AI กับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เมื่อ AI ช่วยเตือนภัยน้ำท่วมได้
Summary
●
AI ถูกนำมาช่วยจัดการปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะภัยน้ำท่วมที่ AI เข้ามาช่วยบรรเทาความเสียหาย ด้วยการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและแจ้งเตือนล่วงหน้าได้
●
เมื่อนำ AI มาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น การพยากรณ์อากาศ แผนที่ภูมิประเทศ และภาพถ่ายดาวเทียม จะสามารถนำมาใช้สร้างแผนที่น้ำท่วมและแจ้งเตือนชุมชนเกี่ยวกับน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นได้
●
AI ยังสามารถใช้เพื่อติดตามระดับแม่น้ำและตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ ทำให้สามารถนำระบบเตือนภัยล่วงหน้ามาใช้ได้ เพื่อช่วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการ เตือนภัย บรรเทา และเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
●
หากนำข้อมูลที่รวบรวมได้และใช้ AI ให้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการภัยน้ำท่วม จะได้ประโยชน์ทั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคาดการณ์ภัยพิบัติ แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงประสบภัย จัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดในการบริหารจัดการภัยน้ำท่วม และเป็นประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนที่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าพื้นที่อยู่อาศัยเสี่ยงภัยหรือไม่ เพื่อช่วยปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของตนเองได้
เทคโนโลยี AI ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและถูกนำมาปรับใช้กับหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งการบริหารจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติก็เช่นเดียวกัน เราจึงเริ่มได้เห็นรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ทั้งไทยและทั่วโลกนำ AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการภัยน้ำท่วมที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตในวงกว้าง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่ทำให้ภัยน้ำท่วมในแต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและทวีความรุนแรงมากขึ้นในแต่ละปี
Tech By True Digital พาไปสำรวจศักยภาพของ AI ว่าจะเข้ามาช่วยบริหารจัดการน้ำท่วมได้อย่างไร และมีที่ไหนใช้ AI เพื่อจัดการปัญหาน้ำท่วมแล้วบ้าง เพื่อที่ไม่ว่าฝนจะตกหนัก พายุเข้า ก็ไม่ต้องรอลุ้นว่าจะต้องเก็บของขึ้นสู่ที่สูง หรือกังวลว่าน้ำจะท่วมบ้านไหม เพราะ AI ช่วยเตือนภัยได้
ประโยชน์หลักประการหนึ่งของการใช้ AI ในการพยากรณ์และการจัดการน้ำท่วมคือความสามารถในการประเมินความเสี่ยงของน้ำท่วมในพื้นที่ที่กำหนดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ AI สามารถใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลสภาพอากาศ และแผนที่ภูมิประเทศ เพื่อระบุพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม
ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จาก AI จะกลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถบรรเทาความเสียหายจากน้ำท่วมได้ โดยสามารถนำมาพัฒนากลยุทธ์ในภาพใหญ่เพื่อตอบสนองและจัดการผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น การอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ หรือการนำโดรนที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อแสดงข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับขอบเขตของความเสียหาย ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อช่วยในการบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
เตือนภัย
AI ยังสามารถใช้ในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าถึงน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นได้ มีทั้งวิธีที่ใช้ AI ในการติดตามระดับน้ำในแม่น้ำและลำธาร และตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมทั้งจากการใช้ AI ในการคาดการณ์พื้นที่ประสบภัยตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำระบบเตือนภัยล่วงหน้ามาใช้ได้ ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารการเตือนภัยที่เป็นประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนที่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าพื้นที่อยู่อาศัยเสี่ยงภัยหรือไม่ เพื่อช่วยปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของตนเองได้
ช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย
การนำ AI มาวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นที่น้ำท่วมเพื่อระบุพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและจัดลำดับความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ ทำให้ช่วยลดเวลาและทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ประสบภัย องค์กรและรัฐบาลสามารถระบุพื้นที่ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
★
ตัวอย่างการนำ AI ไปใช้จัดการน้ำท่วม
Weathernews นำ AI เตือนภัยพิบัติสภาพอากาศฉับพลันใน 3 ชั่วโมง
Flood Hub จาก Google พื้นที่บริการประเทศไทย ที่มา: https://sites.research.google/floods
★
ความท้าทายของการนำ AI มาใช้จัดการปัญหาน้ำท่วม
เพราะการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการพยากรณ์และบริหารจัดการน้ำท่วมยังค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่และจำเป็นต้องใช้ข้อมูลหลากหลายมากเพื่อให้เกิดความแม่นยำ การนำ AI มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหานี้จึงมีความท้าทายอยู่หลายประการ อาทิ
●
ความพร้อมของข้อมูล เพราะ AI ต้องการข้อมูลจำนวนมากเพื่อฝึกฝนและปรับปรุงความแม่นยำ สำหรับการทำนายและการจัดการน้ำท่วม จึงทำให้บางครั้งข้อมูลมักจะไม่สมบูรณ์หรือไม่พร้อมใช้งาน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ที่ดิน อุทกวิทยา ภูมิอากาศ และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อน้ำท่วมอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางพื้นที่ การขาดข้อมูลนี้ทำให้เกิดการจำกัดความแม่นยำของ AI และความสามารถในการคาดการณ์และจัดการน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำ
●
ความซับซ้อนของข้อมูล เพราะการทำนายและการจัดการน้ำท่วมต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงอุทกวิทยา สภาพภูมิอากาศ การใช้ที่ดิน และปัจจัยอื่น ๆ การใช้งาน AI เพื่อการนี้จึงต้องสามารถประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนเพื่อให้เกิดการคาดการณ์และจัดการน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำ
●
ความแม่นยำของระบบ AI จะมีความแม่นยำพอ ๆ กับข้อมูลที่ได้รับการฝึกฝนเท่านั้น หากข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง AI ก็จะมีความแม่นยำน้อยลง ซึ่งความท้าทายเกี่ยวกับข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพความแม่นยำของ AI ในการบริหารจัดการน้ำท่วม
อย่างไรก็ตามแม้การนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อการบริหารจัดการน้ำท่วมจะยังใหม่อยู่มาก แต่ AI ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพที่จะช่วยคาดการณ์และจัดการน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำ หากนำข้อมูลที่รวบรวมได้อย่างเพียงพอและใช้ AI ให้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการภัยน้ำท่วม