Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ป
ปกรณ์ ปราสาททอง
•
ติดตาม
27 ก.ย. 2023 เวลา 08:42 • ปรัชญา
คนมีความกตัญญูรู้คุณของคุณของบิดามารดานั้น มีแต่จิตมีความสุขกายสุขใจ มีความสบาย
นำพากายบิดามารดามาสร้างบุญกุศล ให้เป็นเนื้อนาบุญให้แก่จิตของเรา เพื่อจะให้จิตเรามีปัญญา หนีเรื่องราวการยึดถือเรื่องราวต่างๆ การที่เราจะมีความสุขได้ ก็คือ นะโม..เป็นคุณบิดามารดาของเรา ที่ให้สังขารเรามา ฉะนั้นกายนี้ คือ กายบิดามารดา เราก็หมั่นที่จะดูแล.. หนุนนำให้มีบุญและบารมีเกิดขึ้น การตอบแทนคุณบิดามารดา ที่สูงส่ง ก็อยู่ตรงนี้
แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่ง ที่เราแสดงความกตัญญูรู้คุณบิดามารดา มาดูแลเรื่องราวการกินการอยู่ การอะไรต่างๆ ซึ่งมีความกตัญญูรู้คุณ เพราะท่านเลี้ยงเรามา เราก็เลี้ยงท่านตอบ อย่างนี้ เรียกว่า จิตของเราได้มีความก็เกิดขึ้น
คนที่มีความกตัญญูรู้คุณของคุณของบิดามารดานั้น มีแต่จิตมีความสุขกายสุขใจ มีความสบาย
ถ้าผู้ใดที่ไม่สนใจบิดามารดาเลย มีแต่ให้ปัจจัยบ้าง ให้ของกิน ให้ของใช้ของกินต่างๆ หาความสุขกายสุขใจของบิดามารดาไม่
..ถึงแม้จะมีเงินมีทองมากมาย ..มียศฐานบรรดาศักดิ์สูงส่ง จิตใจของตนเองไม่มีความสุข มีแต่ความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา เพราะผู้มีพระคุณคือ กายบิดามารดา ที่จะไม่นำพาไปนอบน้อม เคารพต่อคุณบิดามารดา หรือ กตัญญูรู้คุณเกิดขึ้น ความสุขที่เราอยู่ทุกวันนี้ สุขที่ใจอยู่ที่จิตของเรา ไอ้นั่นเรื่องราวต่างๆ เป็นมายาหรอกเรา ว่าเรามีความสุขแล้วน่ะ มียศฐานบรรดาศักดิ์ มีเงินมีทองแล้วน่ะ มีความสุข นั่นหา..ความสุข ที่แท้จริงไม่
เวลาทุกข์ มันก็ทุกข์อยู่ที่ใจ ไม่อยู่ที่..เรื่องราวของอารมณ์กับกาย ฉะนั้น การสุขที่สุดที่เราจะทำได้ เห็นพ่อแม่ของเรา มีความยิ้มแย้มแจ่มใสเบิกบานเกิดขึ้น ลูกก็ต้องมีความสุข แล้วพ่อแม่เกิดมีความหงุดหงิดโมโห หรือ ความที่ไม่สบายอกสบายใจ หรือ อาหารการกินหยูกยาต่างๆ ขาดตกบกพร่อง เมื่อเค้าไม่มีความสุข ลูกก็ไม่มีความสุขไปด้วย
คนใดที่มีความกตัญญูรู้คุณ เรื่องคุณบิดามารดาเนี่ย มันสุขทางใจ แม้แต่มีเรื่องความทุกข์ต่างๆ เกิดขึ้น ก็ทุกข์ไม่นานหรือทุกข์เดี๋ยวเดียว หรือ อาจจะมีปัญญาที่แก้ไขทุกข์ได้อยู่ นั่นคือ ความกตัญญู ต่อบิดามารดา ทั้งกายและใจ ที่จะให้แก่บิดามารดา เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าไปดูคนมากมายก่ายกองที่เค้าร่ำรวย มียศฐานบรรดาศักดิ์ เค้าให้อะไรกับพ่อแม่บ้าง ให้ของกินของใช้ที่อยู่อาศัย ปรนเปรอ แต่ไม่ได้ให้น้ำใจ ไม่ได้ให้ความเคารพ กตัญญูรู้คุณบิดามารดา ผู้นั่นก็หาความสุขไม่ได้
เราอยู่ทุกวันนี้ ต้องการสุขทางใจ จะให้บุคคลนั้น ไปสวดมนต์ภาวนา ทำบุญ เค้าทำไม่ได้ ..ทำไป ..ก็ไปอธิษฐาน..ไปทางโลก ไม่มาทางคัดเอ้าท์กรรม จึงมองไม่เห็นความสุขทร่แท้จริงที่เกิดขึ้น
