13 ก.ย. 2023 เวลา 07:39 • ประวัติศาสตร์

Anneliese Michel "อันเนลีส มิเชล" หญิงสาวผู้ที่ถูกเชื่อว่าถูกผีเข้าจนเสียชีวิต

“อนาลิส มิเชล” เรื่องราวของเธอทำให้เกิดการถกเถียงกันในระหว่างวงการความเชื่อกับวงการจิตแพทย์มาอย่างยาวนาน เพราะเด็กสาวคนนี้คือผู้ถูกทำพิธีไล่ผีถึง 67 ครั้ง
ว่ากันว่าคนที่ถูกผีเข้าสิงคือคนที่มีอาการป่วยทางจิต แต่บางครั้งอาการทางจิตของพวกเขาเหล่านั้นก็ทำให้แอบคิดไม่ได้ว่า หรือจริงๆแล้วพวกเขาเหล่านั้นถูกผีเข้าสิงจริงๆกันแน่
อันเนลีส มิเชล (Anneliese Michel)
เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1952 ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี เธอเป็นลูกคนที่ 2 ของโจเซฟกับอันนา มิเชล และมีพี่น้องผู้หญิงอีก 4 คน เธอเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ค่อนข้างเคร่งในศาสนามาก
ย้อนไปในปี 1948 ก่อนอันเนลีสเกิด 4 ปี อันนาเกิดตั้งท้องนอกสมรส สร้างความเสื่อมเสียให้วงศ์ตระกูลอย่างยิ่ง ว่ากันว่าครอบครัวถึงกับบังคับให้เธอสวมชุดดำเพื่อไว้ทุกข์ให้แก่ศีลธรรมของตนเองในวันแต่งงาน และนับจากวันนั้นเป็นต้นมาความรู้สึกผิดต่อบาปกรรมที่ทำไปในครั้งนั้นก็ไปตกอยู่กับ อันเนลีส ซึ่งเป็นลูกคนที่สอง
มิเชลและครอบครัว
อันนาใช้ความผิดพลาดของตนเป็นบทเรียนสั่งสอนอันเนลีส ให้ตระหนักถึงผลกรรมของการทำบาปไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งยังกระตุ้นให้ลูกสวดมนต์ ขอพร ชำระบาปอย่างสม่ำเสมอ โดยหวังว่ามันจะเป็นการล้างบาปให้ตนได้ ยิ่งเมื่อลูกสาวคนโตเสียชีวิตในอีกไม่กี่ปีต่อมา (ขณะนั้นอันเนลีสอายุได้ 4 ขวบ) ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดในหัวใจของอันเนลีสทวีคูณติดเป็นเงาตามตัว
อันเนลีส ต้องใช้เวลาทุกค่ำคืนหลับนอนบนพื้นหินแข็งๆ เพราะเชื่อว่านั่นจะเป็นการไถ่บาปแทนพวกจรจัด ติดยา บาปหนา ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปตามที่สาธารณะต่างๆ แม้ว่าตัวเธอเองจะไม่รู้จักกับคนพวกนั้นแม้แต่น้อย
ในปี 1968 อันเนลีส เธอเริ่มมีอาการแปลกๆ คือมีอาการตัวสั่นอย่างรุนแรงเป็นครั้งคราว พ่อแม่ของเธอจึงรีบพาไปพบแพทย์ ซึ่งเธอถูกพบว่าเป็นโรคลมบ้าหมู และได้รับการรักษาตามปกติ เธอเข้ารับการรักษานานกว่า 5 ปี เดินเข้าเดินออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น มียาหลายชนิดที่สั่งจ่ายให้เธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นยาตัวไหนก็ไม่สามารถช่วยให้เธอหายขาดจากอาการชักได้เลย
เธอเริ่มประสาทหลอนคุยกับ “ปีศาจ” ทางบ้านของเธอก็เริ่มเชื่อว่าจริงๆ แล้วเด็กสาวน่าจะถูกสิงมากกว่า
