ก็ในเมื่อคนทุกคนในโลกนี้ไม่ใช่คนดีกันทุกคน เราจึงควรต้องรู้และดูให้ออก ว่าคนไหนเป็นคนยังไง!
🔊 ฟังแบบเสียงอ่านบทความนี้
เรื่องง่ายๆ อย่างเพื่อนที่พอจะคบหาได้ ไม่ว่าจะเพื่อนร่วมงานหรือจะเพื่อนบ้านเองก็ตามที เมื่อเรามองเขาด้วย “สติ” ไม่ใช่ “อคติ” ที่ว่าเขาดูดี มีฐานะน่าจะเป็นคนดี หรือ เขาดูค่อนข้างขัดสน น่าจะเป็นคนขี้ขโมย การคิดไปเองแบบนี้ เป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
ทางที่ถูกต้อง คือ เราควรใช้สติพิจารณาให้ดี เก็บรายละเอียดทั่วๆ ไปที่เขาคนนั้นกำลังแสดงมันออกมา แล้วเราก็จะสามารถแยกแยะได้ว่าใครน่าคบ หรือเอาแค่เป็นคนรู้จักก็พอแล้ว
กับคนบางคนเราอาจต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่กับบางคนเราอาจใช้เวลาเพียงไม่นาน เขาก็แสดงธาตุแท้ จนถึงนิสัยสันดานให้เรารู้แจ้งเห็นจริงได้ก็มีเยอะไป
มันก็อยู่ที่เราเองนี่ละ จะสังเกตุเห็นบ้างไหม มันจะมีสัญญาณบางอย่างที่สามารถทำให้เราเห็นภาพรวมของนิสัยที่แท้จริงของคนๆ นั้นได้ เอาว่า มาจับ 5 สัญญาณง่ายๆ กับเรื่องราวที่บอกได้ว่าใครน่าคบ หรือไม่น่าคบ มารับรู้ไปด้วยกันเลยค่ะ
1. ให้สังเกตุเห็นเวลาเขาโกรธ
เคยเจอบ้างไหม คนหน้าตาดี ดูใจเย็นพูดจาดี ดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อยน่าคบหา จนรู้สึกอยากเป็นเพื่อนกับเขาจัง มีคนแบบนี้เยอะแยะไปในสังคม คนที่ภายนอกดูดี แต่ภายในใจน่าหวาดกลัว น่าหนีห่าง
คนที่เวลาปกติก็ดูเป็นผู้เป็นคนดี แต่อย่าได้เผลอไปมีเรื่องด้วยเด็ดขาด คนที่โมโห โกรธอะไรที สามารถคัดสรรคำแย่ๆ มาใช้อย่างเมามัน พูดคำด่าคำ แว้งกัดคนอยู่ใกล้อย่างหมาบ้า ด้วยว่า ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีใครหน้าไหนก็อย่าได้ดีมีสุข ต้องมารองรับอารมณ์ของเขาคนนั้นก่อน ถึงจะถูกต้อง
คนแบบนี้ ให้หนีห่างให้ไกล อย่าได้คบค้าสมาคมด้วยให้เปลืองเวลาเปลืองแรง ต่อให้เป็นคนดีแค่ไหน แต่ไม่สามารถเก็บอารมณ์ได้ ใช้คนอื่นเป็นที่รองรับอารมณ์ คนแบบนี้อันธพาลในคราบนักบุญชัดๆ อย่าเสพคบด้วยเป็นอันขาด ห่างได้ให้ห่าง อย่างแรกที่คุณต้องเจอถ้ายังทนคบด้วย
คุณต้องคอยมานั่งระแวง เวลาไหนเขาอารมณ์ดีเวลาไหนเขาจะอารมณ์ร้าย หากคุณเจอความไม่มั่นคงในอารมณ์แบบนี้บ่อยๆ อีกหน่อยคุณจะกลายเป็นพวกหวาดวิตก จิตตก หรือกลายเป็นซึมเศร้าเอาได้
ข้อต่อไป เพราะคุณมีทางเลือกเสมอ การจะคบใครซักคน คือ เรื่องของคุณเต็มร้อย เขาคนนั้นก็แค่คนๆ หนึ่ง ที่คุณสามารถเลือกจะคบเป็นเพื่อนหรือตัดออกไปจากชีวิตได้
