Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เริ่มใหม่ ยังไงก่อน
•
ติดตาม
25 ก.ย. 2023 เวลา 02:30 • ไลฟ์สไตล์
อยากมี "บัตรเครดิต" เริ่มยังไง
ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านด้วยกันนะครับ
บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรผ่อนสินค้า อาจจะเป็นบัตรที่คอยช่วยเหลือเราได้ในหลายอย่าง หลายเหตุการณ์ เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต้องคอยถือเงินสด
ถ้าต้องการซื้อของราคาหลักหมื่น หรืออาจจะช่วยเหลือเราเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ในตอนที่เราประสบปัญหาทางการเงินให้พอผ่าน สถานการณ์นั้นไปได้ หรืออาจจะได้ยินคำว่า ใช้ก่อน ผ่อนทีหลัง ที่เราไม่ต้องใช้เงินก้อนซื้อของ อาจทำให้เราคล่องตัวมากขึ้น ในการใช้จ่ายรายเดือน
แล้วถ้าเราอยากมีบัตรไว้ใช้ จะต้องเริ่มยังไง ไปดูกันครับ โดยเราต้องมาเริ่มทำความรู้จักบัตรแต่ละชนิดก่อน
🐤[ บัตรเครดิต Credit Card ]
การใช้งาน
✓
เราจะมีวงเงินอยู่ในบัตรเครดิต ใช้แทนเหมือนเงินสด สามารถใช้รูดซื้อของ จ่ายเงิน เช่น กินร้านอาหาร, จ่ายเงินซื้อของใน 7/11, จ่ายค่าตั๋วรถไฟฟ้า, จ่ายเงินค่าทางด่วน หรือใช้จ่ายในต่างประเทศ ตามร้านค้าพันธมิตร ใช้จ่ายผ่านระบบ เช่น Mastercard, VISA
*ต้องระวังเรื่องค่า service charge ในการใช้บัตร (ปกติ 3% ของราคาสินค้า) ให้ลองถามทางร้านถ้าไม่แน่ใจว่าร้านคิดค่าบริการตรงนี้เพิ่มมั้ย
✓
สามารถใช้ผ่อนของได้ แต่จะขึ้นกับตรงจุดจ่ายเงินว่าสามารถให้ผ่อนได้หรือไม่ ถ้าได้จะผ่อนได้กี่เดือน เช่น 0% 3 เดือน จะหมายถึง เราตัดแบ่งผ่อนได้ 3 เดือนโดยไม่คิดดอกเบี้ย
✓
การใช้จ่ายทั้งหมดจะใช้ได้ไม่เกินวงเงินที่บัตรจำกัดไว้ เช่น วงเงินบัตร 20,000 บาท ในรอบบิล 1 เดือนก็จะใช้จ่ายได้ไม่เกินวงเงินนี้
✓
บัตรเครดิตมักจะมีโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ เช่น ใช้บัตรเครดิตดูหนังได้ฟรี มีการสะสมแต้มแลกของรางวัล หรือมีแค็ชแบ็ค (Cash back) กลับเข้ามาทุกการใช้จ่าย
ตัวอย่างคุณสมบัติการสมัครบัตร
●
ต้องมีรายได้ประจำ 15,000 บาท / เดือน ขึ้นไป
●
อายุ 20 ปีขึ้นไป
●
อายุงาน 3 – 6 เดือน ขึ้นไป
●
ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ (ในเครติดบุโร)
*ระวังอย่าเปิดเผยเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุบัตร (Expire date) และเลข CVV (ด้านหลังบัตร) ให้ใครรู้ เพราะเขาเสามารถเอาสองตัวเลขไปใช้จ่ายโดยที่ไม่ต้องมีบัตรเราก็ได้
การชำระบัตรเครดิต
✓
รอบบิล การใช้บัตรเครดิตจะมีตัวเลขวันที่ 2 วันที่ต้องเข้าใจคือ วันสรุปยอด และวันครบชำระ
- วันสรุปยอด คือ วันที่จะรวมยอดใช้จ่ายของรอบเดือนนั้น เช่น รอบบิลตัดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ก็จะรวมค่าใช้จ่ายตั้ง 25 มกราคม – 25 กุมภาพันธ์
- วันครบชำระ คือ ธนาคารจะให้เราชำระยอดบัตรเครดิตได้เลยหลังจากสรุปยอดแล้ว เช่น รอบบิลตัดวันที่ 25 กุมภากำหนดชำระวันที่ 10 มีนา เราสามารถจ่ายค่าบัตรได้เลยตั้งแต่วันที่ 26 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 10 มีนา (ถ้าจ่ายช้ากว่าวันที่กำหนดจะเสียดอกเบี้ย)
✓
การจ่ายเงิน การจ่ายแต่ละครั้ง เราสามารถเลือกจ่ายเต็มจำนวน หรือ จ่ายขั้นต่ำ (10% ของยอดเต็ม) เช่น ในรอบบิลเดือน กุมภาพันธ์ ใช้เงิน 18,000 เราสามารถจ่ายเต็มจำนวน 18,000 บาท หรือจ่ายเงินขั้นต่ำ 1800 บาท เพื่อไม่ให้เป็นการผิดนัดชำระกับธนาคาร (มีผลต่อคะแนนเครดิตบุโร)
*ถ้าไม่ชำระเป็นเวลา 3 เดือน >> เสียเครดิต >> มีผลต่อการกู้ยืมเงินกับธนาคาร
✓
ดอกเบี้ย ถ้าเราเริ่มจ่ายขั้นต่ำ(10% ของยอดเต็ม)หรือจ่ายช้า ธนาคารจะคิดดอกเบี้ย 18 – 20 % ต่อปี ของยอด
โดยสรุปก่อนมีบัตรเครดิต เราควรตรวจดู
●
บัตรมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง เช่น ค่าสมัครบัตร ค่าประกันชีวิตพ่วงบัตร ค่าประจำปี ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
●
เอกสารสมัครบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง
●
วันสรุปค่าใช้จ่าย วันกำหนดชำระ วันไหน
●
อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่บ้าง
🐤[ บัตรเดบิต Debit Card ]
การใช้งาน
1.
