18 ก.ย. 2023 เวลา 09:22 • กีฬา

ถ้าต้องจ่ายคุณหมอ 100 ล้านปอนด์ มันก็คุ้มนะ…

เชลซีทีมรักผมยังคงมีผลงานโหลยโท่ยสุดๆ
แม้จะซื้อนักบอลราคาแพงมามากมาย
แถมเปลี่ยนโค้ชเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งในวงการ
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่างๆ มีแต่กล่าวถึง
ฟอร์มของนักเตะที่ซื้อมาบ้าง
แท็กติกการเล่นของทีมบ้าง
ลามไปกระทั่งแนวทางการทำทีม
ของเจ้าของใหม่ ที่ไม่ใช่คนที่แฟนๆรักนัก
ความจริงปัญหาเหล่านี้ เป็นเพียงภาพที่แฟนบอลเห็นและคิด
เพราะมองแต่ในมุมของฟุตบอลเท่านั้น
1
แต่ความจริงแล้ว ลึกๆ ปัญหาของเชลซีที่เป็นอยู่
มันมีมานานมากแล้ว
มันคือ ปัญหาการบาดเจ็บเรื้อรัง
ของบรรดานักบอลราคาแพงที่ซื้อมา
จนไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้สมราคา
อย่างที่ควรจะเป็น
…ซึ่งมันเกิดขึ้นตั้งแต่ หลังการจากไปของหมอการกีฬา
มือดีที่สุดคนหนึ่งของวงการ คือแพทย์หญิง เอวา การ์เนโร่….
14 คน ….
นี่คือตัวเลขของนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บของเชลซีในฤดูกาลกาลนี้ ทั้งที่เพิ่งเปิดฤดูกาลมาได้ไม่ถึงสองเดือน
และส่วนมากเป็นผู้เล่นหลัก หรือเป็นความหวังของทีม
บางคนมีอาการบาดเจ็บมาจากฤดูกาลก่อน
ก็ฟื้นฟูร่างกายได้ช้ามากๆ
บางรายหายกลับมาก็เจ็บซ้ำอีกแล้ว
ได้ง่ายๆ เช่น กรณีของ รีซ เจมส์
สถานการณ์นี้ ปีที่แล้วก็เป็น จนผลงานห่วยไม่ต่างกับตอนนี้
ความซ้ำซากของปัญหานักเตะเจ็บมากมาย
น่าจะสะท้อนได้ดีมาก ถึงความห่วยแตกของทีมแพทย์
ของสโมสรเชลซี….
มันไม่มีทางเลยที่ทีมฟุตบอลจะประสบความสำเร็จได้
หากนักเตะที่มี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเจ็บเป็นว่าเล่น
แบบที่เชลซีเจออยู่ตอนนี้
กับเชลซีนั้น ปัญหามันหนักมากกว่าปกติ
เพราะการที่พวกเขา มีการเปลี่ยนแปลงทีมอย่างมาก
ในสองปีที่ผ่านมา
มันจึงจำเป็นต้องมีการเซทระบบการเล่นใหม่ทั้งหมด
แต่คุณจะเซททีมได้อย่างไรล่ะ ถ้าผู้เล่นเวียนกันเจ็บแบบนี้ ?
…นี่แหละปัญหา นักเตะเชลซีที่ซื้อมาเป็นความหวัง
แทบไม่เคยได้ลงสนามอย่างพรัอมหน้าเลย แล้วจะเซททีมได้ไง.