เราไปดูสิ ลูกที่มีความกตัญญูรู้คุณ เห็นพอแม่ ปฏิบัติพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ คนนั้นแม้จะมีความลำบากลำบนต่างๆ ทั้งทางกาย ใจเค้าก็มีความสุข สุขที่มีความกตัญญู ทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่มีใครรู้ แต่ว่าจะสังเกตดูจริงๆแล้ว
เราไปดูคนอื่นทำ คนที่ไม่สนใจพ่อแม่ กับคนหนึ่งสนใจพ่อแม่ มีความกตัญญูรู้คุณ ถึงแม้ว่า เค้ามีหน้ามีตา มียศฐานบรรดาศักดิ์ แต่ภายในใจเค้าไม่มีความสุข เค้าวุ่นวายอยู่กับไอ้เรื่องโลภโกรธหลง แต่ผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ดูแลไปทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงแม้ว่า ใจเค้าจะมีทุกข์เข้ามา ก็สามารถแก้ทุกข์นั่นได้ โดยไม่ไปต่อเนื่องเป็นวันเป็นคืนเป็นปีอะไรต่างๆ นั่นคือ ทำให้จิตผู้นั้นมีแต่ความสุข สุขเกิดจากการสบายใจ ไม่ใช่สุขอยู่กับเงินทอง หริอ ยศฐานบรรดาศักดิ์
เมื่อฟังแล้วก็หมั่นพิจารณาดู ว่าเราได้ทำเรื่องราวเหล่านี้ แม้ว่าเราไม่สามารถจะอยู่ใกล้บิดามารดาได้ แต่อยู่ไกล เราก็มีความนอบน้อม โดยเอากายของท่านมาทำบุญบ้าง สร้างบารมีบ้าง ก็ส่งคืนให้คุณบิดามารดา จิตใจของเราก็มีแต่ความสุข ไม่ทุกข์
คราวนี้ ถ้าไม่ทำเลย ไม่เอาอะไรเลยทั้งนั้น อยู่กินไปวันหนึ่งคืนหนึ่ง ยึดแต่ยศฐานบรรดาศักดิ์ ยึดถือเงินทองมากมาย มันมายาหลอกเรา นั่นคือ ความสุข แต่มันสุขไม่จริง
แล้วก็มีแต่ ..เค้าเรียกว่า ..มีคนเยินยอสรรเสริญ อยู่แผล็บเดี๋ยว..เค้าไปแล้ว กลับมาทุกข์อีก ทุกข์ในทางใจ แล้วทำให้ สร้างบาป สร้างกรรมขึ้น ใช้อารมณ์ต่างๆ ไปในทางที่ผิดๆ ที่จะใช้ในทางที่ถูก กลับกลายเห็นตัวเองดีแล้ว ทุกคนไม่ดีเท่า..เพราะผู้นั่นมียศฐานบรรดาศักดิ์ ก็เลยไปดุไปด่า ไปว่าคนนั่นคนนี้ ตำหนิคนนั้นคนนี้ เรื่อยไป วาจาก็เป็นกรรม แสดงว่า เค้าหาความสุขไม่ได้แล้ว
ฉะนั้นการที่คนที่มา บุคคลใดก็แล้วแต่ จิตของบุตรธิดา ได้กระทำต่อคุณบิดามารดา มีแต่ความสุขทางใจ แม้แต่ทรัพย์สินเงินทอง ยศฐานบรรดาศักดิ์ ไม่มีเหมือนกับเค้า แต่ก็มีความสุขทางใจ เราก็มาดูตัวเรา แล้วก็ไปดูเปรียบเทียบคนอื่น ดูว่า ..คนที่เค้าไม่ระลึกถึงคุณบิดามารดาเป็นอย่างไร เค้ามีทุกข์อย่างไร เค้าหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า..สุข ที่จริงเค้าไม่สุขหรอก เค้าวุ่นวายไปเรื่องราวต่างๆ จะนั่งจะนอน เค้าครุ่นคิด เรื่องโน้นเรื่องนี้ตลอด
ไม่เหมือนผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณ นี่ตรงนี้ ..เราทำอะไร อยู่ตรงโน้น..ทำอะไร เค้ารู้เป็นที่ๆ แล้วปล่อยวางเรื่อย นั่นคือ สุขของจิตของเรา ที่จะสืบไป ต้องนำไป เพื่อแนะนำชี้ เหตุผลนี้ ไปคิดในแนวทาง ในการสร้างสติปัญญา ให้เกิดขึ้นนั่นเอง
..ตันเต วัทธิวาโร อัปปะวะร้ยานัง สีสันธะ กะริยาโน โหตุุ…
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย