวกร
จริงอยู่ที่ว่า AI ปัจจุบัน ไม่สามารถแทนได้ทั้งหมด
แต่ตอนนี้ มันทำหน้าที่เหมือนเพื่อนร่วมทีม ที่ปรึกษา
ของตัวสถาปนิก หรือวิศวกร ที่ดีกว่า และประหยัดกว่าคน
ความสามารถของ AI ในปัจจุบัน มันทำให้ผู้ออกแบบที่มีความรู้อยู่แล้ว สามารถจบงานได้ด้วยตัวคนเดียว ในงานที่เคยต้องทำเป็นทีม
หมายความว่า บริษัทต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจ้างทีม
มาหลายคนให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
จ่ายค่าเข้าใช้ AI เดือนเดียว ก็จบงานได้แล้วแทน มันถกว่ามาก
ขอยกตัวอย่างบริษัทผมเอง ซึ่งปัจจุบันมีสถาปนิก 6 คน
รวมผมเป็น 7 และวิศวกร 1 คน
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าผมต้องการจริงๆ ผมสามารถเอา
อีกหกคนที่เหลือออกได้ทันที เพื่อทำงานต่อ !
โดยเหลือวิศวกรไว้คนเดียวพอ
การคุมหน้างาน ก็ไม่ต้องจ้างประจำ ว่ากันเป็นรายโปรเจ็ค
ผมมองว่านี่ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทออกแบบก่อสร้างบ้าน
ในอนาคต ทั้งเล็กและใหญ่ อย่างแน่นอน
เพราะเงื่อนไขทางธุรกิจ AI มันตอบโจทย์มากกว่า
การจ้างคนนั่นเอง….
สุดท้าย ขออนุญาตบอกว่าไม่เห็นด้วยกับ อ.เฉลิมชัย
ที่ว่าไม่ต้องกลัว AI สำหรับคนทำงานด้านศิลปะ
ผมว่าแกอาจพูดถูกในมุมของแก ซึ่งเป็นงานสายจิตรกรรม
เพราะมันเป็นศิลปะบริสุทธิ์ เป็นวิจตรศิลป์ หรือ Fine Art
แต่ตรรกะของแก ใช้ไม่ได้กับงานพาณิชย์ศิลป์ หรือ
Commercial Art ที่มีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง
เงื่อนไขทางธุรกิจ ทั้งเวลา เงินทอง
มันบีบให้ศิลปินสายนี้ ต้องเผชิญกับผลกระทบจาก AI
อย่างรุนแรงมาก
ตั้งแต่งานออกแบบโลโก้ถึงออกแบบบ้าน อาคารขนาดใหญ่
ล้วนแต่ถูกบีบไว้ด้วยเงื่อนไขทางธุรกิจ
เจ้าของเงิน ไม่ได้ต่องการอะไรที่สวยแต่แพง
เขาต้องการอะไรที่คนชอบ และคุ้มค่ากับการลงทุนของเขา
ดังนั้น สิ่งที่อาจารย์พูด จึงใช้ไม่ได้กับพวกผมนะครับ
…ไม่ใช่กระจอก ยอมแพ้ AI ….
…แต่เจ้าของเงิน เขารับได้กับงานที่ AI ทำมา แล้วมันถูกกว่าต่างหาก นี่คือสิ่งที่ อาจารย์ต้องเข้าใจครับ….
คนเรา ไม่จำเป็นต้องขี่ม้าตลอดไป เมื่อรถยนต์วิ่งเร็วกว่าครับ
แปะไว้ให้เล่นกัน กับ AI home generator ง่ายๆครับ
ตัวนี้ของจีน ใช้ฟรี ภาพก็สวยใช้ได้แบบรูปล่างแหละ ถ้าปรับเป็น ถือว่าใช้งานได้ดีระดับนึงเลย
คนจีนใช้เยอะครับ ปัจจุบันผมทำคอนโดให้พวกเขามากอยู่
เลยต้องหัดใช้ไปด้วย ก็โอเคนะ ไว้มารีวิวอีกที
( อันนี้ผมให้ AI ทำภาพรวมออกมาแล้วปรับต่อนิดหน่อย)
Coohom https://www.coohom.com/
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