เพื่อนมันมีหลายแบบ บางคนคุณสามารถเก็บไว้แค่เป็นเพื่อนห่างๆ ก็ได้ ไม่ต้องสนิทมากให้เครียดเปล่าๆ นี่ก็ย่อมทำได้เสมอ จะคบใครก็เอาที่เราสบายใจไม่ต้องกังวลใจจะดีกว่านะ
2. ได้เห็นการปฏิบัติตัวต่อคนที่ไม่มีประโยชน์กับเขา
มันจะมีคนอยู่ประเภทหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคนรวยจริงหรือรวยเทียม เขาจะมองคนอื่นเป็น สัตว์ สิ่งของ มองคนอื่นแบบเหยียดๆ อากัปกิริยาแสดงออกอย่างชัดเจน ว่าเขาเห็นคนอื่นอยู่ระดับที่ต่ำชั้นกว่าเขา ไม่มีค่าไม่มีประโยชน์กับเขา
คนประเภทนี้เป็นคนแบบแรกๆ ที่ต้องรีบออกห่าง อย่าได้คบค้า ขืนเผลอไปอยู่ใกล้ ไปเดินด้วย คนอื่นจะมองว่า คุณเป็นพวกเดียวกัน เป็นคนที่นิสัยแย่ ประหนึ่งหลุดมาจากยุคกรุงเก่า ดูเป็นคนถือยศถือศักดิ์ นิสัยเหมือนคนสมัยยังมีข้าทาสบริวารล้อมหน้าล้อมหลัง
คนแบบนี้ไม่เห็นคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน เขาแค่ตัดสินคนอื่นด้วยภาพลักษณ์ทางสังคม แต่งตัวดีแค่ไหน มีรถหรูหรือไม่ ทำงานตำแหน่งอะไร ทำอยู่บริษัทไหน อะไรแบบนี้ คนแบบนี้ถือว่า เป็นคนมีอคติ หากคุณเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ คุณก็ต้องทำตัวลอยอยู่ในอากาศเช่นเดียวกันด้วย
เขาจะพาคุณเท้าไม่ติดพื้น ทุกอย่างต้องเว่อวังอลังการ นานไปคนที่แย่จะเป็นคุณ ที่ต้องวิ่งตามไลฟ์สไตล์เพี้ยนๆ ของเขา มันหมดยุคทาสไปนานแล้วนะ อย่าได้เผลอไปเป็นทาสให้เขาโขกสับเข้าละ มันจะเหนื่อยเปล่า มันคุ้มไม่เท่าเสียนะ
3. เมื่อเขาได้สิ่งที่ต้องการแล้ว
คงเคยเจอกันบ้างที่เพื่อนที่เคยน่ารักน่าคบหา อยู่ๆ ก็มีนิสัยเปลี่ยนไป จากที่เคยรู้สึกตื่นเต้น สนุกสนานที่ได้เจอกัน มีเรื่องคุยด้วยมากมาย อยู่ๆ ก็กลายเป็นความความกระตือรือร้นพวกนั้นเลือนหายไป
กลายเป็นเจอกันก็แค่ยิ้มให้ เดินผ่านเลยไป เฉยๆ ทำเอาเรากลายเป็นคนไม่มีจุดยืน อยู่ยากไปเฉย อยู่ๆ คนที่เคยอยากเจอ อยากอยู่ด้วยกันกับเรา กลายเป็นคนที่ปฏิเสธเรา อยากอยู่คนเดียวหรืออยู่กับคนอื่นมากกว่าเรา คิดๆ ไปก็ไม่ต่างกับอกหักดีๆ นี่เอง
เพื่อนที่เราคิดว่าจะเป็นเพื่อนที่ดี เพื่อนร่วมงานที่พึ่งพาอาศัยกันได้ เป็นเพื่อนสนิทที่มีความสุขยามได้ทำอะไรๆ ด้วยกัน แต่ตอนนี้กลายเป็นเหินห่างเย็นชา เฉยเมยต่อกัน ถ้าทั้งหมดคือ สิ่งที่เกิดขึ้น ลองมองย้อนกลับไปดูดีๆ สิ่งที่คนๆ นั้นต้องการจากคุณ เป็นเรื่องของ "มิตรภาพ" หรือ "ผลประโยชน์"
