26 ก.ย. 2023 เวลา 18:46 • ประวัติศาสตร์

พระองค์เจ้าพีระ เจ้าชายนักซิ่งแห่งสยาม

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ประสูติเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 1914 (พ.ศ.2457) เป็นพระโอรสในสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ประสูติแต่หม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา ทรงจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และเสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ทั้งวิทยาลัยอีตัน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และโรงเรียนสอนศิลปะ Byam Shaw
พระองค์เจ้าพีระเข้าสู่วงการแข่งรถครั้งแรก จากการชักชวนโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ รถที่พระองค์ใช้แข่งขันเป็นรถแข่งยี่ห้อ E.R.A. (English Racing Automobiles) ทาสีฟ้าสวยงาม เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติอย่างมาก ผู้คนจึงนิยมเรียกรถแข่งของพระองค์ว่า "Bira Blue" หรือ "ฟ้าพีระ"
ต่อมาพระองค์เจ้าพีระ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ร่วมกับสมาชิกพระราชวงศ์และข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ ก่อตั้ง "ราชยานยนต์สมาคมแห่งสยาม" ขึ้นเพื่อดูแลกิจการกีฬาแข่งรถในประเทศไทย ปัจจุบันคือ " ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) "
ในช่วงปี 1936-1938 พระองค์เจ้าพีระ ก็ทรงสร้างชื่อเสียงในสนามแข่งรถระดับแถวหน้ามาหลายเวทีในยุโรป ทั้งการแข่งรถที่โมนาโกจนได้รับรางวัลพระราชทานจากเจ้าชายแรนีแยที่ 3 แห่งโมร็อกโก และยังได้รับพระราชทานรางวัล "ดาราทอง" (BRDC Road Racing Gold Star) จากพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักรถึง 3 ปีซ้อน พระนามของพระองค์เจ้าพีระยังได้ขึ้น Hall of Fame ของสมาคมนักแข่งรถอังกฤษ นั่นจึงเป็นที่มาของสมญานาม "เจ้าดาราทอง"
พระองค์เจ้าพีระ และพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เสด็จกลับประเทศไทยในปี 1937 (พ.ศ.2480) พร้อมนำรถ E.R.A. Romulus มาขับโชว์ประลองความเร็วกลางถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1937 ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก
ทั้งสองพระองค์ได้มีพระดำริที่จะจัดให้มีการแข่งขันกรุงเทพกรังปรีซ์ (Bangkok Grand Prix) ในวันรัฐธรรมนูญของไทย 10 ธันวาคม 1939 (พ.ศ.2482) โดยเชิญนักแข่งรถจากยุโรปมาร่วมแข่งขัน แต่ก็มิได้มีการแข่งขันเกิดขึ้น เนื่องจากกองทัพนาซีเยอรมันบุกโจมตีโปแลนด์ในวันที่ 1 กันยายน 1939 ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นในทวีปยุโรป
ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระองค์เจ้าพีระ ทรงสมัครเข้ารับราชการในกองทัพอังกฤษ โดยปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งครูฝึกเครื่องร่อน หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง พระองค์ก็กลับสู่วงการแข่งรถอีกครั้ง โดยพระองค์ทรงขับรถฟอร์มูล่าวันเข้าแข่งขันถึง 4 ปี (1950–1954) จนกระทั่งพระองค์ได้ยุติเส้นทางการเป็นนักแข่งรถเนื่องจากปัญหาด้านพระพลานามัย
หลังจากหันหลังให้วงการแข่งรถ พระองค์ก็ได้เข้าสู่วงการเรือใบ และเป็นนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย ลงแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนทั้งสี่ครั้ง ทั้งเมลเบิร์นโอลิมปิก 1956 โรมโอลิมปิก 1960 โตเกียวโอลิมปิก 1964 และมิวนิคโอลิมปิก 1972
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 1985 (พ.ศ.2528) สิริพระชันษา 71 ปี สถานทูตไทยในอังกฤษได้จัดพิธีพระศพของพระองค์อย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
พระองค์เจ้าพีระ ทรงเป็นปู่แท้ๆของ ม.ล.เวฆา ภาณุพันธ์ นักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย ที่สร้างชื่อเสียงในเวทีแข่งขันระดับโลก และเพิ่งจะได้รับเหรียญทองเอเชียนเกมส์ที่หางโจวมาหมาดๆ เรียกได้ว่ามีความสามารถที่โดดเด่น จากรุ่นสู่รุ่นอย่างแท้จริง
ม.ล.เวฆา ภาณุพันธ์ นักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย
โฆษณา