ปีนั้นเป็นปีที่ภาพยนต์เรื่อง Toy Story ออกฉาย และในปีต่อมา Apple ก็ได้เข้ามาซื้อกิจการ NeXT ทำให้เขากลับมาสู่บริษัทที่เขาสร้างมากับมืออีกครั้ง
1
ในขณะนั้น CEO ของ Apple คือ กิล เอเมลิโอ ซึ่งได้เป็นคนชักจูงนำ จ็อบส์ กลับมาที่ Apple โดยให้เข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษาแบบพาร์ทไทม์ แต่จ็อบส์นั้นหวังมากกว่านั้นเขาต้องการกลับมาทวงคืนตำแหน่งของเขา สภาพของ Apple ในช่วงเวลาดังกล่าว กลายเป็นซากปรักหักพัง สถานการณ์ทางการเงินก็ย่ำแย่ เป็นอย่างมาก
5
ในการกลับมาครั้งนี้ จ็อบส์ เริ่มจัดแจง คนที่เขาไว้ใจมารับตำแหน่งระดับสูงที่ Apple อย่างไม่รอช้า และเริ่มกำจัดคนที่เขาไม่ต้องการออกไป โดยจะนำคนที่เก่ง ๆ จาก NeXT บริษัทเก่าของเขาเข้ามาแทนในตำแหน่งสำคัญ ๆ
1
และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนครั้งที่เขาต้องก้าวออกจาก Apple ในครั้งแรก จ็อบส์ ก็ได้เสนอให้เปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทใหม่ โดยจัดการคนที่เคยปลดเขาออกก่อน เพื่อคุมอำนาจเต็มที่ในการบริหารบริษัท
2
จ็อบส์ นั้นสามารถที่จะกลับควบคุมทุกอย่างของ Apple ได้อย่างเบ็ดเสร็จได้อีกครั้ง สถานการณ์ในตอนนั้น Apple ถูก Microsoft เบียดออกจากธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันถึงเวลาที่เขาต้องสร้างบริษัทขึ้นมาใหม่เพื่อทำอย่างอื่น อาจจะเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือหรือสินค้าเพื่อผู้บริโภคอะไรซักอย่างที่จะพา Apple กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
จอน รูบินสไตน์ ถือได้ว่าเป็นขุนพลคู่ใจของ จ็อบส์ ที่ตามมาจาก NeXT ซึ่ง รูบินสไตน์เป็นผู้พัฒนา NeXT RISC Workstation โดยหลังจากที่ Apple ได้เข้าซื้อกิจการ NeXT จ็อบส์ก็ได้ดึงตัวรูบินสไตน์ให้มาช่วยงานที่ Apple ในตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
จอน รูบินสไตน์ ที่แพ็คกระเป๋าตามจ็อบส์มาจาก NeXT (CR:IEEE Spectrum)
จ็อบส์เองได้มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายสำหรับผู้บริโภคและเหล่ามืออาชีพ เช่น Power Mac G3 และ iMac G3 ซึ่งช่วยให้ Apple กลับมาแข่งขันในตลาดได้อีกครั้ง และเป็นรูบินสไตน์นี่เองที่ไปชักชวน โทนี่ ฟาเดลล์ ให้มาร่วมงานกับ Apple เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์พลิกโลกอย่าง iPod
ชิลเลอร์ เริ่มงานครั้งแรกกับ Apple ในปี 1987 ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ และได้ลาออกไปทำงานกับ FirePower Systems และรองประธานฝ่ายการตลาดที่ Macromedia ก่อนที่จะกลับมาทำงานที่ Apple อีกรอบ
2
ชิลเลอร์ กลับมาร่วมงานกับ Apple ในตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลก ในปีเดียวกับที่ จ็อบส์ กลับมากุมบังเหียน Apple อีกครั้งในปี 1997
จ็อบส์ ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำได้ทั้งนั้น เพราะมันแตกต่าง มันไม่เหมือนใคร และมันเป็น DNA ของการ Think Different ที่เป็น DNA หลักของ Apple เลยก็ว่าได้ เมื่อจ็อบส์ พร้อมจะลุย ลูกทีมของเขาก็พร้อมจะสู้กับจ็อบส์ เพราะไม่ว่าอุปสรรคจะยากหรือท้าทายมากเพียงใด พวกเขาก็ไม่เคยกลัวมันอีกต่อไปนั่นเองครับผม