22 ก.ย. 2023 เวลา 15:41 • หนังสือ

— The Psychology of Money —

หนังสือการเงินที่ผมรู้สึกว่ามีเนื้อหาที่แตกต่างจากหลังสือการเงินเล่มอื่นๆ ในเนื้อหาไม่ได้พูดถึงเรื่องการเงินโดยตรงแต่พูดทักษะทางด้านอารมณ์และการบริหารจัดการความคิด ที่ซึ่งพฤติกรรมที่เราทำนั้ยมีความสำคัญมากว่าที่
เราคิดเกี่ยวกับเงิน ซึ่งผมได้สรุปไว้ดังนี้
— พยายามค้นหาความถ่อมตนในเวลาที่สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่คุณคิดและค้นหาการให้อภัยและความเห็นอกเห็นใจในเวลาที่สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เนื่องจากไม่มีสิ่งใดดีหรือแน่ไปกว่าที่มันเป็นอยู่ โลกนี้นั้นกว้างใหญ่และซับซ้อนทั้งโชคและความเสี่ยงนั้นมีอยู่จริงและยากต่อการบ่งชี้ จงทำเช่นนี้ในเวลาที่คุณตัดสินทั้งตัวคุณเองและคนอื่นๆ เคารพในพลังของโชคและความเสี่ยงและคุณจะมีโอกาสที่จะโฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้จริงมากขึ้น อีกทั้งคุณยังมีโอกาสในการหาบุคคลต้นแบบที่เหมาะสมได้มากขึ้น
— อัตตาน้อย ความมั่นคั่งเพิ่ม การออมเงินคือช่องว่างอัตตาและรายได้ของคุณ และความมั่งคั่งนั้นเป็นสิ่งที่คุณมองไม่เห็น ดังนั้นความมั่งคั่งจึงถูกสร้างขึ้นมาจากการยับยั้งชั่งใจต่อสิ่งที่คุณสามารถซื้อได้ในวันนี้เพื่อที่จะได้มีของมากขึ้นหรือมั่งคั่งมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต มันไม่สำคัญว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ คุณจะไม่มีวันสร้างความมั่งคั่งได้จนกว่าที่คุณจะสามารถควบคุมได้ว่าคุณสามารถที่จะสนุกได้มากแค่ไหนด้วยเงินที่คุณมีอยู่ ณ ตอนนี้ วันนี้
— บริหารจัดการเงินของคุณในแบบที่จะทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืน สิ่งนี้แตกต่างจากการบอกว่า คุณควรตั้งเป้าหมายให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดหรือกำหนดเปอร์เซ็นต์การออมจากรายได้ของคุณ คนบางคนไม่สามารถนอนหลับสนิทได้จนกว่าพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด ส่วนคนอื่นไปจะนอนหลับได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ลงทุนอย่างระมัดระวัง ต่างคนต่างความคิด แต่พื้นฐานของการบอกกับตัวเองว่า " สิ่งนี้จะช่วยให้ฉันหลับสนิทตลอดทั้งคืนหรือเปล่า " นั่นคือแนวทางสากลที่สุดสำหรับการตัดสินใจทางการเงินทั้งหมด
— ถ้าหากว่าคุณต้องการเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น
สิ่งที่มีพลังมากที่สุดสิ่งเดียวที่คุณทำได้ก็คือเพิ่มระยะเวลาการลงทุนของคุณ เวลานั้นเป็นพลังที่มีอำนาจมากที่สุดในการลงทุน มันทำให้สิ่งเล็กๆ เติบโตกลายเป็นสิ่งใหญ่และทำให้ความผิดพลาดที่ใหญ่เลือนหายไป แม้ว่ามันจะไม่สามารถต่อกรกับโชคและความเสี่ยงได้ แต่มันก็ช่วยผลักดันผลลัพธ์ให้เข้าใกล้สิ่งที่ผู้คนควรจะได้รับ
— เป็นคนที่โอเคกับสิ่งต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามที่คิดคุณสามารถที่จะทำผิดได้ ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด แต่ยังคงสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ เพราะว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั้นนำมาซึ่งผลลัพธ์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าคุณจะกำลังทำอะไรกับเงินของคุณ คุณก็ควร ที่จะสบายใจเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคิด โลกก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นคุณจึงควรวัดผลงานของคุณจากพอร์ตการลงทุน
ในภาพรวมอยู่เสมอ แทนที่จะไปวัดจากการลงทุนรายตัว มันไม่เป็นไรเลยที่คุณจะมีการลงทุนที่แย่จำนวนมาก และมีการลงทุนที่โดดเด่นแค่เพียงเล็กน้อย สิ่งนี้มักจะเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด ที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ การตัดสินผลงานของคุณจากการโฟกัสไปที่การลงทุนรายตัวนั้นจะทำให้ผู้ชนะนั้นดูเก่งกาจกว่าที่พวกเขาเป็น และทำให้ผู้แพ้นั้นเศร้าโศก เสียใจมากกว่าที่ควร