เป็นบัตรที่ผูกกับบัญชีธนาคารใช้กดเงิน หรือชำระเงิน ชำระสินค้าต่าง ๆ โดนจะหักเงินในบัตรโดนตรง
2.
ไม่ต้องพกเงินสด สะดวกในการใช้จ่าย ทั้งในและต่างประเทศ Mastercard, VISA
3.
การชำระบัตรและดอกเบี้ยไม่มี เพราะเป็นการหักเงินจากบัตรโดยตรง
🐤[ บัตรผ่อนสินค้า ]
การใช้งาน
1.
ใช้ผ่อนสินค้าตามร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น แต่อาจจะไม่หลากหลายเท่าบัตรเครดิต เช่น บัตร AEON, First Choice, Powerbuy Card, บัตรสินเชื่อ Lotus และใช้ได้ตามวงเงินบัตรที่มีเหมือนบัตรเครดิต
2.
แต่ไม่สามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้ เช่น จ่ายของในร้านอาหาร หรือ โรมแรม แบบบัตรเครดิต
3.
จะไม่ค่อยมีโปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษในการสะสมแต้ม
ตัวอย่างคุณสมบัติการสมัครบัตร
●
ต้องมีรายได้ประจำ 8,000 บาท / เดือน ขึ้นไป
●
อายุ 20 ปีขึ้นไป
●
อายุงาน 3 – 6 เดือน ขึ้นไป
การชำระบัตรผ่อนสินค้า
●
รอบบิลจะมีเหมือนบัตรเครดิต และการทำงานเหมือนกัน
●
การจ่ายเงินสามารถจ่ายเต็มจำนวน หรือสามารถจ่ายขั้นต่ำ 3% - 5% ของยอดเต็ม ขึ้นกับนโยบายของแต่ละบัตร
●
ดอกเบี้ย ถ้าเราเริ่มจ่ายขั้นต่ำ(10% ของยอดเต็ม)หรือจ่ายช้า ธนาคารจะคิดดอกเบี้ย 20 – 28 % ต่อปี ของยอด
โดยสรุป
บัตรผ่อนสินค้าการใช้งานคล้ายคลึงบัตรเครดิต แต่ข้อจำกัดการใช้งาน หรือขอบเขตที่สามารถใช้จ่าย สิทธิพิเศษ การสะสมแต้ม จะน้อยกว่าบัตรเครดิตนิดหน่อย
ดอกเบี้ยที่อาจจะสูงกว่าบัตรเครดิต 5% - 8% ต่อปี แต่ก็แลกมากับคุณสมบัติที่น้อยกว่าในการสมัครบัตรเครดิตค่อนข้างมาก
🐤[ สุดท้าย ]
ถ้าเราใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ ระมัดระวัง และจัดการเรื่องการเงินส่วนตัวได้ บัตรทั้งหลายก็เป็นตัวช่วยเราได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย สิทธิพิเศษ หรือแม้กระทั่งเราไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโต เพื่อซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ถ้าคะแนนเครดิตบุโรดี ยังมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อต่างๆ จากทางธนาคารอีกด้วย
ขอให้ทุกคนโชคดี ใช้จ่ายอย่างมีสติครับ
แหล่งที่มา
https://www.moneybuffalo.in.th/.../how-to-calculate-the
...
https://www.tpa.or.th/
https://www.aeon.co.th/
https://www.checkraka.com
https://www.krungsri.com/.../kru.../checklist-salary.html
...
การเงิน
พัฒนาตัวเอง
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย