Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เริ่มใหม่ ยังไงก่อน
•
ติดตาม
21 ก.ย. 2023 เวลา 02:30 • ธุรกิจ
อยากทำ "ฟาร์มปลาดุก" เริ่มยังไง
ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านด้วยกันนะครับ
ปลาดุกเป็นปลาเศรษฐกิจพบเห็นได้ง่าย และเป็นอาหารคู่คนไทยหลากหลายเมนู แถมแปรรูปเป็นอาหารได้หลายประเภท ความต้องการในตลาดมีมาก ปริมาณและมูลค่าผลผลิตปลาดุกจากการเพาะเลี้ยง
●
ปี 2564 ผลผลิต 96,215 ตัน มูลค่าตลาด 4,389.5 ล้านบาท
●
ปี 2565 ผลผลิต 94,892 ตัน มูลค่าตลาด 4,369.4 ล้านบาท
●
ปี 2566 ผลผลิต 94,949 ตัน มูลค่าตลาด 4,374.3 ล้านบาท (ตัวเลขคาดการณ์จากกรมประมง)
แล้วถ้าต้องการเริ่มฟาร์มปลาดุก ระบบปิด ต้องเริ่มยังไง ไปดูกันครับ
🐤[ รูปแบบการเลี้ยง ]
ปกติในประเทศไทยเรานิยมเลี้ยงปลาแบบระบบเปิด หมายถึงการเลี้ยงในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น เลี้ยงแบบกระชัง หรือ มีการดึงน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ เช่น เลี้ยงบ่อดิน
การเลี้ยงแบบนี้จะทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพน้ำ ควบคุมอาหาร หรือโรคภัยที่มากับน้ำได้เลย การส่งออกในไทยจึงยังไม่มากนัก
★
แล้วการเลี้ยงระบบปิดเป็นยังไง?
เป็นการเลี้ยงโดยใช้น้ำเวียนในระบบ โดยการควบคุมคุณภาพน้ำ ควบคุมอุณหภูมิ หมั่นตรวจสอบสม่ำเสมอ สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเลี้ยงที่สุด และยังช่วยในเรื่องการควบคุมโรคที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
เพิ่มเติมด้วย ควบคุมปริมาณออกซิเจนให้พียงพอ ควบคุมปริมาณและคุณภาพอาหาร ทำให้เราสามารถเลี้ยงปลาปริมาณได้มาก หนาแน่น ในพื้นที่ที่จำกัด และทรัพยากรน้ำจำกัด
การเลี้ยงระบบปิดดูยุ่งยากมากกว่า แต่ก็ได้การจัดการที่เป็นระบบ ควบคุมได้ง่ายกว่า เนื้อปลามีคุณภาพ อัตราการรอดสูงถึง 70 – 95 % แถมสามารถต่อยอดถึงการส่งออกได้อีกด้วย
🐤[ พันธุ์ของปลาดุก ]
หลัก ๆ ที่อยู่ในท้องตลาด ที่คนนิยมมาบริโภค หรือเพาะเลี้ยง
1.
ปลาดุกอุย หรือ ปลาดุกนา เนื้อมีรสชาติมัน อร่อย ราคาขายสูง แต่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้า เหมาะสำหรับเลี้ยงบ่อดิน ลูกพันธุ์หายาก ระยะเวลาเลี้ยง 4-5 เดือน
2.
ปลาดุกรัสเซีย เนื้อกระด้าง ไม่น่ารับประทาน แต่ตัวใหญ่ เลี้ยงง่าย โตไว ทนสภาพแวดล้อม ระยะเวลาเลี้ยง 3-4 เดือน
3.