ในฤดูกาลนี้ การเสียแกนของทีมอย่าง เอ็นคุดคู
ในช่วงปรีซีซั่นนั้น เป็นอะไรที่งี่เง่า และสะท้อนความห่วย
ของทีมแพทย์เชลซีอย่างมาก
และนั่น นำมาสู่การพังทลายของแผนการ
ที่วางไว้ทั้งหมดของโค้ช พอร์เซตติโน่
เพราะดูเหมือนว่า เขาวางแผนให้เอ็นคุดคูนั้นเป็นแกน
พอเจ็บไป จึงเกิดปัญหากับระบบทั้งทีม
ซึ่งจนถึงวันนี้ จึงยังหาจุดลงตัวไม่ได้เลย
เราจะเห็นชัดเลยว่า ทีมที่มี และไม่มีเอ็นคุดคูนั้น
ต่างกันมากแค่ไหน เมื่อเทียบฟอร์มตอนนี้ กับปรีซีซั่น
ซ้ำร้าย ผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน ที่พอจะแทนกันได้
ก็ยังมาเจ็บตามไปอีก ตัวเอ็นคุดคูเอง ก็ดูจะใช้เวลามาก
จนเกินเหตุ ในการฟื้นฟูร่างกาย
ไม่ต่างกับกำลังหลักจากปีก่อน ที่ยังไม่หายเจ็บเสียที
เช่น เวสลีย์ โฟฟาน่า หรือ อันเดรีย บาเดชิล หรือ เจมส์
ซึ่งก็เจ็บๆ หายๆ วนเวียนอยู่แบบนั้นอยู่นั่นเอง
…แล้วแบบนี้ จะคาดหวังอะไรได้….????
หมอเอวา มีผลอย่างมาก กับการประสบความสำเร็จของเชลซี
ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสโมสร
1
เธอเข้ามาที่เชลซีในปี 2009 ก่อนได้แชมป์ยุโรปครั้งแรกไม่นาน ดังนั้น ต้องถือว่าถ้วยยุโรปใบแรกในประวัติศาสตร์
สโมสรจึงเป็นผลงานของเธอ ในการประคบประหงมดูแลนักเตะ
ถ้าใครจำได้ ในช่วงเวลาของเธอนั้น
เชลซีแทบไม่มีนักเตะบาดเจ็บหนักๆ หรือยาวๆเลย
บางรายที่เจ็บหนักๆ ไม่น่าไปต่อได้ เช่น เฟอร์นันโด ตอร์เรส
ที่เหมือนหมดสภาพมาจากลิเวอร์พูล
ก็ได้รับการดูแลจนพอเล่นได้มาตลอด
แม้จะไม่ท็อปฟอร์มก็ตาม
เป็นช่วงที่นักเตะมีความฟิตที่ดีมาก
แม้แต่ในรายที่อายุมากก็ตาม
ในปีที่ได้แชมป์ยุโรปนั้น เป็นปีที่เชลซีกรำศึกหนักมาก
ลงเล่นหลายนัด ผู้เล่นหลายคนก็มีอาการล้าอย่างมาก
แต่หมอเอวา ก็อาศัยฝีมือ ประคองให้พวกเขาลงเล่นได้มาตลอด จนได้แชมป์ในที่สุด…
นั่นแสดงให้เห็นถึงความเป็นมือหนึ่งของเธอ
ในวงการหมอการกีฬาของสหราชอาณาจักร
( ก่อนเธอจะมาเชลซี เธอก็เป็นหมอให้ทีมกรีฑาในยุคทอง
ของสหราชอาณาจักรเช่นกัน ฝีมือแค่ไหน คิดดู )
เหตุผลการจากไปของเธอ ค่อนข้างไร้สาระมาก
ทั้งๆที่เธอเป็นที่รักของนักเตะทุกคน รวมถึงแฟนบอล
มันเกิดขึ้นเมื่อเธอทะเลาะกับอดีตโค้ชระดับตำนานของทีม
คือ โชเซ่ มูรินโญ่ แล้วบอร์ดบริหารเลือกปกป้องโค้ช
มากกว่าเธอ
เรื่องเกิดขึ้น เพราะเธอวิ่งลงไปทำหน้าที่เพื่อดูนักเตะ
