รีวิว ONE PIECE Live Action(2023)🏴☠️
⚠️ ฉบับคนไม่ได้ตามมังงะและอนิเมะ
(ไม่มีการสปอยเนื้อหาใด ๆ ให้คนอ่านแพนิค)
ออกตัวก่อนเลยนะว่าเคยอ่านวันพีซและดูอนิเมะเมื่อนานแสนนานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายน่าจะสมัยประถมหรือมัธยม ได้ดูตามช่องการ์ตูนนี่แหละ ความทรงจำจึงเลือนลาง จำแค่ชื่อตัวละครหลักและตัวละครประกอบไม่กี่ตัวได้ก็ดีแค่ไหน
ฉะนั้นจะเป็นการรีวิวแบบเรียล ๆ ตามความรู้สึกของคนนอก(สายตา) ประเด็นที่ไม่ตามวันพีซเพราะจำนวนตอนมันเยอะมากจนท้อ😵💫
เป็นการดูที่โคตรมาราธอน 8 EP. รวดตั้งแต่วันแรกที่ปล่อยลง Netflix เป็นซีรีส์ที่ดูจบไวที่สุดภายในปีนี้เพราะปกติสายดองเค็ม ขนาดบทความยังดองเลยจ้าเขียนไม่จบสักที🤯
ก่อนจะไปติชมรายละเอียดของซีรีส์นั้นขอชมก่อนแล้วกันว่าแอดดูเพลินสนุกมาก!! กลิ่นอายคล้ายหนัง Pirates of the Caribbean ใครที่ชอบยุคสมัยโจรสลัดต้องดูอย่างน้อยก็ทำให้เราหายคิดถึงกัปตันแจ๊คสแปร์โรว์ ชอบทุกซีนทุกฉาก น่าติดตามจนหยุดดูไม่ได้
ไม่คิดว่าดูวันพีซจะสนุกได้ขนาดนี้ สมัยเด็ก ๆ จำได้ว่าเฉย ๆ ออกไปทางยังไงก็ได้ขอแค่ได้ดู พอมา ณ ปัจจุบันอายุเพิ่มมากขึ้นเราจะชอบความสมจริงและความซีเรียส ตัวซีรีส์ทำออกมาได้ครบรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม จืด กลมกล่อมดีไม่ใช่แฟนคลับก็สามารถดูรู้เรื่องถ้าชอบก็ไปตามอ่านต่อในมังงะหรือดูอนิเมะได้ อดใจรอดู SS2 ไม่ไหวแล้ว🔥
ถัดมาที่แอดอยากชมมาก ๆ เลยคือเสียงพากย์ไทยที่ทำออกมาดีเหนือความคาดหมาย ทีมงานโคตรคุณภาพ คัดมาแล้วว่าใครเหมาะจะพากย์ตัวละครไหน แม้ว่าเสียงจะแตกออกเป็นสองฝั่งระหว่างคนที่อยากได้เสียงพากย์แบบในอนิเมะกับเสียงแบบในซีรีส์
ซึ่งส่วนตัวชอบแบบที่เป็นอยู่เพราะถ้าเอาเสียงจากทีมอนิเมะมาพากย์ตามเดิมเลยมองว่ายังไงก็ไม่เข้าแน่ ๆ ตรงนี้ขออธิบายในมุมมองฐานะผู้รับชมสุดจะสามัญชนแล้วกัน การ์ตูนจะมีจุดแตกต่างจากคนแสดงเลยคือความตลก สีสัน สนุกสนาน ความเวอร์ ๆ เกิน ๆ เหนือจากความเป็นจริงที่ทำให้เด็กรู้สึกดึงดูดอยากดูโดยไม่ลุกหนีจากหน้าจอ
แต่พอเป็นฉบับคนแสดงมันจะต้องอาศัยความสมจริงขึ้นมา มากไปก็ไม่ได้ น้อยไปก็ไม่ดี ความซีเรียสจริงจังจะดึงให้คนดูมีอารมณ์ร่วม ไหนจะรูปลักษณ์หรือบุคลิกลักษณะของนักแสดงอีก แต่เห็นว่าทางฝั่งญี่ปุ่นเลือกเป็นทีมเดิมจากอนิเมะหมดเลยอันนี้ก็ไม่ว่ากัน(แอดไปลองฟังมาแล้วก็ยังรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน🤣)
เพราะสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทีมพากย์ว่าจะใช้ทีมไหน ฉะนั้นเลือกรับชมตามสะดวกของแต่ละคน แต่บอกเลยว่าพากย์ไทยฟังลื่นหูถ้าไม่ติดที่ว่า EP.8 เสียงมีปัญหาช่วงไฟนอลพอดีฉากกำลังเดือด ๆ เสียมู้ดไปเลย
ปล.เห็นว่าแก้ไขเสียงแล้วสามารถรับชมได้ปกติ
ภาพถ่ายรวมนักแสดงซีรีส์ One Piece
ในส่วนของนักแสดงมองว่าอาจารย์โอดะแกเต็มที่กับการเฟ้นหาคนที่จะมารับบทโคตรหนักไม่ใช่ว่าใครจะมารับบทก็ได้ แต่มันต้องถูกใจแกจริง ๆ ตามที่แกวาดหวังไว้ ไม่โอเคก็ไม่ให้ผ่าน แฟน ๆ ก็โล่งใจเพราะเราเห็นมากันหลายเรื่องแล้วที่หานักแสดงได้แบบว่า เฮ้อออ แถมนอกจากนี้คือนักแสดงทุกคนยังอินกับบทของตัวเองจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
อินากิ รับบทเป็น ลูฟี่
- ลูฟี่(อินากิ) พลังงานเหลือล้นมากจริง ๆ สายตา รอยยิ้ม ท่าทาง แสดงออกมาได้ดี เข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์ถึงเลือกอินากิ ไม่มีอะไรติได้เลย แต่พอดู ๆ ไปความรู้สึกของแอดคือยังไม่เฉิดฉายนักต้องอาศัยเวลาบ่มเพาะอีกหน่อย👑
เอมิลี่ รับบทเป็น นามิ
- นามิ(เอมิลี่) สวยมากกกกกแถมน่ารัก ดูมีเสน่ห์ ชอบ EP หลัง ๆ ที่เอมิลี่แสดงสีหน้าและอารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจนทำให้คนดูรู้สึกอินตาม แววตาหลากหลายไม่ต้องมีบทพูดก็รับรู้ได้ว่าตัวละครกำลังรู้สึกแบบไหนอยู่🍊
แม็คเคนยู รับบทเป็น โซโร
- โซโร(แม็คเคนยู) หล่อแบบวัวตายควายล้ม เจ้าพ่อ Live action ของจริง คนที่บ้านเรียกพ่อมหาจำเริญหรือสุดหล่อ นอกจากเป็นเฮียหลงแล้วหนูยังหลงเฮียอีก แม้บทดูนิ่ง ๆ แต่กินเรียบนะครับ เท่แบบไม่มีเบรค ยืนเฉย ๆ ก็หล่อ กินเหล้าก็ยังหล่อ เป็นคนที่ใช้คำว่าหล่อได้สิ้นเปลืองสุดแล้ว เป็นพ่อหนุ่มหัวมอส ทุ่มเทสุดตัวเพื่อสวมบทบาทให้เหมือนโซโร 300% โดยการเข้ากองช้ากว่าเพื่อน นับถือที่เฮียต้องไปฝึกการใช้ 3 ดาบเพิ่มอีก🙇🏼♀️⚔️
ทาซ รับบทเป็น ซันจิ
