13 ต.ค. 2023 เวลา 05:21
กรุงเทพมหานคร

มุมมองต่อวันเกิดปีนี้ ที่ต่างออกไป

13 ตุลาคม 2530 ถึงปัจจุบัน และคงจะมีต่อจากนี้ต่อไปอีกหลายสิบปี
ทุกๆ ปีที่ผ่านมา ในวันเกิดของผมเอง ตอนเด็กๆ จะอยู่กับพ่อแม่ ไม่ก็เพื่อน ฉลอง เป่าเค้ก ได้ของขวัญ กินหมูกระทะ สังสรรค์ ไม่เคยมีสาระเป็นชิ้นเป็นอัน
ช่วงเลข 30 ใน 5 ปีหลังมานี้ ส่วนมากจะต้องทำงานในวันเกิด ไปหน้างาน หรือไม่ก็นัดประชุม เลยไม่ค่อยได้สนใจ เฉยๆ กับมัน มันก็แค่วันหนึ่งวันเหมือนวันทั่วไป
จริงๆ ปีนี้ก็ยังรู้สึกเฉยๆ กับวันเกิด แต่รู้สึกกับตัวเลขของอายุมากกว่า พอพ้นเลข 35 ขึ้น 36
อยู่ๆ ก็ตระหนักถึงอะไรหลายๆ อย่างขึ้นมา
อย่างแรก เห็นคุณค่าของเวลาที่ล่วงเลย รู้สึกว่าอีกแค่แปปเดียวก็จะ 40 แล้ว เลยเป็นห่วงพ่อกับแม่มากขึ้น คิดถึงเพื่อนๆ ที่เคยร่วมทางกันมามากขึ้น
เห็นลักษณะของความสัมพันธ์ที่ดี ที่ควรสร้าง และถนอมไว้ ว่าควรเป็นอย่างไร ทั้งกับคนรัก และกับเพื่อนฝูง เอาคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เติมเต็มให้กัน ไม่ toxic ต่อกัน
เห็นความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น เลิกอดนอน เลิกสูบ ลดดื่ม ระวังตัวไม่ให้ป่วยอยู่ตลอด
เห็นคุณค่าของชีวิต ที่ครั้งหนึ่งอุตส่าห์ได้เกิดมา อยากทำตัวเองให้เป็นประโยชน์ อยากส่งเสียงให้ดังกว่านี้ ทั้งต่อสังคม การเมือง ต่อวงการวิชาชีพ และวิชาการ
เห็นคุณค่าของความฝัน ที่ตัวเองเป็นบ้าเป็นบอ วิ่งไล่ตามมาตั้งนานตลอดมา ตอนนี้แม้จะไม่ร่ำรวย ไม่โด่งดังอะไร แต่อย่างน้อย ผมก็ได้เห็นว่ามันคือบริษัท ที่มีผลงานและเงินค่าตอบแทน ให้น้องๆ ในทีมได้มีงานทำ มีโอกาสเติบโตในสายงานวิชาชีพ มีทรัพย์สินให้น้องสาว ให้ลูกสาว ได้มีบริษัทไว้ถือหุ้น เป็นทุนเลี้ยงดูตัวเองต่อไป
เห็นคุณค่าของความอดทนและพยายามของตัวเอง ที่เติบโต เก็บเกี่ยวประสบการณ์และบทเรียนมากมาย คนเรากว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่นี่ต้องใช้เวลานานจริงๆ
โฆษณา