เมืองทอง ยูไนเต็ด ประกาศแยกทางกับ มาริโอ ยูรอฟสกี โครตตำนานนักเตะของสโมสร ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมอยู่นานถึง 3 ปี แต่สุดท้ายก็มาถึงวันที่ต้องโบกมืออำลา
โดยหลังเกม มาริโอ และเหล่าสต๊าฟโค้ชของเมืองทองเดินไปขอบคุณแฟนบอลที่ตามมาเชียร์ทีมรักถึงรัง บีจี ปทุม สเตเดียม ในศึกไทยลีก 2023/24 เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ย.66 ซึ่งเกมนั้น เมืองทอง ยูไนเต็ด พ่ายแพ้แบบย่อยยับ 2-5
มาริโอ เอ่ยคำพูดเสมือนกับคำอำลาของเขาต่อหน้าแฟนบอลอันเป็นที่รักของเขา จนหลายๆ คนตั้งคำถามว่า หรือนี่อาจเป็น Last Dance ของจริง
และล่าสุดก็ยืนยันแล้วว่า “ซุปเปอร์มาริโอ้” ได้ขอรับผิดชอบผลงานตัวเอง ที่พาทีมเก็บได้เพียง 1 แต้ม จาก 4 เกม นับเป็นสถิติการเปิดซีซั่นที่ย่ำแย่ที่สุดของทัพ “กิเลนผยอง” บนเวทีไทยลีก 15 ปี
แต่รู้หรือไม่ กว่าจะถึงวันที่ต้องลาจากกันจริงๆ มาริโอ ยูรอฟสกี้ คืออีก 1 โค้ชแมวเก้าชีวิต ฆ่าไม่ตาย เคยประกาศอำลาทีมไปแล้วถึง 2 รอบ แต่ก็ถูกรั้งตัวไว้โดยสโมสร ลองไปติดตามเรื่องนี้กับ MainStand
การกลับมาของโครตตำนาน สู่บทบาทกุนซือผู้กอบกู้
หลังการอำลาทีมของ อเล็กซานเดร กาม่า เซ่นผลงานอันย่ำแย่ของเขากับทัพกิเลนผยอง ในวันที่ 19 ตุลาคม 2020 เมืองทอง ยูไนเต็ด เลือกที่จะดัน มาริโอ ยูรอฟสกี และ ดานโญ เซียกา 2 นักเตะตำนานของสโมสรจากทีมเยาวชนขึ้นมาแก้ปัญหาด้วยปรัชญา เกมรุก สไตล์เมืองทอง
แม้ทั้งคู่จะยังไร้ประสบการณ์ แต่ด้วยความเป็นตำนานของทีม และยังเข้าใจถึง DNA ของ เมืองทองฯ แบบเข้าเส้น ทำให้ผู้บริหารรวมถึงแฟนบอล ให้การสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่
เพียงแค่เกมแรกในการคุมทัพ “กิเลนผยอง” กุนซือหนุ่มไฟแรงวัย 34 ปี สามารถพาทีมบุกไปเอาชนะ โปลิศ เทโร มาได้ 3-1 พร้อมปลุกวิญญาณเพชรฆาตของ วิลเลียน ป๊อป ที่ฟอร์มกำลังย่ำแย่ ให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยในไทยลีกได้สำเร็จ
ก่อนที่ในเกมต่อมา มาริโอ ยังสามารถพาทีมบุกไปเอาชนะทีมคู่แค้นอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น ช้าง อารีนา อย่างสุดมัน 3-2
ณ ตอนนั้นหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นี่แหละ…ใช่เลย” คนที่ เมืองทอง ตามหามานาน
ก่อนที่จบฤดูกาล มาริโอ ยูรอฟสกี พาทีมจบอันดับที่ 7 ของตาราง ด้วยสถิติ ชนะ 11 เสมอ 4 แพ้ 6
นับตั้งแต่วันที่เขาก้าวขึ้นมารับงานกุนซือ มันเหมือนยิ่งเป็นการตอกย้ำ ว่าเขาคือคนที่ใช่ ของเมืองทอง ยูไนเต็ด
พร้อมได้รับสัญญาฉบับใหม่อยู่คุมทัพ “กิเลนผยอง” ออกไปยาวๆถึง 3 ปี ตอบแทนผลงานอันร้อนแรงในไทยลีก
เข้าสู่ปีที่ 2 ฟอร์มสุดพีค
ถึงแม้ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เมืองทอง ยูไนเต็ด จะไม่สามารถรั้งตัวดาวยิงคนสำคัญอย่าง แดร์เลย์ เอาไว้ได้ จนตลอดเลกแรกต้องใช้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนค้ำเป้าตลอดเลกแรก และยิงไปได้เพียง 1 ประตูถ้วน