ปลาดุกบิ๊กอุย หรือ ปลาดุกอุยเทศ (ปลาดุกอุย + ปลาดุกรัสเซีย) นิยมมากในตลาด เพราะเลี้ยงง่าย ทนต่อโรคแบบปลาดุกรัสเซีย แต่เนื้อและรสชาติคล้ายปลาดุกอุย ทำให้หาพันธุ์ปลาได้ง่าย
ตัวอย่างราคาพันธุ์ปลาดุกจากกรมประมง
●
ปลาดุกอุย ขนาด 2 -3 เซนติเมตร ราคาตัวละ 0.40 บาท
●
ปลาดุกอุย ขนาด 5 -7 เซนติเมตร ราคาตัวละ 1.00 บาท
●
ปลาดุกอุยเทศ ขนาด 2 -3 เซนติเมตร ราคาตัวละ 0.20 บาท
●
ปลาดุกอุยเทศ ขนาด 5 -7 เซนติเมตร ราคาตัวละ 0.80 บาท
●
ปลาดุกอุยเทศ ขนาด 7 -10 เซนติเมตร ราคาตัวละ 1.50 บาท
*ระยะเวลาในการเลี้ยง ก็จะขึ้นกับขนาดของพันธุ์ปลาที่เราซื้อมา
🐤[ พื้นที่เลี้ยง ]
เราจะพูดถึงบ่อผ้าใบ แล้วทำไมต้องบ่อผ้าใบ? บ่อผ้าใบจะมีความคล่องตัวสูงกว่าในการจัดสรรพื้นที่ การทำความสะอาด การเพิ่มขยายขนาดบ่อ
พื้นผิวของบ่อเรียบกว่ามีผลกระทบต่อผิวปลาน้อยกว่าบ่อปูน ปลาไม่เป็นแผลง่าย ไม่อมความร้อนเท่าบ่อปูน แต่ต้องมีที่คลุมแดดให้บ่อ เพื่อป้องกันผ้าใบกรอบ
★
บ่อสี่เหลี่ยม VS บ่อกลม แบบไหนดีกว่า?
บ่อกลมจะบรรจุน้ำได้สูงกว่าแบบบ่อสี่เหลี่ยม เพราะกระจายแรงของน้ำได้ดีกว่า บ่อกลมการไหลเวียนของน้ำดีกว่า และไม่มีจุดอับที่ตะกอนตามมุมของบ่อ
ตัวอย่างราคาบ่อผ้าใบ
●
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร (ความจุประมาณ 20 ตัน) ราคา 20,000 บาท
●
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร (ความจุประมาณ 50 ตัน) ราคา 36,900 บาท
●
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร (ความจุประมาณ 78 ตัน) ราคา 49,900 บาท
●
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 เมตร (ความจุประมาณ 113 ตัน) ราคา 66,900 บาท
*บ่อผ้าใบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร สามารถเลี้ยงปลาได้ประมาณ 10,000 ตัว (ประมาณ 2,000 – 3,000 กิโลกรัม)
💰[ เงินลงทุนเริ่มต้น ]
●
ค่าบ่อผ้าใบขนาด 5 เมตร 2 บ่อ 40,000 บาท
●
ค่าปรับปรุงพื้นที่ 20,000 – 50,000 บาท (เทพื้นปรับระดับ + โครงกันแดด)
●
ค่าระบบน้ำ ระบบไฟ 5,000 บาท
●
ค่าปั้มน้ำหอยโข่ง 3 นิ้ว 3 HP 10,000 – 14,000 บาท
●
ค่าปั้มลม 750 วัตต์ 4,000 - 5,000 บาท
รวมเงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 80,000 – 110,000 บาท
💰[ เงินลงทุนหมุนเวียน ]
●
ค่าพันธุ์ปลา 10,000 – 15,000 บาท
●
ค่าอาหาร 45,000 – 60,000 บาท (จำนวน 80 - 90 กระสอบ ระยะเวลาประมาณ 3 - 4 เดือน)
●
ค่าไฟ 2,000 – 3,000 บาท
●
ค่าจิปาถะ 1,000 – 2,000 บาท
รวมเงินหมุนเวียนประมาณ 60,000 – 80,000 บาท / หนึ่งรอบการขาย
🐤[ วิธีการเลี้ยง ]
1. การคุมคุณภาพน้ำ
●
เตรียมคุณภาพน้ำก่อนลงปลา เช่น ค่า pH ค่าออกซิเจน อุณหภูมิ
●
ตรวจคุณภาพน้ำอยู่เสมอ ทุกเช้า
- ค่าแอมโมเนีย(ขี้ปลา) ไม่เกิน 5 PPM แอมโมเนียจะเปลี่ยนเป็นไนไตร(NO2) และไนเตรต(NO3) เป็นพิษต่อเลือดปลา ปลาไม่โต ปลาป่วย กินอาหารไม่ได้ เครียด เลี้ยงนานขึ้น กินอาหารมากขึ้น เกิดโรค ปลาป่วย ตาย (อาจมีการใช้ Biofloc (จุลินทรีย์กินขี้ปลา) เพื่อควบคุมแอมโมเนียในน้ำ)