ในปี 1974 ได้มีการขออนุญาตประกอบพิธีไล่ผีให้แก่อันเนลีส แต่ก็ถูกปฏิเสธหลายครั้ง ระหว่างนั้นพฤติกรรมของอันเนลีสยิ่งแปลกประหลาด เธอเริ่มด่าทอ ทุบตีและจิกกัดสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว ปฏิเสธที่จะกินอาหาร แต่หันไปกินแมลงวัน แมงมุม ถ่านหิน ดื่มปัสสาวะตัวเองแทนน้ำสะอาด แทะทึ้งซากนกจนหัวมันหลุดจากร่าง ฉีกทึ้งเสื้อผ้าตัวเองเป็นว่าเล่น เห่าหอนราวกับสุนัขเป็นวัน กรีดร้องไม่รู้จักเหนื่อยนานนับชั่วโมง
ช่วงที่ได้สติ อันเนลีสก็ตกอยู่ในภาวะหดหู่ซึมเศร้าอย่างรุนแรง บางครั้งเธอคิดที่จะฆ่าตัวตายไปเสียให้พ้นๆ สถานการณ์ที่นานวันก็ยิ่งแย่ ส่งผลให้คำร้องขอประกอบพิธีไล่ผีครั้งที่ 3 ได้รับอนุญาต เริ่มทำพิธีในเดือนกันยายน ในปี 1975 มีบาทหลวงเป็นผู้ประกอบพิธี ซึ่งตามกำหนดแล้วพิธีไล่ผีนี้จะต้องทำกันสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ครั้งหนึ่งใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง
เหตุการณ์ในระหว่างประกอบพิธีนั้น อันเนลีสดิ้นรนขัดขืนสุดแรงเกิด เรี่ยวแรงของเธอเพิ่มพูนมหาศาลถึงขนาดต้องใช้ผู้ชายแข็งแรงกำยำ 3 คนช่วยกันจับจึงจะเอาอยู่และบางคราวถึงกับต้องเอาโซ่ล่ามเธอไว้ กล่าวกันว่าหลังผ่านพิธีไล่ผีไม่นานนัก อาการของอันเนลีสก็ทุเลาขึ้นอย่างน่าประหลาด ระยะนั้นเธอสามารถกลับเข้าเรียนได้หรือจะไปโบสถ์ก็ยังไหว แต่แค่เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น หลังจากนั้นอาการของเธอก็กลับเป็นเหมือนเดิมอีกและยังต้องเข้ารับการไล่ผีอย่างต่อเนื่อง
นั่นทำให้ตลอดระยะเวลา 10 เดือนหลังจากนั้นมิเชลก็ต้องเข้ารับการไล่ผีครั้งแล้วครั้งเล่า ในแต่ละครั้ง “วิญญาณ”ที่มาสิงเธอก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ ปีศาจ ลูซิเฟอร์ คาอิน (ฆาตกรคนแรกตามคัมภีร์ไบเบิล) ยูดาส (ผู้ขายพระเยซู) กษัตริย์เนโร หรือแม้กระทั่ง ฮิตเลอร์
การไล่ผีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นส่งผลร้ายกับร่างกายของมิเชลมาก เธอคุกเข่าสวดภาวนานานจนกระดูกหัก อาละวาดจนได้รับบาดเจ็บและถูกล่าม แถมเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มที่จะทานอาหารน้อยลงไปเรื่อยๆ จนน้ำหนักเธอเหลือเพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น ถึงแม้อาการของเธอจะดีขึ้นเป็นบางครั้ง แต่ไม่นานเธอก็กลับมาเป็นใหม่
ในปี 1976 พิธีไล่ผี เป็นไปอย่างเข้มข้น ประกอบกับร่างกายที่อ่อนแอจากการขาดน้ำและอาหาร ก็ทำให้อันเนลีสล้มป่วยด้วยโรคปอดบวม ไข้ขึ้นสูง ไม่มีเรี่ยวแรง แต่พิธีไล่ผีก็ยังต้องดำเนินต่อไป พ่อและแม่ต้องเข้ามาช่วยพยุงไม่เช่นนั้นลูกสาวคงไม่อาจผ่านพ้นมันได้จนตลอดรอดฝั่ง แต่ครั้งนี้ก็เป็นพิธีกรรมครั้งสุดท้ายของอันเนลีส เพราะเช้าวันถัดมา เมื่อโจเซฟกับอันนาแวะเข้ามาดูอาการลูกสาวตามปรกติ ก็พบว่าเธอเสียชีวิตเสียแล้ว
เป็นระยะเวลาร่วม 10 เดือน อันเนลีสต้องเข้าพิธีไล่ผีถึง 67 ครั้ง ประโยคสุดท้ายที่อันเนลีสพูดกับแม่ของเธอในคืนก่อนหน้านั้น ก็คือ “แม่ … หนูกลัว”