แต่สุดท้าย ด้วยฟอร์มอันเปรี้ยงปร้างของ วิลเลียน ป๊อป ที่สามารถยิงประตูให้ทีมได้ต่อเนื่อง ก่อนในเลกที่ 2 เมืองทองจะสามารถไปดึง “พี่เบิ้ม” เฮนรี อาร์นิเยร์ ดาวยิงชาวเอสโตเนีย มาช่วยผลิตสกอร์ให้ทีมได้
จบฤดูกาล 2021/22 พวกเขาจะสามารถจบในอันดับที่ 4 ด้วยสถิติ ชนะ 13 เสมอ 10 แพ้ 7 คว้าตั๋วไปลุยรอบเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ได้สำเร็จ
ถึงแม้สุดท้าย บ.ไทยลีก จะเปลี่ยนเงื่อนไขการหาทีมไปเล่น เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ในปีนั้น ทำให้ “กิเลนผยอง” อดได้สิทธิ๋ไปเขย่าเวทีเอเชีย แต่นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีของเมืองทอง ว่าพวกเขาเริ่มดีขึ้นมาในทุกๆนัดที่ลงสนาม
ดันเด็กกิเลน แนวทางของสโมสร
หลังจากที่ทัพ “กิเลนผยอง” เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ทีมเลือกที่ดันเด็กเยาวชนจากอคาเดมีที่มีคุณภาพของพวกเขา ชึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว
และด้วยตัวของ มาริโอ เคยทำทีมเยาวชนชุด 19 ปีของ เมืองทอง มาก่อน ทำให้เขาเองเห็นพัฒนาการของกิเลนยังบลัดมาโดยตลอด และไม่ลังเลที่จะดันดาวรุ่งเหล่านั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
“ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท” คือเยาวชนกิเลนผยอง ที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เลือกดันขึ้นมาในปีที่ 2 ของการทำงานของเจ้าตัว พร้อมให้โอกาสลงสนามอยู่บ่อยครั้ง ก่อนจะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าจับตามอง
รวมถึงผลงานการปลุกปั้น “ปรเมศย์ อาจวิไล” ดาวยิงเลือดกิเลน จนนำไปสูการติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่
ในปัจจุบัน ยังมีกองกลางพรสวรรค์ ที่น่าจับตามอง อย่าง “คคนะ คำยก” ที่มาริโอเลือกจะดันอดีตตัวปั้นเกม แห่งอัสสัมชัญ ธนบุรี ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ก่อนออกสตาร์ทตัวจริง 2 จาก 4 เกม ในไทยลีก ฤดูกาลนี้ (2023/2024)
มาริโอ ตอบสนองความต้องการของสโมสร พร้อมกำเนิดวลี “Mario Way” ให้แฟนบอลได้พูดถึง
ปีที่ 3 เริ่มไม่ปัง…แถมแป้ก
ก่อนเริ่มฤดูกาล 2022/23 “กิเลนผยอง” ยอมทุ่มเงินกว่า 30 ล้านบาท คว้าตัว “เอกนิษฐ์ ปัญญา” ตัวรุกพรสวรรค์สูง ของรักของหวงของ เชียงราย ยูไนเต็ด มาร่วมทีม ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีใครคาดคิด
นั่นยิ่งทำให้เป้าหมายของพวกเขาสูงขึ้นมาทันที ถึงขึ้นมองไปที่การกลับไปลุ้นแชมป์ไทยลีกอีกครั้ง หลังห่างหายจากแชมป์ลีกมายาวนานถึง 5 ปี
แต่การได้ตัว เอกนิษฐ์ กลับต้องแลกมากับการเสียผู้นำในเกมรุกคนสำคัญอย่าง วิลเลียน ป๊อป ที่ตัดสินใจกลับไปค้าแข้งในประเทศบ้านเกิดกับสโมสร ชาเปโคเอนเซ่
ได้มาเสียไป เป็นเรื่องปกติ แต่ฟอร์มของ เมืองทอง กลับไม่เป็นปกติ เพราะ 6 เกมแรกใน ไทยลีก พวกเขาเก็บได้เพียง 6 คะแนน ด้วยผลงาน ชนะ 1 เสมอ 3 และแพ้ไป 2 เกม จนต้องไปดึง “มิโลวาน ราเยวัช” อดีตกุนซือทีมชาติไทย คนบ้านเดียวกับมาริโอ มานั่งแท่น ผอ. เทคนิค ช่วยงาน มาริโอ พาเมืองทอง กลับเข้าลู่ทางเดิมอีกครั้ง