- อุณหภูมิเหมาะสม 28-32 องศา และอุณหภูมิ ไม่ต่ำกว่า 16 องศา (วัดลงไปเกิน 30 ซม.) เนื่องจากผิวน้ำกับใต้น้ำอุณหภูมิไม่เท่ากัน มีผลต่อการกินของปลา อุณหภูมิต่ำ ปลาไม่ค่อยกินอาหาร ไม่โต นานกว่าจะขาย
- ค่า PH ค่ากรด/ด่าง เหมาะสม 7 – 8 น้ำเป็นกรดปลาเครียด ไม่กินอาหาร แก้โดยใส่ปูนขาวลงในน้ำแล้ววัดค่า PH
- ค่าออกซิเจน เหมาะสม 8 mg / L เติมโดยใช้ปั้มลมกับหัวทราย (อาจเพิ่มเติมโดยการทำน้ำวนเบา ๆ ในบ่อเพื่อให้ปลามีการขยับตัว เพิ่มกล้ามเนื้อให้ปลา)
●
เมื่อคุณภาพน้ำไม่ดีแล้ว จึงเปลี่ยนน้ำเก่าออก
●
ใส่เกลือลงในน้ำ 5 kg / น้ำ 20 ตัน เพื่อใช้ฆ่าปรสิตในบ่อปลา ป้องกันปลาเป็นโรค
●
อาจมีการเติมยาหรือวิตามินให้ปลา ตามความเหมาะสม
2. การคุมคุณอาหาร
●
ควรให้อาหารปลาประมาณ 4 – 5 % ของน้ำหนักปลา ถ้าให้มากไป อาหารจะทำให้น้ำเน่าง่าย น้อยไปปลาโตไม่เท่ากันทั้งบ่อ ปลาบนผิวน้ำจะแย่งกินอาหารหมด
●
ปลาดุกเป็นปลากินเนื้อ แต่ไม่ควรใช้ซากไก่บดมาเพื่อลดต้นทุนอาหาร เพราะซากไก่บดจะทำให้ปลามีสารปนเปื้อนจากไก่ เนื้อปลาที่ได้มาจะยากต่อการพัฒนาเพื่อส่งออก
🐤[ ราคาขายของปลาดุก ]
ตามรายงานของกรมประมงราคาขายหน้าฟาร์มเฉลี่ย ปี 2564 – 2565
●
ขนาดใหญ่ (2 ตัว / กก.) 48 – 50 บาท
●
ขนาดกลาง (2 - 4 ตัว / กก.) 36 – 57 บาท
●
ขนาดเล็ก (5 ตัวขึ้นไป / กก.) 42 – 44 บาท
ราคาขายปลีกเฉลี่ย ตลาดกรุงเทพมหานคร ปี 2564 – 2565
●
ขนาดใหญ่ (2 ตัว / กก.) 68 – 70 บาท
●
ขนาดกลาง (3 - 4 ตัว / กก.) 66 – 67 บาท
🐤[ โดยสรุป ]
เลี้ยงปลาดุกระบบปิดบ่อผ้าใบดูแล้วต้องใช้เงินลงทุนสูงกว่า ดูแล และจัดการยุ่งยากกว่าเลี้ยงแบบบ่อดิน หรือแบบกระชังในแม่น้ำ แต่ถ้าเปรียบเทียบอัตราการรอดแล้ว แบบระบบปิดมีมากถึง 70-90 %
แต่แบบบ่อดินอัตราการรอดมีเพียง 60 % ยิ่งปลารอดมากก็เท่ากับคุ้มค่าการลงทุนมากกว่า ตัวอย่างเช่น
★
เลี้ยงบ่อดิน 10,000 ตัว ได้กำไรประมาณ 9,000 – 10,000 บาท (ข้อมูลจากกรมประมง)
★
เลี้ยงระบบปิดบ่อผ้าใบ 10,000 ตัว ได้กำไรประมาณ 15,000 – 20,000 บาท (ข้อมูลจากเพจปลาดุกหนองคาย)
ถ้าในอนาคตสารถพัฒนาต่อยอดไปถึงการเลี้ยงระบบปิดน้ำวน (หาดูข้อมูลเพิ่มเติม พิมพ์ Google คำว่า recirculating aquaculture system) จะเพิ่มคุณภาพการเลี้ยงเป็นระดับสากลเลยทีเดียว
สุดท้ายอย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเริ่มลงทุน
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ ขอบคุณครับ
แหล่งที่มา
https://www.kasetorganic.com/animal-farm/clarias/
www.talaadthai.com/
https://www.kasetprice.com
https://www.facebook.com/nongkhaicatfish/
https://www.blockdit.com/posts/5ee0e73e67ef6a6069f31fbb
https://www.kasetplus.store/blogs/blog/article-10
http://www.happyfarm.co.th/
https://www4.fisheries.go.th/.../20230325173522_1_file.pdf
พัฒนาตัวเอง
ธุรกิจ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย