เราจะรับมืออย่างไร ? หากข้อมูลของเรารั่วไหล
เราได้เห็นเหตุการณ์และได้เรียนรู้อะไรจากสองข่าวข้างต้นมาบ้าง ทั้งสองข่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในปีนี้และแน่นอนมันอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตเรื่อย ๆ เพราะข้อมูลของเราถูกใช้งานเป็นรูปแบบออนไลน์ , ถ่ายรูป หรือการส่งข้อมูลก็หลากหลายทางไลน์ เมสเสจ หรือ แม้แต่ทางอีเมล ก็สามารถทำได้ง่าย
แต่การเก็บข้อมูลของหน่วยงานหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็ยังเป็นจุดที่มีคำถามต่อผู้รับบริการว่า ถ้าหากภาครัฐไม่ปกป้องข้อมูลที่รั่วไหล จะทำอย่างไรหละ ? ทั้งที่มีกฎหมายอยู่แล้ว ภาครัฐจะถูกบังคับให้โดนปรับตามกฎหมายที่ไม่ปกป้องข้อมูลประชาชนเหมือนภาคเอกชนหรือไม่ ?
แม้มีคำถามมากมายแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนมากนัก แต่แน่นอนครับ กฎหมายไม่ว่าจะออกมาเพื่อควบคุมอะไรในประเทศ ก็สมควรที่จะบังคับใช้ให้เท่าเทียมทั้งหมด ตรงนี้เราคงต้องหวังกระบวนการยุติธรรมว่าจะสามารถบังคับใช้และเคร่งครัดกับกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลของกฎหมายไซเบอร์ที่ออกมาทั้งหลาย
แต่นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องไกลตัวมาก ๆ ที่เราจะไปเรียกร้องความยุติธรรมในขณะ ที่ข้อมูลเรารั่วไหลไปแล้ว แล้วเราจะทำยังไงหละ ? มีวิธีไหนบ้างมาดูกัน
1. หากมั่นใจว่าถูกมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลบัตรประชาชน บัตรเครดิตหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งไปยังธนาคาร เพื่อทำการอายัดบัตร, บัญชีการทำธุรกรรม หรือ แจ้งกรณีไม่ได้ไปใช้ทำธุรกรรมกับต่างประเทศ และปฎิเสธการชำระเงินค่าบริการทางออนไลน์ และทำการตรวจสอบรายการเดินบัญชีรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง
2. สามารถเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ใกล้บ้าน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้กระทำความผิดและนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
3. ควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ที่ต้องแจ้งข้อมูลบัตรประชาชน หรือ บัตรเครดิตด้านหน้าบัตร และรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องระวังการหลอกลวงให้กรอกข้อมูลบัตร ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านลิงค์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการกดลิงค์ที่มีการส่งมาทางอีเมล SMS หรือ สื่อสังคมออนไลน์ หากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด ขอให้พิมพ์ชื่อเว็บด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่มีความแนบเนียนมาก
4. การสมัครบริการเว็บไซต์ ที่เปิดใหม่เกี่ยวข้องกับการพนัน หรือ เกมส์ออนไลน์โดยมีการชำระเงินนั้นให้ระวังมากขึ้นเป็นเท่าตัวเนื่องจาก เพราะเราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่า จะปกป้องข้อมูลส่วนตัวเราได้มากน้อยขนาดไหน
สิ่งสำคัญที่จะแนะนำอีกอย่างควรจะแยก อีเมลที่ใช้เล่นออนไลน์ เกมส์ จากการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน และ สำคัญที่สุดบริหารจัดการบัตร หรือการชำระเงินให้ แยกออกจากกันอย่างชัดเจนไม่รวมการชำระเงินไปที่บัตรเดียว หรือ ช่องทางเดียวถ้าโดนเราจะไม่สามารถแยกได้กรณีถ้าโดนมิจฉาชีพขโมยข้อมูลไปแล้ว
แต่ถ้าเป็น Offline หรือการถ่ายเอกสาร วิธีการเซ็นสำเนาถูกต้องดีปลอดภัยสามารถทำตามวิธีนี้ได้เลย
สามารถติดตามข่าวสารหรือสาระความรู้แวดวง IT ได้ที่ Avery it tech “เพราะเรื่อง IT อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ”
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
