อยากเปิด "ร้านก๋วยเตี๋ยว" เริ่มยังไง
ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านด้วยกันนะครับ
อาหารประเภทเส้น กินง่าย หลากหลาย ไปไหนมาไหนก็เจอขายโดยทั่วไป หิวเมื่อไหร่แวะกินได้เลย ถ้านึกดูแล้ว นึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันมั้ยครับ
ก๋วยเตี๋ยวไม่เพียงหลากหลายแค่ประเภทของเส้น แต่หลากหลายไปถึงน้ำซุปและประเภทของก๋วยเตี๋ยว เลยอาจทำให้เป็นหนึ่งเมนูในใจของใครหลาย ๆ คน
แล้วถ้าอยากทำร้านก๋วยเตี๋ยว หรือเข้ามาในธุรกิจก๋วยเตี๋ยว จะต้องเริ่มยังไง ไปดูกันเลยครับ
ผมอยากให้ทุกคนมองไปที่ “กลุ่มลูกค้า” ก่อนเลยครับ ว่าร้านของเราต้องการลุ่มลูกค้าแบบไหน
- กลุ่มลูกค้าเน้นราคา
- กลุ่มลูกค้าเน้นรสชาติ คุณภาพและบริการ
เพราะทิศทางของสองอย่างนี้ จะค่อนข้างแตกต่าง
🐤[ กลุ่มลูกค้าเน้นราคา ]
ถ้าร้านเราเน้นลูกค้าเรื่องราคา ก็ต้องเป็นก๋วยเตี๋ยวกินแล้วอิ่ม ในราคาตามตลาดทั่วไป 30-60 บาท ต่อมื้อ อาจเป็นก๋วยเตี๋ยวที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด เช่น ร้านบะหมี่หมูแดง ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ
สิ่งที่ต้องโฟกัสเลยคือ ทำเล สะดวกเข้าถึงง่าย พบเห็นได้ง่าย ถ้าเราสังเกต ร้านก๋วยเตี๋ยวแบบนี้จะเกาะอยู่กับสถานที่คนผ่านเยอะ เช่น เซเว่น หรือ ที่จอดพักรถ พูดง่าย ๆ คือ ทำเลร้านของเราต้องไปหาลูกค้านั่นเองครับ
1. ซื้อระบบแฟรนไชส์
เหมือนกันกับระบบแฟรนไชส์อื่น ๆ คือเราจะใช้เงินก้อนไปซื้อระบบเขามา ทั้งสูตรน้ำซุป ขั้นตอนการขาย หรือ Know how ต่าง ๆ เกี่ยวกับสูตรก๋วยเตี๋ยวเจ้านั้น ๆ อาจจะรวมไปถึงการจัดหาวัตถุดิบให้
ต้นทุนเราสามารถคิดได้ค่อยข้างแน่นอน เพราะการเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบของแฟรนไชส์จะเปลี่ยนยากกว่า สินค้าตามตลาดทั่วไป คุณภาพของรสชาติและวัตถุดิบก็จะถูกกำหนดไปตามมาตรฐานของทางแฟรนไชส์
💰ตัวอย่างราคาเริ่มต้นของแฟรนไชส์ (แบบรถเข็น)
> ชายสี่ปะหมี่เกี๊ยว เริ่มต้น 68,636 บาท
> แชมป์นายฮั้งเพ้ง เริ่มต้น 19,800 บาท
> โกเด้งโฮเด้ง เริ่มต้น 28,940 บาท
*รายละเอียดภายในหรือข้อตกลงต่าง ๆ จะต้องติดต่อไปที่เจ้าของแบรนด์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
2. สร้างแบรนด์ตัวเอง
การจัดการต่าง ๆ เราเองต้องเป็นคนจัดหาเองทั้งหมด ทั้งเรื่องรถเข็น หาวัตถุดิบ สูตรน้ำซุป ป้ายไฟ หม้อก๋วยเตี๋ยว จนไปถึงวัตถุดิบในแต่ละวัน
แต่ก็เราเองก็สามารถปรับปรุงรสชาติได้ตามความต้องการ ลูกค้าจะได้รสชาติที่แตกต่างจากแบบแฟรนไชส์ สามารถเพิ่มลูกเล่นหรือใส่อะไรพิเศษเพื่อสร้างความสนใจให้ลูกค้า
💰ตัวอย่างเงินลงทุนเริ่มต้นทำร้านเอง (แบบรถเข็น)
- ●รถเข็น + ป้ายไฟ ราคา 10,000 – 15,000 บาท
- ●หม้อก๋วยเตี๋ยว ราคา 1,800 – 3,500 บาท
- ●ตู้ก๋วยเตี๋ยวเหล็ก ราคา 1,500 – 3,000 บาท
- ●เตา + ถังแก๊ส ประมาณ 3,500 - 4,500 บาท
- ●โต๊ะพับ + เก้าอี้พลาสติก 6 ชุด ประมาณ 5,000 - 6,000 บาท
- ●ตะกร้อลวกก๋วยเตี๋ยว ราคา 150 - 250 บาท
- ●กระบวยตักน้ำซุป ราคา 150 - 250 บาท
- ●ที่กรอกก๋วยเตี๋ยว ราคา 40 - 60 บาท
- ●แก้วพลาสติก 20 ใบ 200 - 250 บาท
- ●ช้อนสั้น 50 คัน 150 - 200 บาท
- ●ตะเกียบ 50 คู่ ราคา 500 - 600 บาท
- ●พวงเครื่องปรุงพลาสติก 20 - 50 บาท
- ●กล่องใส่ตะช้อนตะเกียบพลาสติก 30 - 70 บาท
- ●ชามก๋วยเตี๋ยวพลาสติก 50 ใบ 1,000 – 1,200 บาท
- ●คูลเลอร์น้ำดื่มอลูมิเนียม 1 ถัง 1,000 – 1,500 บาท
เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 25,000 – 40,000 บาท
* จะเห็นว่าเงินลงทุนเริ่มต้นจะต่ำกว่าแบบซื้อแฟรนไชส์ แต่ก็ตามมาด้วยความยุ่งยากที่เพิ่มขึ้น
💰[ เงินลงทุนหมุนเวียน ]
- ●ค่าเช่าที่บริเวณเซเว่น 2,000 - 6,000 บาท / เดือน (สามารถติดต่อผู้จัดการสาขานั้น ๆ ได้เลย)
- ●ค่าแก็ส / ค่าไฟ / ค่าน้ำ 3,000 – 5,000 บาท / เดือน
- ●เงินทุนหมุนเวียน 1,000 – 3,000 บาท / วัน (ค่าวัตถุดิบประมาณ 100 ชาม / วัน)
- ●ค่าจิปาถะ 200 – 1,000 บาท / วัน (เงินทอน, ตะเกียบ, น้ำแข็ง ฯลฯ)
🐤[ กลุ่มลูกค้าเน้นรสชาติ/บริการ ]
ลูกค้ากลุ่มนี้ยอมจ่ายราคาก๋วยเตี๋ยวที่แพงขึ้น เพื่อรสชาติที่อร่อยกว่า, กุ้ง/หมู/ลูกชิ้น ที่ใหญ่กว่า, ใช้เนื้อพิเศษนำเข้า, บริการที่มีมากกว่าเดิม เช่น มีห้องแอร์, บริการฟรี WIFI, ร้านที่ตกแต่งสวยบรรยากาศดี
โดยรวมคือเราต้องยกระดับร้านอาหาร ให้มีเมนูหรืออะไรก็ตามที่ลูกค้าต้องนึกถึงอะไร ถ้าจะมาร้านเรา เช่น
- ★ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือริมนา บรรยากาศลมเย็น มีวิวต้นตาล และน้ำตาลสดขาย
- ★ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล กากหมู สูตรโบราณ ที่ใส่เครื่องมาจุก ๆ
- ★ร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เส้นดี เหนียวนุ่ม รสชาติจัดจ้าน
- ★ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นยาจีน รสชาติเข้มข้น เนื้อนุ่มละมุนลิ้น สูตรลับของอาม่า
หรือจะมีลูกเล่นอื่น ๆ เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวสามบาท ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่จุดเด่นของเขาคือ ร้านมีก๋วยเตี๋ยวราคาถ้วยละ 3 บาท ขนาดพอคำ ทำให้ลูกค้าแข่งกันกินเพื่อสร้างคอนโดถ้วยก๋วยเตี๋ยว ถ่ายลงโซเชียลอวดกัน
และอะไรแบบนี้ต้องเป็นสูตรลับตกทอดรุ่นสู่รุ่นรึปล่าวเราถึงจะทำขายได้ ผมคิดว่าไม่เกี่ยว ของแบบนี้ฝึกทำและหาข้อมูลในเน็ตได้ เพียงแต่เราต้องใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปเยอะ ๆ ทำอะไรแปลกใหม่และพิเศษ