— ใช้เงินเพื่อควบคุมเวลาของคุณ เนื่องจาก
การไร้ความสามารถในการควบคุม เวลาขอคุณนั้นเป็นการเตะถ่วงความสุขที่ทรงอำนาจและเป็นสากล ความสามารถที่จะทำสิ่งที่คุณต้องการ ในเวลาที่คุณต้องการกับคนที่คุณต้องการ ในระยะเวลานานเท่าที่คุณต้องการ
คือปันผลสูงสุดทางการเงิน
— เป็นคนที่ดีขึ้นและหรูหราน้อยลง ไม่มีใครประทับใจในทรัพย์สมบัติของคุณมากกว่าตัคุณ คุณอาจคิดว่าคุณอยากได้รถหรูและนาฬิกาดีๆ แต่บางที สิ่งที่คุณต้องการจริงๆ อาจจะเป็นความเคารพและชื่นชม และคุณมีแนวโน้มที่จะ ได้รับสิ่งเหล่านั้นผ่านทางความเมตตาและความถ่อมตัวของคุณมากกว่าผ่านทาง รถหรูเครื่องแรงๆ
— ออมเงินเพื่อออมเงิน คุณไม่จำเป็นจะต้องหาเหตุผลเฉพาะให้กับการออมเงิน มันเป็นเรื่องดีที่คุณจะออมเงินเพื่อซื้อรถ วางเงินดาวน์ หรือเรื่องฉุกเฉิน ทางการแพทย์ แต่การออมเพื่อสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาหรือบ่งชี้ได้นั้นคือหนึ่งใน เหตุผลที่ดีที่สุดในการออมเงิน
ชีวิตของทุกคนนั้นคือห่วงโซ่ของความน่าประหลาดใจ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเงินออมที่ไม่ได้จัดสรรไว้ให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะคือการ ป้องกันความเสี่ยงต่อสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิต ซึ่งสามารถสร้างความประหลาดใจ อันร้ายเหลือให้กับคุณในเวลาที่เลวร้ายที่สุด
— หาต้นทุนของความสำเร็จให้เจอและเตรียมพร้อมที่จะจ่ายมัน เนื่องจากไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี และต้นทุนทางการเงินส่วนใหญ่นั้นไม่มีป้ายราคาแปะให้เห็นอย่างเด่นชัด ความไม่แน่นอน ความลังเลสงสัย และความเสียใจนั้นเป็นต้นทุน ที่เกิดขึ้นได้ทุกวันในโลกของการเงิน และส่วนใหญ่ก็มักคุ้มค่าที่จะจ่าย แต่คุณจำเป็นจะต้องมองมันให้เหมือนกับค่าธรรมเนียม (ราคาที่คุ้มค่าในการจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งดีๆ กลับมาเป็นการแลกเปลี่ยน) แทนที่จะมองมันเป็นเหมือนกับค่าปรับ (การลงโทษ ที่คุณควรจะหลีกเลี่ยง)
— ยกย่องบูชาพื้นที่เพื่อความผิดพลาด มันคื
ช่องว่างระหว่างสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตและสิ่งที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นในอนาคต หากคุณทำมันได้ดี มันจะทำให้คุณยืนระยะได้ และการยืนระยะได้คือสิ่งที่ทำให้เกิดเวทมนตร์ของการ ทบต้นเมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่เพื่อความผิดพลาดนั้นมักจะดูเหมือนกับเป็นการป้องกัน ความเสี่ยงแบบระมัดระวัง แต่ถ้ามัทำให้คุณยืนอยู่ในเกมนี้ได้ มันก็สามารถที่จะสร้างผลตอบแทนให้คุณมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
— หลีกเลี่ยงการตัดสินใจทางการเงินแบบสุดโต่ง เป้าหมายและความต้องการ ของทุกๆ คนนั้นจะเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป และยิ่งการตัดสินใจในอดีตของคุณนั้นสุดโต่งมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเสียใจกับมันมากขึ้นเท่านั้น
— คุณควรที่จะชอบความเสี่ยงเนื่องจากมันจะจ่ายผลตอบแทนให้คุณเมื่อเวลาผ่านไป แต่คุณควรจะหวาดระแวงกับความเสี่ยงที่เป็นภัย เพราะมันจะกีดกันคุณจากการแบกรับความเสี่ยงที่จะจ่ายผลตอบแทนให้คุณในอนาคตเมื่อเวลาผ่านไป
— กำหนดเกมที่คุณกำลังเล่นอยู่ และจงทำให้แน่ใจว่าการกระทำของคุณนั้นไม่ได้รับอิทธิพลมาจากคนที่กำลังเล่นเกมคนละเกมกับคุณ
— เคารพความยุ่งเหยิง คนที่ฉลาด รอบรู้ และ
มีเหตุผลนั้นสามารถเห็นต่าง ในเรื่องของ
การเงินได้ เนื่องจากผู้คนนั้นมีเป้าหมายและความปรารถนาที่แตกต่างกันอย่างมาก มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแค่เพียงคำตอบเดียว มันมีเพียงแค่คำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
โฆษณา