สุดท้ายเหมือนจะยังเมาหมัด เกมนัดที่ 9 ของฤดูกาล เมืองทอง บุกไปแพ้ โปลิศ เทโร 1-2 กับฟอร์มที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ หันไปทางไหนก็ไม่เจอทางออก ก่อนหลังเกม มาริโอ ยูรอฟสกี้ จะออกมาโพสต์บางอย่างลงใน อินสตราแกรม ส่วนตัว
The Last Dance
หรือ การเต้นรำครั้งสุดท้าย มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณอำลาระหว่างตัวเขากับแฟนคลับกิเลนผยอง พร้อมข้อความต่อมา “วันอาทิตย์นี้ อาจเป็นนัดสุดท้ายของผมในฐานะโค้ชเมืองทอง ยูไนเต็ด”ท่ามกลางข่าวลือว่าเขายื่นใบลาออกไปให้ทาง “ระวิ โหลทอง” นายใหญ่ของสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว
เกมนัดสุดท้ายที่ มาริโอ กำหนด Last Dance คือเกมที่จะเปิดบ้านพบ พีที ประจวบ ในถิ่น ธันเดอร์โดม สเตเดียม การได้มาอำลาแฟนบอลที่เขารักในที่ที่เขาเรียกว่าบ้านได้อย่างเต็มปาก มันคงไม่มีอะไรจะสวยงามกว่านี้ไปอีกแล้ว
สุดท้ายด้วยแรงฮึด คล้ายอยากอำลานายใหญ่อย่างสมเกียรติของแข้ง “กิเลนผยอง” พร้อมแฟนบอลมากมาย ที่อยู่ในสนาม ด้วยความรู้สึกอยากอยู่ในโมเม้นต์สุดท้ายของอดีตตำนานที่เขารัก จนกระทั่งกลายมาเป็นผู้จัดการทีม
กลับกลายเป็นว่า เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่ม พีที ประจวบไปขาดลอย 5-0 ส่งท้าย มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้แบบสมศักดิ์ศรี เปรียบเหมือนการลงจากหลังเสืออย่างสง่างาม
แต่นั่นทำให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้ไปต่อ! เพราะผู้บริหารยืนยันว่าสนับสนุนให้กุนซือชาวมาซิโดเนียรายนี้คุมทีมต่อไป
เกมนัดต่อมา เมืองทอง ยังคุมฟอร์มดุต่อเนื่อง บุกไปถล่ม ลำพูน วอริเออร์ ถึงถิ่น 5-0 ก่อนส่งท้าย 4 เกมหลังสุดในเลกแรก ด้วยผลงาน เสมอ 3 แพ้ 1 ไม่ชนะใครเลย
เลก 2 เสริมดุ พร้อมลุ้นแชมป์อีกครั้ง
การกลับมาของตัวความหวังอย่าง “วิลเลียน ป๊อป” ทำให้โควต้าต่างชาติดูดุดันอีกครั้ง หลังคนที่มาแทน ป๊อป ในเลคแรกอย่าง “เอริค โจฮาน่า” แนวรุกชาวเคนย่า ยังคงดูไม่เข้าที่เข้าทาง
พร้อมกับได้ตัว ปีกจรวดความเร็วสูง รักแท้ของเมืองทอง ที่ในที่สุดก็ได้มาบรรจบกันสักทีอย่าง "เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์” มาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยิ่งทำให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ดูมีขุมกำลังเกมรุกที่อันตรายกว่าเดิม
การเสีย “สมพร ยศ” ผู้รักษาประตูมือ1 ที่หมดสัญญากับทีม ก่อนเลือกไปเซ็นสัญญากับ การท่าเรือ เหมือนจะเป็นปัญหา แต่สุดท้าย เมืองทอง ไปได้ตัว “ปฎิวัติ คำไหม” อดีตเยาวชนกิเลนผยอง ผู้รักษาประตูมือดีจาก ทรู แแบงค็อก ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว ที่ดูจะตอบโจทย์ฟุตบอลสไตล์แบบ มาริโอ เวย์ เข้าอย่างจัง
