30 ก.ย. 2023 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“UESG” คำตอบสำหรับสายรักษ์โลก ลุย “หุ้น ESG ทั่วโลก” สร้างผลตอบแทนแบบยั่งยืน !!!

กองทุนติดดาว: กลับมาอีกครั้งกับคอลัมน์ประจำสัปดาห์อย่าง “กองทุนติดดาว” กองทุนที่ได้เรทติ้ง “Morningstar 5 ดาว” จัดเป็นกองทุนหัวกะทิที่มี ‘ผลตอบแทนปรับด้วยความเสี่ยง’ (Risk-adjusted returns) ดีสุด 10% แรกของกลุ่ม ตามสูตรลับเฉพาะของคนกลางอย่าง “Morningstar” ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดอันดับกองทุนรวมที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก
ครั้งนี้เป็นกองทุนในกลุ่ม “Global Equity” ที่มีจุดเด่นเน้นสร้างผลตอบแทนที่ดีระยะยาวและส่งเสริมการลงทุนด้าน “ESG” โดยนำปัจจัยด้าน “ESG” เข้ามาใช้ในกระบวนการลงทุน
และยังเป็นกองทุนรวมฟีดเดอร์ “กองทุนแรกในไทย” ที่ได้รับการประกาศให้เป็นกองทุน “SRI Fund” คือ เป็นกองทุนรวมที่มีการจัดการโดยมุ่งความยั่งยืน (sustainability) ตามหลักเกณฑ์ “17 Sustainable Development Goals” (SDGs) หรือ “17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลและหลักเกณฑ์ที่ “สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์” (ก.ล.ต.) กำหนดอีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางหรือผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านนี้อยู่ ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ ได้หยิบยกข้อมูล “กองทุนรวม” ที่เกี่ยวกับ ESG มาแบ่งปันกัน
“UESG”…ลุย “หุ้น ESG ทั่วโลก” สร้างผลตอบแทนแบบยั่งยืน
กระแสการลงทุนหรือเทรนด์การลงทุนแบบ ESG เป็นอีกหนึ่งที่นักลงทุนหลายคนอาจจะเริ่มได้ยินอย่างหนาหูโดยเฉพาะในตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ และคงไม่ใช่เพียงแค่กระแสที่เกิดขึ้นวูบวาบแล้วหายไป แต่เป็นแนวโน้มหลักของโลกที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนถูกจัดเป็นหนึ่งใน “Megatrend” หลักของโลกการลงทุน ที่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าแนวคิดการลงทุนดังกล่าวได้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งด้วยแรงขับเคลื่อนนี้ก็ส่งผลมายังนักลงทุนให้มีความสนใจมากขึ้นด้วยเช่นกัน ที่จะจัดสรรเม็ดเงินไปร่วมส่งเสริมหรือสนับสนุนลงทุนในธุรกิจที่ดำเนินไปอย่างรับผิดชอบ คำนึงถึงเรื่องของความยั่งยืนครบทั้ง 3 ด้านตามหลักของ ESG (Environmental, Social และ Governance) ซึ่งปัจจุบันก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่าน “กองทุนรวม” นั่นเอง
โดยกองทุนนี้มีชื่อว่า “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกลบอล ฟันด์-หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป” หรือ “UESG” ซึ่งเป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ ‘บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด’ และด้วยผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ก็ได้ถูกยกให้เป็นกองทุน “5 ดาว” จาก “มอร์นิ่งสตาร์” อีกด้วย (ณ วันที 31 ส.ค. 23)
สำหรับรายละเอียดของกอง UESG นั้น เป็น “กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน” (SRI Fund) โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศในรูปแบบฟีดเดอร์ฟันด์หรือลงทุนกองทุนต่างประเทศแค่กองเดียวเป็นหลัก ซึ่งได้จดทะเบียนหรือจัดตั้งขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 21 กันยายน 2566) มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 280,077,469 บาท และมูลค่าหน่วยลงทุนที่ 12.57 บาทต่อหน่วย
“ทั้งนี้ กองทุนหลักก็คือ ‘Robeco Sustainable Global Stars Equities IL EUR’ ที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและส่งเสริมการลงทุนด้าน ESG ผ่านการนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาพิจารณาใช้ในกระบวนการลงทุน นอกจากนี้ยังมุ่งหวังมีฟุตพริ้นท์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า Benchmark กลยุทธ์การลงทุน (ตามประกาศ SRI Fund) Screening / ESG Integration”
หน้าตาพอร์ต...สไตล์ “หุ้นใหญ่” ที่เป็น “หุ้นเติบโต”
จากนโยบายลงทุนทำให้หน้าตาหุ้นในพอร์ตของ ‘กอง UESG’ มีบุคลิกของหุ้นสไตล์ “หุ้นใหญ่” ที่เป็น “หุ้นเติบโต” (Growth) เป็นสำคัญ
ด้านการจัดสรรเม็ดเงินลงทุนหรือการกระจายสัดส่วนการลงทุนของกองทุนหลัก (ณ วันที่ 31 ส.ค. 23) แบ่งเป็นรายอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก จะประกอบไปด้วย
-เทคโนโลยี 26.2%
-การเงิน 15.2%
-สุขภาพ 11.7%
-สินค้าฟุ่มเฟือย 11.4%
-ภาคอุตสาหกรรม 10.2%
“โดยหน้าตาหุ้น Top5 ในพอร์ตไม่เพียงเป็นที่รู้จักคุ้นตานักลงทุนทั่วโลก ยังผ่านเกณฑ์เรื่องของ ESG ในการทำธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Apple, Alphabet, Visa และ Amazon.com เป็นต้น”
“ฟากผลการดำเนินงานโดยรวมของ ‘กอง UESG’ เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมาอยู่ในระดับที่ 8.74% ต่อปี (ดัชนีชี้วัด 13.25% ต่อปี) ขณะที่ความผันผวนของผลการดำเนินงานเองก็เฉลี่ยอยู่ที่ 15.37% ต่อปี (ดัชนีชี้วัด 16.09% ต่อปี) แต่อย่างไรก็ดีกองทุนก็เคยมีขาดทุนที่ค่อนข้างรุนแรงเช่นกันโดยในช่วง 5 ปีย้อนหลังกองทุนเคยมีผลขาดทุนสูงสุดอยู่ที่ -16.98%” (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 23)
เงินลงทุนขั้นต่ำ “ครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” ไม่กำหนด
โดยนักลงทุนที่สนใจการลงทุนใน ‘UESG’ ก็สามารถใช้เงินลงทุนได้อย่างอิสระ เนื่องจากเงื่อนไขของมูลค่าขั้นตํ่าของ “การซื้อครั้งแรก” และ “ครั้งถัดไป” ทางบลจ.ไม่ได้มีข้อกำหนดเช่นเดียวกันกับเงื่อนไขการขายผู้ลงทุนสามารถทำได้อิสระ ซึ่งมีระยะเวลาในการรับเงินค่าขายภายใน 4 วันทําการหลังจากวันทํารายการขายคืน (T+4)
ส่วนรายละเอียดการซื้อขายในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายๆ โดยผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จํากัดทุกสาขาและตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายหน่วยลงทุนอื่นๆที่บริษัทแต่งตั้งขึ้นหรือช่องทางออนไลน์ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น UOBAM Invest
“การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน ส่วนสำคัญที่เป็นดั่งหัวใจหลักและหนึ่งในปัจจัยอันดับต้นๆ ก็คือการลงทุนในธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานและการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด ESG เทรนด์ ซึ่งการคัดกรองหรือเกณฑ์การคัดเลือกก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์อย่างกองทุนรวมเป็นตัวช่วยเสริมได้เช่นกัน”
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
โฆษณา