คนที่นิสัยแย่ อยากมีอยากได้ อยากให้เป้าหมายสำเร็จตามต้องการอย่างเดียว โดยขาดปัญญา พวกเขาจะใช้คุณเป็นแค่ทางผ่านสู่ความสำเร็จเท่านั้น เพราะเขามองว่า มิตรภาพและความจริงใจคือ สิ่งที่ไม่ทำเงินสำหรับเขา เมื่อเขาได้สิ่งที่ต้องการจากคุณแล้ว นิสัยที่แท้จริงย่อมปรากฏ
ถึงตอนนี้ ถ้าเจอคนแบบนี้แล้วให้ดีใจได้เลยไม่ต้องเสียใจให้เสียเวลา อย่างแรก เขาไม่คู่ควรที่คุณจะคบด้วยเพราะเขาเป็นคนไม่มีปัญญา มองเหรียญด้านเดียวไม่มองกาลไกล คนเป็นมิตรกันย่อมดีกว่าเป็นศัตรูกัน อาจได้พึ่งพากันภายหลังก็ได้
ข้อต่อมาคนๆ นี้ไม่มีความจริงใจ ยิ่งคุณเห็นด้านแย่ๆ เร็วเท่าไหร่จะได้ยิ่งออกห่างได้ไวขึ้นเท่านั้น และข้อสุดท้าย ยิ่งออกตัวแรงว่านิสัยแย่ขนาดนี้ เรายิ่งรู้ว่าคนๆ นี้คบไม่ได้ ดีกว่าพวกเงียบๆ ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนดีหรือคนไม่ดี แบบนี้รู้เห็นกันไปเลย ดีกว่าเยอะเลย ถ้าเจอแบบนี้ก็แค่จำไว้ว่า จะคบกับใครก็แค่เผื่อใจไว้บ้างก็แค่นั้นเอง
4. เมื่อมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง
เรื่องภาระส่วนตัวของแต่ละคน มีความจำเป็นต่างกันออกไป บางคนจน บางคนรวย บางคนพอมีพอใช้ ก็แล้วแต่ความสามารถในการหาเงินของแต่ละบุคคล แต่ที่มันจะแย่ลงหน่อย ก็ต่อเมื่อ คนที่คุณรู้จัก เริ่มสนใจรายได้ สนใจทรัพย์สินของคุณ
เขาอาจชอบคุยเรื่องลงทุนทำการค้า เรื่องชวนกันไปตั้งตัวทำอะไรซักอย่าง ชวนเล่นหุ้น ชวนขายตรง ชวนเล่นแชร์ อยากขายประกันให้คุณด้วยหวังดีเป็นห่วง หรืออะไรต่อมิอะไรที่ว่าด้วย การชวนคุณจ่ายเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ของคุณ
ตอนนั้น ก็ให้ตั้งสติ คิดให้รอบคอบได้เลย คนๆ นี้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายหรือเปล่า ตอนนั้นคุณต้องดึงตัวเองออกมามองภาพรวมให้ได้ มองให้เห็นถึงเจตนาของเขา ดูให้ออกว่าความจริงใจเป็นศูนย์ หรือ เขาจริงใจกับคุณจริงๆ อย่าพึ่งรับคำ ยอมรับทำสิ่งใดๆ ด้วยทันที
เมื่อมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างแรกคือ เอาข้อเสนอกลับบ้านไปก่อน ไปปรึกษาคนที่คุณไว้ใจ คนที่เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ ข้อต่อมาให้ทำใจเป็นกลางได้เลย อย่าโอนเอนไปทางคนๆ นั้นอย่างเมื่อก่อน ที่ไว้ใจอย่างเต็มที่ เมื่อไหร่มีเรื่องเงินทองมาเกี่ยว ต้องคิดให้ละเอียดรอบคอย เรื่องเงินทองนี่มันพาให้คนผิดใจมาเยอะแล้ว