การได้ตัว เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เข้ามา เมืองทองต้องส่ง 2 ลูกหม้อของทีมอย่าง กรวิชญ์ ทะสา และ วัฒนากร สวัสดิ์ละคร ไปให้กับ บีจี กลับกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะรายหลังที่เป็นแบ็คซ้ายไว้ใจได้ที่สุดของทีมออกไป ซึ่ง เมืองทอง ต้องแก้ไขด้วยการดึง กฤษณ์พรหม บุญสาร มาร่วมทัพ
แต่ก็มิได้นำพา! เพราะ เมืองทอง ต้องฝืนใช้ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ แบ็คขวากัปตันทีม โยกมายืนแบ็กซ้ายอยู่เกือบจะทั้งเลก 2
ฟอร์มกำลังมา แต่จะลาซะงั้น
เปิดเลก 2 มานัดแรก เมืองทอง บุกไปถล่ม ลำปาง 5-1 ต่อด้วยการเปิดบ้านชนะ นครราชสีมา 3-0 ฟอร์มเริ่มเข้ารูปเข้ารอย
นัดต่อมาพวกเขาบุกไปเยือน ถ้ำค้างคาวไฟ สุโขทัย ด้วยความมั่นใจ แต่โดนดับมั่นมาแบบแสบๆ 1-2
เกมใหญ่รอพวกเขาอยู่ในสัปดาห์ถัดไป นั่นคือการเปิดบ้านเจอโจทก์เก่า งูเหลือมกับเชือกกล้วยในฟุตบอลไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แค่เปิดเกมมา 2 นาทีแรก เอริก โจฮาน่า ก็มาซัดไกลสุดสวย ให้เมืองทองออกนำไปก่อน ก่อนที่ 10 นาทีต่อมา ปรเมศย์ จะมายิงทิ้งห่าง 2-0
น.30 เอริก โจฮาน่า ดั่งฉายภาพซ้ำ ตะบันด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยม เมืองทองทิ้งห่าง บุรีรัมย์ เป็น 3-0 ทั้งสกอร์และรูปเกม สวยงามดั่งภาพฝัน ที่แฟนๆวาดไว้
ถึงแม้ น.38 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะมายิงตีไข่แตกได้ แต่ก็ยังตามถึง 2 ลูก
เปิดครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาที เอริก โจฮาน่า จะมายิงประตูที่ 3 ของตัวเอง ให้เมืองทอง ทิ้งห่างออกไป เป็น 4-1
วินาทีนั้น จากรูปเกมที่เป็นต่อของเมืองทอง หากจะมีใครบอกว่า บุรีรัมย์ จะกลับมาได้ คงได้แต่คิดว่าไอนี่มันคง “เพ้อเจ้อ”
แต่หลังจากนั้น บุรีรัมย์ ไล่มาเป็น 4-3 จากลูกโหม่ง ของดุมบูย่า น.78 และฟรีคิกสุดสวย ของซ้ายปีศาจ ธีราธร บุญมาทัน อดีตคนเคยรัก ของแฟนคลับกิเลนผยอง น.83
เกมก็ดำเนินมาถึงช่วงทดเวลา ในสกอร์ที่เมืองทองยังนำอยู่ 4-3 แฟนบอลเมืองทองเรียกได้ว่า กำลังเปิดเก๊กฮวยมีฟอง รอฉลองการเอาชนะคู่รักคู่แค้น แบบนับเวลาถอยหลังได้เลย
แต่สุดท้ายเวลาที่แฟนเมืองทองกำลังนับถอยหลัง บุรีรัมย์หยิบมันมากลายเป็นระเบิดเวลา เมื่อนาที 90+3 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดมาทางกราบขวา ก่อนตวัดมาหน้ากรอบเขตโทษ
เป็น ลอนซาน่า ดุมบูย่า ที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนแต่งบอลด้วยความมั่นใจ วาดเท้าวอลเลย์เข้าไป ตุงตาข่าย ชนิดที่สนามแตก บุรีรัมย์กลับมาได้จริงๆ 4-4
เมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา คล้ายหนังชิงเหลี่ยม พลิกกันไปพลิกกันมา แฟนบอลและนักเตะบุรีรัมย์ เฮกันสุดเสียง ในขณะที่ฝั่งเมืองทอง เดินคอตกกันไปเป็นแถว
คนที่โดนพุ่งเป้าโจมตีมากที่สุด คงหนีไม่พ้น มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ถูกตำหนิถึงแท็กติกที่เกมกำลังนำเขาอย่างสบายใจ ไหงทำให้มันถูกไล่ตีเสมอมาได้
