17 ก.ย. 2023 เวลา 05:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🧘“สิ่งที่ตกผลึกจากการลงทุน”🧘♂
🕤ถึงแม้ว่าผมจะโลดแล่นอยู่ในตลาดหุ้นไทยมามากกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมทางการลงทุน ณ ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก ทำให้ประสบการณ์ลงทุนส่วนตัวที่ผ่านมาอาจไม่ค่อยมีประโยชน์ที่จะบอกเล่าเพื่อประยุกต์ใช้ในอนาคตได้มากนัก หากแต่มีบางสิ่งที่ผมคิดว่ายังสามารถหยิบนำมาไตร่ตรองและปรับใช้ได้อยู่เสมอ
1⃣ “เลือกลงทุนในธุรกิจที่เราเข้าใจ และมีศักยภาพในการเติบโต”
“การซื้อหุ้นก็เหมือนการทำธุรกิจ” ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่ผ่านการศึกษาและทำความเข้าใจมาเป็นอย่างดีจนสามารถคาดการณ์ผลประกอบการให้ได้อย่างน้อย 3 – 5 ปีต่อไปข้างหน้า หรือมองเห็นโอกาสแห่งการเติบโตที่ชัดเจน “สิ่งใดที่เราไม่รู้ หรือรู้ไม่จริง ถือเป็นความเสี่ยง” ศึกษาธุรกิจอย่างละเอียดลึกซึ้งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนตัดสินใจลงทุน
2⃣ “ซื้อหุ้นในราคาที่คุ้มค่ากับความเสี่ยง (Risk & Reward)”
ลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสทำกำไรสูงมากกว่าความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนนั้น ควรพิจารณาทั้งโอกาส (Upside) และความเสี่ยง (Downside) คู่กันเสมอ เข้าซื้อในราคาที่ยังไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับโอกาสในการเติบโต หากมีอะไรผิดพลาดเงินลงทุนก็จะไม่เสียหายมากนัก
การลงทุนมักให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเราเข้าซื้อในช่วงที่ภาพอนาคตยังเลือนราง คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ เพราะเมื่อใดที่ภาพมันชัดเจน ราคาหุ้นมักจะสะท้อนทุกอย่างไปจนหมดสิ้นแล้ว “เมื่อเจอโอกาสที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงมากๆ และผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว อย่าลังเลที่จะใส่น้ำหนักการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ”
3⃣ “อดทนรอคอย ลงทุนระยะยาว”
พลังของดอกเบี้ยทบต้นช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้มหาศาลมากกว่าที่คุณคิด และมันจะสำแดงศักยภาพสูงสุดเมื่อคุณนำผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเงินปันผล หรือกำไรส่วนต่าง ย้อนกลับไปลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินลงทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่าใจร้อนนำเงินไปใช้จ่ายก่อนเวลาอันสมควร
4⃣ “สิ่งที่ยากที่สุดคือการควบคุมอารมณ์และจิตใจ”
การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นเราจะต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนส่วนใหญ่คาดหวังความสมบูรณ์แบบ หากแต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งต่างๆมักไม่เป็นอย่างที่ใจเราคิด เพราะเหตุนั้น “อารมณ์จึงเป็นศัตรูของเราอย่างแท้จริง” หากไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้มีเหตุผลได้ จะทำให้กระบวนการตัดสินใจผิดพลาดได้อย่างง่ายดาย ถอยห่างออกจากตลาดหุ้นหากรู้สึกว่าเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้แล้ว กลับมาทบทวนพื้นฐานกิจการว่ายังดีอยู่หรือไม่ หากยังมีความเครียดหลงเหลืออยู่ก็ควรหากิจกรรมอย่างอื่นทำ
5⃣ “ความแน่นอนในตลาดหุ้นคือ ความไม่แน่นอน”
นักลงทุนส่วนใหญ่มองหาแต่โอกาสการทำผลตอบแทนให้ได้สูงๆ โดยละเลยที่จะพิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะขาดทุน การบริหารความเสี่ยงนั้นสำคัญมาก ไม่ว่าเราจะได้กำไรก้อนโตขนาดไหนก็อาจรักษามันเอาไว้ไม่ได้ และอาจเสียหายหนักจนต้องหนีหายออกจากตลาดหุ้นไปในท้ายที่สุด อย่าประมาทหรือมั่นใจอะไรมากเกินไป ยังมีสิ่งต่างๆอีกมากมายที่เราไม่รู้และควบคุมไม่ได้ จงวางแผนราวกับว่าทุกสิ่งจะไม่เป็นไปตามแผน
☑“กระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม” ถือหุ้นอย่างน้อย 5 – 7 บริษัท ไม่มีจำนวนที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความสบายใจของแต่ละบุคคลให้น้ำหนักตามความคุ้มค่าและความมั่นใจ หากรู้สึกไม่สบายใจ อาจแปลว่าเราถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป หรือยังศึกษาหุ้นตัวนั้นไม่ดีพอ
☑“รักษาวินัยทางการเงิน” อย่าลงทุนโดยใช้เงินกู้ (Margin) ส่วนตัวคิดว่าการลงทุนแบบเต็มพอร์ตด้วยเงิน 100% ก็มากเพียงพอแล้ว อย่าไปคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้น (Market Timing) เอาเวลาไปค้นหาบริษัทที่น่าลงทุนจะดีกว่า อย่าหวังรวยเร็ว อย่าโลภเกินความรู้ตนเอง มุ่งเน้นภาพเชิงธุรกิจในระยะยาวของบริษัทมากกว่าราคาหุ้นระยะสั้น
☑อย่าเปรียบเทียบผลตอบแทนของเรากับคนอื่น เลือกอาจารย์ให้ถูกคน อย่าออกนอกเส้นทางที่ถูกต้อง เรียนรู้จากความสำเร็จของผู้อื่น และเรียนรู้จากความล้มเหลวด้วย เป็นบทเรียนอันมีค่าที่ทำให้เราฉลาดขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บตัวเอง
☑อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต หมั่นพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง อย่าละเลยที่จะดูแลสุขภาพ ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัว ความสุขมีได้ตลอดเส้นทางการลงทุน ไม่จำเป็นต้องรอให้รวยก่อน
☑โชคชะตามีผลอย่างมากต่อความสำเร็จในการลงทุน หมั่นทำความดี แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
🖊ขาว : ณภัทร ปัญจคุณาธร
📖ส่วนหนึ่งจากหนังสือ
...
“วิถีแห่ง VI” : บทเรียนการลงทุนที่ตกผลึกโดยต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า 35 ท่าน เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 🙂
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