ถ้าจะพิจารณาทำเลเองก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องยอมรับเลยว่า ร้านที่มีจุดเด่นแม้ทำเลจะอยู่ในซอกซอย ริมแม่น้ำ ติดทุ่งนา หรือจะต้องขับรถไกลออกตัวเมืองไปหน่อย ลูกค้าก็ยอมไปเพื่อประสบการณ์ที่มากกว่าเดิม
เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 200,000 – 1,500,000 บาท (ขึ้นกับขนาดและทำเลของร้าน)
🐤[ เมนูเสริม เพิ่มยอดขาย ]
นอกจากเมนูหลักที่เราทำขายให้ลูกค้าแล้ว ไม่อยากให้ร้านลืมที่จะมีเมนูเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับร้านเรา
ยกตัวอย่างไอเดียให้เห็นภาพ
- 1.เรามีเมนูเรียกน้ำย่อยของที่ทำได้ไว ให้ลูกค้าทานรอระหว่างเราทำเมนูหลัก
- 2.เมนูหลักมาเสิร์ฟ มีเมนูน้ำผลไม้ตามฤดูกาลปั่น (นอกจากน้ำเปล่า, น้ำอัดลม) ขายเพิ่มด้วย
- 3.ทานเสร็จมีของหวานเบา ๆ ให้ลูกค้าทานตบท้าย
- 4.ก่อนลูกค้ากลับ มีโต๊ะขายของที่สามารถซื้อกลับบ้านเพิ่มเติม เช่น ขนมหวานแพ็คกล่อง
แล้วถ้าเราไม่มีแหล่งวัตถุดิบ ทำไม่เก่ง หรือทำไม่เป็น เราอาจจะติดต่อหาพันธมิตรที่ชำนาญ รับของเขามา กินกำไรส่วนต่างก็ได้ ลดความวุ่นวายที่เราต้องเตรียมอะไรเองทั้งหมด
🐤[ โดยสรุป ]
- ✓ถ้าเป็นกลุ่มลูกค้าแบบเน้นราคา เราก็ต้องเน้นเรื่อง ทำเลและราคาคุ้มอิ่ม เป็นเรื่องแรก ๆ กำไรต่อชามจะได้ค่อนข้างน้อย แต่มีข้อดีคือ ลงทุนเริ่มต้นไม่มาก และลูกค้าทั่วไปทานได้
- ✓ถ้าเป็นกลุ่มลูกค้าแบบเน้นรสชาติ/บริการ ก็ต้องชูจุดเด่นของร้านค้าให้ได้ ต้องเผยแพร่และโฆษณาในโซเชียลมิเดียเยอะ ๆ เพื่อให้ลูกค้าเห็นตัวตนของร้านเรา อาจจะต้องลงทุนก้อนใหญ่ขึ้น และใส่ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น แต่ก็แลกมากับกำไรต่อชาม ที่เพิ่มขึ้นตาม
แต่อย่าโฟกัสแค่เรื่องภายนอก เช่น ขนาดภาชนะ ประเภทภาชนะ บรรยากาศร้าน จนลืมเรื่องรสชาติอาหาร เพราะร้านอาหารยังไงก็ต้องอร่อยลูกค้าถึงจะกลับมาทานอีกครั้ง
เล่าถึงประสบการณ์ตรง ผมไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ชูจุดเด่นคือชามใหญ่ แต่พอทานก๋วยเตี๋ยวไป รสชาติจัดว่าธรรมดามาก แถมชามใหญ่ ใหญ่จนหงุดหงิด เพราะโต๊ะนั่งทานก็เล็กนิดเดียววางได้แต่ชาม ร้านโฟกัสผิดจุด
- ✓และอย่าลืมหาอะไรมาเพิ่มยอดขายให้ร้าน
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ ขอบคุณครับ
แหล่งที่มา
แผนธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวติ๊กถูก ” Business Plan for Noodle Restaurant “TEAW TICK TOOK” ของคุณสุชาวดี กิจเกษตรสถาพร ปี 2559
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