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2022 มาริโอ ยูรอฟสกี้ โพสต์ลงใน อินสตาแกรม ส่วนตัวเช่นเคย ด้วยประโยค “ถึงเวลาต้องกล่าวคำอำลา” คล้ายเจ้าตัวเองก็อยากรับผิดชอบ ที่มีส่วนทำให้กิเลนผยอง ถูกปราสาทสายฟ้า ไล่ต้อนตีเสมอมาอย่างเจ็บแสบ
นี่คือการอำลาทีม ครั้งที่ 2 ของเจ้าตัว มีทั้งกระแสแฟนบอลทั้ง 2 ฝั่ง ฝ่ายนึงก็ยังคง “เซฟมาริโอ” ส่วนฝั่งตรงข้ามก็ยินดีหาก มาริโอ จะลาทีม เพราะบางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจในการวางแผนของ มาริโอ ในหลายๆเกมเช่นกัน
เมืองทอง ยังเชื่อใจ รั้งไว้ให้อยู่ต่อ
ท่ามกลางกระแสข่าว ว่าเมืองทองเองไฟเขียว ให้มาริโอลาออกรับผิดชอบผลงานส่วนตัวของทีม
แต่ 15 กุมภาพันธ์ 2022 เมืองทอง ออกแถลงการณ์ เห็นชอบให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ทำหน้าที่คุมทีมต่อไป และยังคงเชื่อมั่นในแนวทางของ “มาริโอ เวย์” แต่ดึง “มิลอส โจซิค” กุนซือมากประสบการณ์ในไทยลีก และอดีตผู้ช่วยของเมืองทอง เข้ามาแก้ปัญหาในเกมรับ ทำงานร่วมกับ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาเดียวกันได้ แทนที่ของ ราเยวัช ที่อำลาถิ่นกิเลนผยอง ไปก่อนหน้านี้
หลังการเข้ามาของ มิลอส โจซิค และการได้ทำหน้าที่ต่อของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ พวกเขาทำงานร่วมกันได้อย่างแจ่มจรัส ชนะเกมลีกติดต่อกัน 8 เกม
ขยับพื้นที่จากโซนกลางตาราง ขึ้นมาในพื้นที่ลุ้นจบอันดับที่ 3 พร้อมได้สิทธิ์ไปเล่นเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก
3 เกมหลังสุดในลีก พวกเขาชนะได้ เพียง 1 เกม และแพ้ไปถึง 2 ผนวกกับความเกาะที่ 3 ไว้อย่างเหนียวแน่นของ การท่าเรือ ทำให้ “กิเลนผยอง” จบซีซั่นนั้นด้วยอันดับที่ 4 อีกครั้ง
เปิดฤดูกาลย่ำแย่สุดในประวัติศาสตร์
กับการเปลี่ยนโควต้าต่างชาติยกชุด พร้อมทั้งเสีย สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ กัปตันทีม และ บุญทวี เทพวงศ์ 2แบ็คขวาของทีมที่หมดสัญญา และ มาริโอ เลือกที่จะไม่ใช้งานตั้งแต่ปลายซีซั่นที่แล้ว
2
แต่ เมืองทอง ยังได้ตัว “ทริสตอง โด” แบ็คขวา 8 ปอด กลับคืนถิ่นอีกครั้ง พร้อมดึง “โจ้แจ๋ว” สุวิทย์ ไปพรมราช และ ณัฐวัฒน์ โทบ้านซ้ง 2 แบ็คซ้าย เข้าสู่ทีม
แต่แค่เกมแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2023/2024 พวกเขาเปิดบ้าน ธันเดอร์โดม สเตเดียม รับการมาเยือนของ เชียงราย ยูไนเต็ด
เมืองทอง เรียกได้ว่าครองบอลทั้งเกม มีโอกาสจบสกอร์มากมาย แต่สุดท้ายแทบจะไม่ตรงกรอบเลย
ดันมาโดนหมัดน็อกของ เชียงราย ยูไนเต็ด โอกาสยิงตรงกรอบครั้งเดียว ของเศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์ เป็นประตูชัย ให้เชียงราย บุกเอาชนะเมืองทอง 1-0
ต่อด้วยการบุกไปเสมอ ทรู แบงค็อก 0-0 และเปิดบ้านพ่ายทีมคู่แค้นอีกหนึ่งทีม อย่างการท่าเรือ ไป1-3 ท่ามกลางแฟนบอลของตนเองทั้งสนาม เพราะแฟนบอลทีมเยือนถูกห้ามเข้าสนาม
