14 ก.ย. 2023 เวลา 17:53 • ปรัชญา

พระอเสขะ ..เอาจิตมาสร้างบุญสร้างบารมี..หนีเวรกรรม

ก็เป็นความวาสนา เป็นคนที่สร้างบุญเป็น ใครๆก็มาร่วมอนุโมทนา เออ..วันนี้ ..ดาว..มาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย มารอคอยแล้ว มากันประมาณยี่สิบตนได้ มาเต็มลำของเค้านั้นแหละ
การทำบุญการปฏิบัติด้วยความเต็มใจ เราก็สังเกตด้วยตัวของตัวเราเองเกิดขึ้น มีความอิ่มเอิบใจ มีความภูมิใจในจิตใจของเรา นั่น คือ ความสุขที่หาไม่ได้ จะเอาอะไรมาแลก เงินทองแลกกันไม่ได้ ไม่เห็นต้องลงทุนมากมาย ลงทุนด้วยการกระทำจากใจของเราที่ทำด้วยความตั้งอกตั้งใจ ทั้งกายวาจาใจ นอบน้อมอยู่ในรัตนะธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประกาศอยู่ในใจ อยู่ตลอดเวลา ฉันต้องการบุญ ต้องการบารมี
ต้องการบุญ ต้องการบารมี ก็ต้องทำจิตทำใจ ให้มั่นคงในความกระตือรือร้น ให้ตั้งอกตั้งใจ ที่จะกระทำขึ้น ความบริสุทธิ์ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ อยู่ที่ใจของเรา เมื่อต้องการความสุขที่จิต เราก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง วัตถุนั้นเป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมา หนุนนำให้เรากระตือรือร้นในการสร้างบุญสร้างกุศลเกิดขึ้น
บางคนก็เอาปัจจัยนำหน้า คิดว่าเงินทองสามารถช่วยเหลือให้พ้นจากความทุกข์ได้ ทำบุญเป็นการใหญ่ แต่ใจมันไม่ทำ วัตถุมันก็แช่อยู่ตรงหน้า ตรงนั้นแหละ ไม่ได้ไปกระจายไปไหน กองเป็นภูเขาเลากามากมาย เค้าให้เอาใจมาทำเอาจิตมาทำ สลัดบาทเดียว มันก็เป็นเนื้อนาบุญด้วยที่จิตของเราที่สูงส่ง อยากจะทำมาทำมายก็อีกเรื่องหนึ่ง บาทเดียวก็กระจายบุญไปทั่ว
ถ้าเปรียบก็เหมือนเรา เอาแสง แสงของจิตมาทำบุญ ไม่ได้เอาวัตถุมา นั้นมันเป็นเครื่องหนุนนำให้เรา มั่นใจในเรื่องการสร้างบุญเท่านั้น จิตมันมา จิตมันไป ก็ต้องใช้จิตของเรา เป็นตัวตั้ง
ผู้ที่เห็นบุญไม่สำคัญ บารมีที่แก้ไขไม่สำคัญ เพิ่มบุญ เข้าไปอีก คือ ฟังธรรมแล้วไม่ได้คิด คิดอยู่อย่างเดียว หมดเปลื้อง หมดเวลา ควรจะไปคิดไปอ่านทำอย่างโน้นอย่างนี้ จะต้องการวัตถุต่างๆ วัตถุต่างๆได้มา มันก็แก่ตายเจ็บตาย มาทำให้ทุกข์เปล่าๆ เอามาแล้วก็ต้องเอาออก เอาออกให้มันเป็น เป็นเนื้อนาบุญขึ้น คราวนี้..เอาออกไม่เป็น กลายเป็นกรรมไปอีก
เออ..วันนี้องค์ธรรม ท่านมาสอนเอง มากำกับ หมู่นี้ภิกษุ เค้าไม่ค่อยได้เดินจงกรมด้วย ก็พอไปปะทะแสงเข้า กายก็รับแสง ก็เลยเปลี้ยไป มันก็เลย สะท้าน ร่างกายมันไม่ดีนั้นน่ะ อายุก็มาก ร่างกายก็ทรุดบกพร่องเป็นธรรมดา ก็ช่วยกันไป ถูกแสงของธรรม องค์อื่นเค้าก็มาช่วยบำรุง เพิ่มกำลังแสงเข้าไป
เอ้า..กลับคืนมาอีก ก็อยู่อย่างนี้ อยู่ที่ว่าผู้ที่มาเต็มใจ เต็มใจสร้างบุญสร้างบารมี เต็มใจที่มั่นในธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าจิตของเราต้องผ่านพ้นทุกข์ ไปพิจารณาดู..วัตถุไม่ได้สร้าง ไม่ได้ทำให้จิตของเรามีสุข ธรรมเท่านั้น ที่ทำให้จิตของเรา มีสุขที่แท้จริง
เออ..เอาล่ะ เวลามันไม่คอย ดึงไม่อยู่ มันก็ไปของมันเรื่อย ชีวิต..กายก็ไปเรื่อยตามเวลา ให้เดินทาง มีความสุขกายสุขใจ และปลอดภัย ให้มีสุขภาพ ทั้งกายทั้งจิต ให้มีจิตใจที่สูงส่ง มีธรรมเป็นที่พึ่งไปทุกชาติๆ ให้กายมีบุญ จิตมีธรรม ไปทุกชาติๆ จนกว่าบรรลุธรรมน่ะ
จิตเต สังขะโห โพธิทะรัง จัตเตวะสัง จิตธะวะโร จิตตะ มะนังตัง สีกัปปะ วะริยะโต โหตุ ..เอาล่ะ เอาแค่นี้..ร่างกายของภิกษุไม่ค่อยจะไหว สุขกายสุขใจน่ะ ..สาธุ สาธุ สาธุ
โฆษณา