- ซันจิ(ทาซ) มีการปรับบุคลิกตัวละครให้ดูนิ่งสุขุมนุ่มลึกขึ้นจากความรู้สึก แต่สายตาโคตรแพรวพราวเวลาจีบสาว คือหนุ่มเจ้าชู้ไม่จำเป็นต้องแสดงออกแบบหื่นกระหายดูคุกคาม แต่คำพูดและการกระทำนี่แหละชวนใจสั่นของจริง สุภาพบุรุษ เอาใจใส่ เทคแคร์สาว คุณทาซรอยยิ้มน่ารักมาก ๆ ซันจิกลายเป็นผู้ชายอบอุ่นไปเลย ชอบซันจิเวอร์ชั่นนี้มากกกกก พ่อเตาไมโครเวฟ เราต้องเรียกเขาว่าบ๋อยแทนคิ้วม้วนแล้วนะ🥹🍽️
เจค็อป รับบทเป็น อุซป
- อุซป(เจค็อป) เหมือนอุซปมากแบบตะโกนนนว่า เหมือน!! ไม่ต้องมีจมูกยาวก็เหมือนในการ์ตูน🤣 ในหลาย ๆ ซีนจะมีการกระชากยิ้มมุมปากด้วยแบบมันดูเท่นะว่าไม่ได้ ภาพจำที่แอดนึกได้เกี่ยวกับอุซปคือเป็นคนขี้โม้ ขี้โกหก ดูน่ารำคาญ แต่เมื่อมาเป็นฉบับคนแสดงทำให้เราได้เห็นมุมมองที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง มีความเป็นมนุษย์ขึ้นจนก่อให้เกิดความเข้าใจในตัวละคร เกลียดไม่ลงเลย🏹
- และตัวละครอื่น ๆ ที่อาจเขียนได้ไม่ครบทุกคนแต่รวมแล้วโอเคไม่แย่ หลาย ๆ ตัวละครดูเท่ไปด้วยซ้ำสำหรับเวอร์ Live-action แบบเกินเบอร์ไปมาก โดยเฉพาะบากี้(เจฟฟ์) คือเป็นตัวละครที่อยากเห็นสุดแล้วเพราะเปิดตัวมาโคตรเท่ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นตัวตลกสมชื่อขนาดนี้😅
บทหนังสำหรับเราที่ไม่ใช่แฟนวันพีซค่อนข้างโอเคเลย เนื้อเรื่องกระชับมาก เดินโคตรไว ไม่ยืดเยื้อ แต่บางซีนมันดึงอารมณ์ได้ไม่สุดนัก ดูสะดุดไม่สมูทถ้ามีเวลามากกว่านี้คงจะดีมาก เห็นว่าเดิมทีจะมี 10 ตอน แต่ลดเหลือแค่ 8 ตอน จึงต้องเดินเรื่องให้เร็วส่งผลให้หลายซีนดูแปลก ๆ คำพูดไม่ลื่นไหล
แต่สำหรับ Live-action ดัดแปลงก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าเรื่องอื่น ๆ แม้ว่าบางพาร์ทจะดูการ์ตู๊นการ์ตูนก็เถอะ การเล่ามุมมองเรื่องราวเพิ่มเติมที่แตกต่างไปจากฉบับการ์ตูน เช่น โคลบี้ เฮลเมปโปะ เท่าที่พอจำได้จากการ์ตูนกว่าจะบทบาทก็นาน(จำผิดจำถูกขออภัย) รวม ๆ แล้วเป็นอีกเส้นเรื่องที่น่าสนใจพอ ๆ กับเส้นเรื่องหลัก
ฉากเศร้าหรือดึงอารมณ์ทำได้เกือบดีบางซีนเลยมันดูไม่อิมแพคทั้งที่สามารถทำได้ เวลาบิ้วท์อารมณ์น้อยเนื่องด้วยจำนวนตอนมีไม่มากเวลาจำกัดก็ต้องตัดตอนเอาเฉพาะส่วนที่สำคัญ ๆ ซึ่งแอบเสียดายเพราะถ้าลากอารมณ์ให้ยาวขึ้นมันจะดราม่าได้มากกว่านี้
ส่วนตัวชอบซีนใน EP.6 แอดที่ไม่ได้ตามมังงะและอนิเมะตอนนั่งดูจำได้เลยว่านั่งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ น้ำตาแตก พูดได้คำเดียวว่า ‘พี่นี่อึ้งไปเลยย้ง!’
ส่วนฉากแอคชั่นเกือบสุดแต่ก็ไม่สุด มันส์ เร้าใจเป็นช่วง ๆ แต่เท่าที่สังเกตเหมือนทีมงานเขาพยายามจะทำให้คล้ายฉบับการ์ตูนแม้จะดัดแปลงจาก 2D ออกมาเป็น 3D ให้ดูสมจริงมากขึ้นแล้วก็ตาม
ไม่ว่าจะการกระโดด การเตะต่อย การตีลังกาผาดโผน ผลที่ได้คือฉากแอคชั่นดูเหมือนโหนสลิงไปมาเฉย ๆ ถ้าไม่ได้เสียงประกอบหนังเข้าช่วยคงอาการแย่กว่านี้
อีกซีนที่อยากทั้งติและชมไปในตัวคือ ซีนที่แม็คเคนยูใช้ดาบ เห็นได้ชัดเลยว่าทุ่มสุดตัวจริง ๆ ปกติใช้แค่ 1-2 เล่ม ก็ว่ายากแล้วในเรื่องต้องใช้ถึง 3 เล่ม จึงเพิ่มดีกรีแอดวานซ์ไปอีกขั้น อันนี้ต้องปรบมือในความพยายามของพี่เขา
แม็คเคนยูผู้ที่ทุ่มเทกับบทบาทสำคัญในชีวิต
ข้อติคือพอต้องสวมบทบาทเป็นโซโรและฟันดาบไปด้วย บางจุดเลยดูแปลกไม่ค่อยสมูทไปกับสถานการณ์(หรือพวกเราชินตากับเรื่องเคนชินก็ไม่รู้) คาดว่าซีซั่นหน้าเฮียจะทำได้ดีขึ้นนะ
มาถึงไฮไลต์ของเรื่องนั้นก็คืองานภาพและ CG เมื่อเราไม่คาดหวัง = ไม่ผิดหวัง ทั้งเรื่องทำออกมาได้เนียนตา ไม่โป๊ะไม่ลอยสักนิด ได้ข่าวว่างบประมาณก็สูงตามไปด้วยอย่างว่าทั้งเรื่องมันโคตรแฟนตาซีต้องตัดต่อเยอะกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา
พวกสัตว์ในเรื่องดูดีกว่าที่คิด ไม่ตลก ไม่ลอย ออกแบบได้สมจริงดูจับต้องได้ วันพีซขึ้นชื่อเรื่องความเป็นแฟนตาซีจ๋ามาก ๆ ฝ่ายอาร์ตก็ขับเคลื่อนผลงานได้ลงตัวเป็นอย่างดี เสื้อผ้า หน้าผม หรือ Special Effect Makeup ก็ทำออกมาดูดีสมจริง บางตัวละครแต่งออกมาดูน่าเกลียดน่ากลัวดีจนอยากยกย่องทีมงานว่าทำการบ้านกันหนักจริง ๆ
จุดสังเกตหนึ่งที่เรารู้สึกได้น่าจะเป็นการ Close up ตัวละครให้เป็นมุมกว้าง(เรียกถูกไหมนะ?) แล้วใช้การเบลอภาพไปรอบ ๆ เพื่อโฟกัสแค่ตัวละคร(Radial Blur) มองเผิน ๆ คล้ายแสงแฟร์แต่ไม่ใช่ ซึ่งเราคิดว่าเขาน่าจะทำไปเพื่อไม่ให้ CG ด้านหลังดูลอย แม้ว่าบางฉากจะใช้สถานที่จริงถ่ายทำก็ตาม มันไม่ได้เป็นทุกซีนนะแต่พูดตามตรงแอบชวนมึนหัวพอสมควรไม่รู้คุณผู้ชมท่านอื่น ๆ เป็นเหมือนกันไหม
มุมกล้องที่บางทีก็ถ่ายกว้างไปจนมองไม่ออกว่าตัวละครกำลังทำอะไรอยู่หรือซูมใกล้เกินเหตุหรือเหวี่ยงจนชวนอ้วก อันนี้จะถือว่าแอดอายุเริ่มเยอะแล้วกันนะ สายตาไม่ค่อยดี😅
สรุปแล้ว One Piece เวอร์ชั่นนี้สำหรับแอดดูเพลินสนุกตั้งแต่ตอนแรกยันตอนจบ Enjoy สุด ๆ อาจจะไม่ได้ดีมาก 100% แต่เมื่อมองข้ามข้อผิดพลาดบางจุดไปก็ต้องยอมรับแหละว่าเขาเคารพต้นฉบับเท่าที่เขาจะทำได้
ปรับเปลี่ยนบางอย่างที่นำจาก 2D มาใช้ใน 3D ให้เข้ากับยุคสมัยจนทุกอย่างลงตัวกลมกล่อมกลายเป็นวันพีซฉบับคนแสดง เพราะถ้าก๊อปปี้เลียนแบบทำตามมังงะหรืออนิเมะหมดโดยไม่ปรับเปลี่ยนพูดตามตรงว่าคงไม่ดีเท่าไรมันจะขาดเสน่ห์ของซีรีส์ ความสมจริง ความเป็นมนุษย์ที่จับต้องได้ แม้ว่ามันจะดูแฟนตาซีแต่มันก็ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับตัวละครที่เรารัก🫶🏼
⭐️ คะแนน 9/10 ⭐️
#ตื่นมาวิเคราะห์ #OnePiece #OnePieceNetflix #NetflixTH
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