ข้อสุดท้าย ต้องลองเว้นระยะห่างจากคนๆ นั้นดูบ้าง เพราะคุณอาจเห็นธาตุของเขาได้เร็วขึ้น ถ้าเขาโมโหหรือยิ่งเร่งรัดคุณให้ทำตามเรื่องราวที่เขาบอก โอกาสสูงที่เขาเห็นคุณเป็นแค่เครื่องเอทีเอ็มมากกว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ลองดูให้ดีแล้วกัน
5. เมื่อคุณหยุดตามใจเขาในบางเรื่อง
การคบหาใครซักคน ก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่กับการคบหาดูใจคนเป็นแฟนกัน โปรโมชั่นช่วงแรกก็ย่อมมาเต็ม จัดโปรแบบไม่ยั้ง เพื่อนว่าไงก็ว่าตามกันไป เฮไหนเฮนั่นตามกันไปด้วย แต่พอนานๆ ไป คุณจะเริ่มเห็นบางอย่างชัดเจนขึ้นมาบ้าง
อย่างการตามใจเพื่อนทุกครั้ง ในทุกเรื่องมันไม่ใช่ทางออกที่ดี ของทุกความสัมพันธ์ คนที่รักกัน เห็นกันเป็นมิตรที่ดี ควรมีโอกาสแชร์ความรู้สึก ปรึกษากันได้ด้วย บางอย่างก็ควรปฏิเสธได้ ถ้าเราคิดว่าไม่ควรทำ ควรตักเตือนคุยกันได้ตามประสาเพื่อนฝูงที่ดี
แต่หากเมื่อไหร่ ที่คุณหยุดตามใจเขาในบางเรื่องแล้วเขามีอาการหงุดหงิด ไม่พอใจ พูดจาไม่ดี มีอาการขัดใจจนออกนอกหน้า ระงับอารมณ์ไม่อยู่อะไรแบบนี้
แนะนำว่า ให้อยู่ห่างไว้บ้างก็ดี คนที่เห็นจักรวาลหมุนรอบตัวเอง รักแต่ตัวเอง ไม่ให้เกียรติความคิดเห็นคนอื่นบ้าง เจ้าอารมณ์ หงุดหงิดใส่คนที่หวังดี บางทีก็ควรเว้นระยะห่างเอาไว้จะดีกว่า เพราะ คนบางคนเป็นได้แค่คนรู้จักไม่ใช่มิตรที่ดีก็มีนะ
และนี่ละ วิธีง่ายๆ ที่จะสามารถสังเกตุดูคนรอบตัวคุณได้ ว่าคนไหนมีค่าแก่การคบหาบ้าง หรือคนไหนที่ไม่ควรเปลืองตัวเสียเวลา เสียพลังงานไปคิดว่าเขาเป็นเพื่อนแท้ของคุณ
การเลือกคบคนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่งั้นโบราณจะมีคำพูดที่ว่า "คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล" ขึ้นมาทำไมละ เพราะการเลือกคบคนมันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ เราต้องพิจารณาให้ดีถึงจะถูกต้อง
ถ้าหากเราเอาคนไม่ดีมาเป็นเพื่อน คนไม่ดีก็จะชักนำ พาเราไปในทางที่ไม่ดีได้ ในทางกลับกัน ถ้าเราคบคนดี เพื่อนที่ดีมีความรู้ คนดีเองก็จะชักนำ พาเราไปในทางที่ดี ในสังคมดีๆ ที่มงคลกับชีวิตต่อไปนั่นเอง ส่งกำลังใจให้คุณเสมอนะคะ คุณมีเพื่อนดีๆ ได้แน่นอนค่ะ
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเมนต์มานะคะ
ติดตามเราตามช่องทางอื่นๆ
• Youtube (เสียงอ่านบทความ) https://youtube.com/channel/UCBddu-n2Z6GQg3N66F2FnSg
• Tiktok
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