และในเกมที่ 4 ของฤดูกาล เมืองทอง ต้องบุกไปเยือน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลายๆคนก็คงไม่คาดหวังว่ากิเลนผยอง จะสามารถเก็บ 3 คะแนน ออกมาจากรังกระต่ายได้
10 นาทีแรก เมืองทอง โดนบุกชนิดที่เรียกได้ว่า พับสนามบุก แต่เมืองทอง สวนกลับครั้งเดียว มาได้ประตูขึ้นนำ จากปรเมศย์ อาจวิไล
แต่ความแข็งแกร่งของบีจี ก็มารัวคืน 4 ประตูรวด ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 5-2
4 เกมแรกในไทยลีกฤดูกาลนี้ เมืองทอง ยูไนเต็ด เก็บได้ 1 คะแนน จาก 4 เกมแรก เริ่มต้นฤดูกาลได้ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์
คำอำลา ครั้งที่3
หลังจบเกม มาริโอ ยูรอฟสกี้ , ดานโญ่ เซียก้า และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 3 ตำนานของสโมสร ที่ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือและทีมงานสต๊าฟของทีม เดินมาหาแฟนบอลที่ตามมาเชียร์ทีมรัก
มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้ฝากคำจากปากของเขา ซึ่งมันดูคล้ายคลึงกับคำอำลา ครั้งที่ 3 ของตัวเขา เอาไว้ว่า
“ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมอยากได้แชมป์ ทั้งในฐานะนักเตะ และผู้จัดการทีม พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าการตัดสินจะเป็นยังไง ถ้าผมออกจากเมืองทองไป ผมจะกลับมาสร้างยิ่งใหญ่ให้เมืองทอง”
คำพูดนี้ถูกสื่อนำมาเขียนลงบนโซเชียลมีเดีย ความเห็นของแฟนบอลก็ไปในหลายทิศทาง ทั้งที่เห็นชอบ และคิดว่าถึงเวลาแล้วที่มาริโอ จะต้องรับผิดชอบผลงาน บ้างก็ว่า เป็นการ “แก้เคล็ด” เพราะเมื่อประกาศจะออกทีไร ผลงานมักจะดีขึ้นมาทุกที
แต่ก็ยังมีหลายๆคน ที่เห็นใจมาริโอ ที่ทำทีมเมืองทอง ที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังเหมือนสมัยก่อน เน้นใช้ดาวรุ่งเยาวชน ปั้นทีมขึ้นมาสู้กับทีมเงินถังในไทยลีกได้อย่างสนุก พร้อมยังคงให้เวลาเขาทำทีมต่อไป
บทสุดท้ายของหน้าหนังสือ มาริโอ กับเมืองทอง
ท้ายที่สุด การประกาศอำลาทีมครั้งที่ 3 ของมาริโอ ยูรอฟสกี้นั้น สโมสรเมืองทองเอง คงจะไปขัดขวางความคิดเขาที่อยากแสดงความรับผิดชอบอีกไม่ได้แล้ว หลังเคยขวางมาแล้วถึง 2 ครั้ง
ในวันที่ 18 กันยายน 2023 สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด แถลงขอบคุณ มาริโอ ยูรอฟสกี้ อดีตตำนานนักเตะ และกลายเป็นอดีตผู้จัดการทีมไปเสียแล้ว นับตั้งแต่วันนี้
ตลอด 1,064 วัน ที่ก้าวขึ้นมาเข้ามารับงานกุมบังเหียนสโมสรที่เขารัก และ 99 เกมรวมทุกรายการ ที่เขามิอาจทำให้มันจบด้วยเลข 100 สวยๆได้
สุดท้าย มาริโอ คงไม่มีอะไรที่จะติดค้าง เพราะเขาได้อำลาแฟนบอล เมืองทอง ยูไนเต็ด ส่วนนึงหลังเกม ที่พบกับ บีจี ไปหมดแล้ว และมันคงกลั่นมาจากความรู้สึกข้างในของเขาจริงๆ
หลังจากนี้เขาคงต้องใช้เวลาพักใจสักพัก ปล่อยสมองให้ได้ผ่อนคลาย อาจจะรอเวลาพาตัวเองไปเรียน ยูฟ่า โปร ไลเซนส์ ให้จบ หรือจะหาสโมสรใหม่ ที่ต้องการ “มาริโอ เวย์” ของเขาอยู่ ก็เป็นไปได้…
7 ถูกใจ
1.4K รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
  • 7
    โฆษณา