การที่หญิงสาววัยเพียง 24 ปี ต้องมาเสียชีวิตในสภาพร่างกายผ่ายผอมบอบช้ำ นับว่าเป็นเรื่องไม่ปรกติและไม่ธรรมดา หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่รัฐจึงยื่นเรื่องขอชันสูตรศพอันเนลีสและผลการชันสูตรก็สรุปออกมาว่า เธอเสียชีวิตด้วยภาวะขาดอาหารและน้ำอย่างรุนแรง
เหล่าผู้ที่ต้องขึ้นศาลจากคดีความของมิเชล สองคนด้านขวาคือพ่อกับแม่ของเธอ
จากการที่ อันเนลีส เสียชีวิต พ่อ-แม่ และบาทหลวงที่ทำพิธีกรรม ถูกอัยการรัฐตัดสินใจสั่งฟ้องด้วยข้อหากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ครอบคลุมถึงการฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและฆ่าเนื่องจากถูกยั่วยุโทสะ
ในปี 1978 พ่อ-แม่ของอันเนลีสว่าจ้างทนายชื่อดัง เอริช ชมิดต์-ลีชเนอร์ เขายกข้ออ้างเรื่องสิทธิที่จะประกอบพิธีการต่างๆ ตามความเชื่อทางศาสนา ซึ่งได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญมาเป็นข้อแก้ต่าง
นอกจากนั้นยังเสนอ หลักฐานเป็นเทปบันทึกเสียงระหว่างประกอบพิธี ซึ่งปรากฏว่าเป็นเสียงของอันเนลีสพูดจาด้วยภาษาแปลกประหลาด บางครั้งด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว บางคราวเป็นเสียงกรีดร้องโหยหวน (มีเสียงหนึ่งซึ่งพูดด้วยสำเนียง แฟรงกลิช และบาทหลวงทั้งสองรูปยืนกรานว่า นั่นคือเสียงของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หนึ่งในปีศาจที่เข้าสิงอันเนลีส) ทั้งหมดนี้เพื่อยืนยันว่า อันเนลีส มิเชล ไม่ได้ป่วยด้วยโรคธรรมดา ทว่าเธอถูกผีเข้าจริง
พ่อ แม่ และบาทหลวงทั้ง 2 คน
อย่างไรก็ตามศาลพิจารณาแล้วได้ข้อสรุปว่า คำค้านฟังไม่ขึ้น จำเลยทั้งสี่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหาและต้องโทษจำคุก 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี
ปี ค.ศ. 2005 นักข่าวเดินทางไปสัมภาษณ์ อันนา แม่ของอันเนลึส (ตอนนั้นในวัย 80 กว่าปีแล้ว) ใช้ชีวิตตามลำพังในบ้านหลังเดิมที่เคยเกิดเรื่องราวฝันร้ายในคราวนั้น โจเซฟผู้เป็นสามีเสียชีวิตไปเมื่อ 6 ปีก่อนหน้า ส่วนลูกสาวอีก 3 คนต่างก็แยกย้ายไปคนละทิศละทางกันหมด
อันนารำลึกถึงลูกสาวที่ชื่อคล้ายกันกับเธอให้ฟังว่า “อันเนลีสเป็นคนอ่อนหวาน จิตใจดี อยู่ในโอวาทเสมอ แต่หลังจากถูกผีสิง เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มันเป็นเรื่องเกินธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เราอธิบายไม่ได้” อันนายอมรับว่าเธอคิดถึงลูกสาว “ฉันมองเห็นหลุมศพลูกจากหน้าต่างห้องนี่ ฉันแวะไปเยี่ยมลูกอยู่บ่อยๆ เอาดอกไม้ติดมือไปฝากลูกด้วย”
อย่างไรก็ตาม กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น อันนา มิเชล ยืนยันว่า เธอกับสามี รวมถึงบาทหลวง ทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว เธอเพียงแต่ทำตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
โฆษณา