ที่เจ็บในระดับที่น่าจะร้ายแรง โดยไม่ฟังคำสั่งโค้ชว่า
อย่าเพิ่งลงไปดูอาการนักเตะ
ความขัดแย้งนั้น หมอเอวาอ้างว่า เธอต้องทำหน้าที่ทันที
เพราะนักเตะมีอาการน่าเป็นห่วงมาก ในระดับที่อันตราย
จึงฝ่าฝืนคำสั่งโค้ช…
แต่ดูเหมือนบอร์ดบริหารไม่ฟัง และเข้าข้างโค้ชมากกว่า
คำแนะนำของหมอ ทำให้หมอเอวานั้น ไม่พอใจอย่างมาก
จนถึงกับมีคดีต่อเนื่อง เกิดคดีฟ้องร้องในภายหลัง
ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจ
ในหมู่นักฟุตบอลอย่างมาก เพราะฝ่ายนักเตะ
เขื่อว่าหมอเอวา พยายามปกป้องพวกเขา แต่โค้ชกลับ
เอาพวกเขาไปเสี่ยงมากเกินจำเป็น
มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว หมอเอวาทะเลากับมูรินโญบ่อยมาก
เพราะหลายครั้ง หมอเอวาห่วงนักฟุตบอลมากกว่า
จนให้เหตุผลทางการแพทย์ไม่ให้นักเตะลงสนาม
ในขณะที่มูริณโญ่ ต้องการให้ฉีดยาประทังอาการ
จะเอานักเตะลงสนามให้ได้
จากเหตุการณ์นั้น นอกจากเป็นฟางเส้นสุดท้าย
ระหว่างหมอกับโค้ชแล้ว
ยังทำให้นักฟุตบอลมีปัญหากับโค้ชอีกด้วย
เพราะนักฟุตบอลมองว่า หมอนั้นห่วงพวกตนมากกว่าโค้ช
จึงไม่พอใจมาก กับการแสดงออกของโค้ชต่อหมอ
จนสุดท้าย ปีนั้นผลงานตกต่ำ และทำให้มูรินโญ
ต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งโค้ช ไล่หลังหมอเอวาไปไม่นาน
และหลังจากหมอเอวาจากไป เชลซีก็เจอปัญหานักเตะ
บาดเจ็บสะสมอยู่ตลอดเวลา ซื้อมาเท่าไหร่ก็เจ็บ
จนไม่สามารถหาทีมชุดที่ดีที่สุด พร้อมที่สุดได้อีกเลย
จนถึงปัจจุบัน….
การเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสร โดยอบราโมวิช( เสี่ยหมี)
ที่เคยมีปัญหากับเธอพ้นทีมไปแล้ว
น่าจะช่วยให้การดึงเธอกลับมาทำงานนั้นง่ายขึ้นมาก
มันน่าจะเป็นการดีที่สุด ที่จะแก้ปัญหาของทีมในปัจจุบันได้
เชลซีปัจจุบัน มีนักเตะยอดเยี่ยมมากมาย
นักเตะเหล่านี้มีมูลค่านับร้อยล้านปอนด์
การจะให้คนมือไม่ถึง มาดูแลสมบัติล้ำค่า มันไม่ใช่เรื่องถูกต้อง
เปรียบเทียบกับในทีมแข่งรถ ฟอร์มูล่าวันนั้น
ค่าตัวหัวหน้าทีมเทคนิคไม่ได้น้อยกว่าตัวนักแข่ง
มากสักเท่าไหร่เลย….
…ยอดรถแข่ง ต้องการยอดช่างเทคนิคฉันใด…
…ยอดนักเตะ ก็ต้องมียอดหมอ คอยดูแล ฉันนั้น….
ผมคิดว่ามันไม่เกินไปหรอก ถ้าจะดึงหมอเอวากลับมาทำงาน
ด้วยค่าตัวสัก 100 ล้านปอนด์….
…คุ้ม เชื่อเหอะ 😊😊😊😊…..
1
โฆษณา