13 ก.ย. 2023 เวลา 04:23 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)

🕒“สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ก่อนอายุ 30”🕗

🟠เรามักสูญเสียหุ้นดีในพอร์ตตอนตลาดเกิดวิกฤต เมื่อเกิดความรู้สึกหวาดกลัวเราจะขายหุ้นเพื่อถือเงินสด และสิ่งที่เราเลือกขายก็คือหุ้นที่มีกำไรอยู่ในพอร์ต เก็บหุ้นที่ขาดทุนเอาไว้ก่อน เข้าตำรา “เด็ดดอกไม้ รดน้ำวัชพืช” นักลงทุนบางส่วนชอบซื้อหุ้นถัวเฉลี่ยราคาขาลง ด้วยความหวังว่าจะลดต้นทุนโดยที่ไม่ได้มีความมั่นใจหรือมีข้อมูลมากเพียงพอ ถือเป็น “เส้นทางสู่หายนะในโลกการลงทุน” สิ่งที่เราควรทำเมื่อตลาดเกิดภาวะวิกฤตคือ “ขายหุ้นที่แย่ และซื้อหุ้นดีเพื่อเพิ่มสัดส่วนต่างหาก”
🟠หุ้นที่นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบ ส่วนใหญ่ราคาจะเต็มมูลค่าแล้ว ราคาพุ่งขึ้นไปเยอะแล้ว หรือการเติบโตใกล้จุดอิ่มตัวแล้ว นี่คือคนละเรื่องกับว่ามันเป็นหุ้นที่ดีหรือแย่ หุ้นที่จะให้ผลตอบแทนสูงๆ ต้องไม่ใช่หุ้นที่คนส่วนใหญ่คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าน่าลงทุน หุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงมักจะเป็นบริษัทขนาดกลางหรือเล็ก ตลาดยังไม่สนใจ หรือคนส่วนใหญ่มีความกังวลอะไรบางอย่าง จึงทำให้มูลค่ายังไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับศักยภาพที่ควรจะเป็น
🟠“ชนะให้เยอะ แพ้ให้น้อย” สิ่งสำคัญที่สุดซึ่งจะทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีคือ ควานหาหุ้นที่จะให้ผลตอบแทนสูงๆ และต้องใส่น้ำหนักสูงๆจากพอร์ตรวมด้วย การให้น้ำหนักหรือสัดส่วนหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากอย่างมีนัยสำคัญแปลว่าเราต้องมีความมั่นใจและมีข้อมูลมากเพียงพอ “แพ้ให้น้อย” หากพบว่าการลงทุนไหนที่เกิดความผิดพลาดต้องขายทิ้งหรือลดสัดส่วนให้เร็วที่สุด อย่านั่งคาดหวังให้ราคาหุ้นขึ้นมาเท่าทุนแล้วค่อยขาย
🟠“หุ้น IPO” ที่มักให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงๆ คือบริษัทที่เข้าตลาดมาในช่วงต้นหรือช่วงกลางของกระบวนการขยายกิจการ การได้รับเงินทุนเพิ่มของธุรกิจ ทำให้บริษัทมีศักยภาพมากกว่าเดิม และมีความได้เปรียบบริษัทคู่แข่งนอกตลาดในเรื่องของแหล่งเงินทุน และการจัดหาบุคลากรที่มีความสามารถ ส่วน “หุ้น IPO” ที่ควรหลีกเลี่ยงคือบริษัทที่มาเข้าตลาดเอาตอนธุรกิจถึงจุดอิ่มตัว หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันด้านราคากันสูงมาก
🟠หุ้นที่เข้ามาแก้ปมปัญหาอันสืบเนื่องจากการบริหารจัดการของภาครัฐ มักจะมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต เหตุเพราะปมปัญหาที่ภาครัฐมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นแทบไม่เคยแก้ปัญหาได้เลย ยกตัวอย่างเช่น
1
ประเทศไทยไม่มีการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ สวนสาธารณะ การวางผังเมือง ทางเดินเท้า ไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง คนไทยจึงนิยมเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โรงพยาบาลรัฐที่หนาแน่น ไม่เพียงพอ การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะที่ไร้ประสิทธิภาพ ล่าช้า ไม่ตรงต่อเวลา โรงเรียนรัฐบาลที่คุณภาพไม่ดีพอโดยเฉพาะด้านภาษาต่างประเทศ
สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้หุ้นศูนย์การค้า โรงพยาบาลเอกชน สนามบิน และโรงเรียนเอกชนนั้นเติบโตอย่างมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นหุ้นที่สามารถเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ภาครัฐขาดแคลนจึงน่าจะเป็นบริษัทซึ่งเติบโตในอนาคตได้ไม่ยาก
🟠นักลงทุนหลายคนมักพลาดหุ้นที่อยู่นอกเหนือการใช้ชีวิตของตนเอง รวมถึงการลงพื้นที่สำรวจกิจการ ทดลองใช้สินค้า หรือหมั่นสอบถามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เรามีข้อมูลสำหรับใช้ในการคัดเลือกหุ้นได้ดีมากขึ้น
🟠หุ้นที่จะมีกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น คือบริษัทที่มีต้นทุนคงที่สูง (Fixed Cost) เช่น ค่าเสื่อมราคา ค่าจ้างพนักงานประจำ หากเราเข้าซื้อหุ้นประเภทดังกล่าวในช่วงที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ไม่สูงมาก หากรายได้เติบโต ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่ารายได้ กำไรของกิจการจะเติบโตได้มากกว่าการเติบโตของรายได้พอสมควร
🟠“หุ้นถูกเรื้อรัง” บริษัทที่ผู้บริหารไม่เก่ง หรือไม่ซื่อสัตย์ มักจะมีแต่ข่าวร้ายและสร้างความผิดหวังแก่นักลงทุน หุ้นเช่นนี้มักดึงดูดนักลงทุนด้วยอัตราส่วนทางการเงินที่ดูดีในเชิงราคาหุ้น และราคาปรับตัวลงอย่างมาก ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นหุ้นราคาถูก “การถือหุ้นที่ดีและเติบโต วันเวลาจะอยู่เคียงข้างนักลงทุน” หากพบเจอผู้บริหารที่ไม่เป็นไปตามแบบที่เราคาดหวัง ก็อย่าหวังให้เขาเปลี่ยนแปลงเลย เปลี่ยนหุ้นในพอร์ตตัวเราเองง่ายกว่า
🟠ตามประวัติศาสตร์แล้ว “วิกฤตตลาดหุ้น” จะเกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10 ปีต่อครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิกฤตที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิด หากแต่ข่าวที่ว่าจะเกิดวิกฤตนั้นมีแทบทุกปี เช่นนั้นการถือเงินสดมากเกินไปเพื่อหวังว่าจะรอซื้อหุ้นในยามวิกฤตอาจทำให้เราเสียโอกาสในการลงทุนที่ดี เสมือนหนุ่มสาวไปเที่ยวผับบาร์แล้วเฝ้ายืนอยู่ใกล้ประตูหนีไฟตลอดเวลา
🖊คเชนทร์ เบญจกุล
📖ส่วนหนึ่งจากหนังสือ
“วิถีแห่ง VI” : บทเรียนการลงทุนที่ตกผลึกโดยต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า 35 ท่าน เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 🙂
โฆษณา