Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Side Stories
•
ติดตาม
13 ต.ค. 2023 เวลา 16:16 • กีฬา
BECKHAM: สรุป "แก่น" จากสารคดี และเหตุผลที่ใครๆ ก็รักเดวิด
สรุปแก่นจากสารคดี #Beckham
.
.
.
1. คาถาลับของคนเก่ง บางทีก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า "ซ้อมแล้ว ซ้อมอีก และซ้อมให้ถึง" เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่รักและทุ่มเทไปให้สุดชีวิต
ซึ่ง "D.Beckham" คงไม่มีวันนี้ ถ้าเขาไม่มีพ่อที่คอยฝึกซ้อม ให้ความรัก ใส่ความมุ่งมั่น และแพสชั่นลูกหนังลงไปให้ลูก กว่าจะเป็นนักเตะเท้าชั่งทอง เปิด ยิงแม่นราวจับวาง เขาเองก็ผ่านการซ้อมหนัก โดนพ่อติ โดนกดดันมามากมาย
2. "ความกล้าทำ ในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า" จะทำให้เราแตกต่างขึ้นมา ประตูที่ยิงครึ่งสนามใส่วิมเบิลดัน คือ สิ่งที่สื่อถึงหัวใจอันห้าวหาญ กล้าได้ กล้าเสีย เพราะโอกาสตรงหน้า ใช่ว่าจะมาง่ายๆ ทำไมเราไม่ลองสักตั้ง!?
3. เกียรติยศ ชื่อเสียง มักมีอะไรให้ต้องแลกเสมอ ไม่มีใครทำทุกอย่างได้เต็มโฟกัส ถ้ามีบางอย่างมาดึงความสนใจไปจากตรงนั้น และเดวิดก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่คะนอง ดื้อ ตามประสาวัยรุ่นที่กำลังเจอแสง สี สาดมาจากนอกสนาม ชีวิตส่วนตัวย่อมกลายเป็นชีวิตส่วนรวมไปโดยปริยาย
4. สโมสรฟุตบอลไม่ใช่แค่แหล่งรวมผู้เล่นอย่างเดียว โดยเฉพาะ "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ที่มองว่านี่คือ "อาณาจักร" ที่เขามุ่งสร้างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (United) ลูกทีมทุกคนล้วนผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เน้นคนมีครอบครัวแล้วไว้ก่อน อย่างน้อยมั่นใจว่าเขามั่นคงแล้วระดับหนึ่ง ลดโอกาสว่อกแว่กนอกสนาม
เช่นกันกับหนุ่มเบ็คส์ที่จะหล่อเด่นดังแค่ไหน ในรั้ว Old Trafford จะไม่มีใครใหญ่เกินทีม ในสนามทุกคนมีค่าเท่ากัน อยู่ที่นี่ย่อมมีกฎให้ต้องทำตาม เหมือนเรียนจบมาได้เกรดสูง เมื่อไปทำงานก็ต้องเริ่มจาก 0 ต้องทีมเวิร์คให้เป็น มืออาชีพให้พอ
5. การหลงทาง พลาดไปตามวัย ย่อมไม่ใช่เรื่องผิด สำคัญคือเมื่อพลาดแล้วเราแก้ยังไงต่อ? ถึงเดวิดจะเสียเหลี่ยมให้ผู้ร้ายตัวจริงอย่าง "D.Simeone" จนโดนใบแดง กลายเป็นแพะของคนทั้งชาติ จนโหนโห่หนักครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขากลับเอาพลังลบตรงนั้นมาเป็นพลังบวกให้ยิ่งฮึดสู้ ยิ่งเล่นดีขึ้น ให้ผลงานเป็นตัวช่วย
ดื้อกับป๋ามาตลอด ก็สำนึกผิด รู้ ยอมรับ และขอโทษ ทำผลงานให้ดีใหม่ เป็นตัวอย่างที่ดีของนักบอลทุกสมัย โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่หลงโซเชียลและแสงสีจน หลงได้ แต่ต้องไม่ลืมตัวตนและคุณค่าที่แท้จริงด้วย
6. "ความผิดพลาด" จะกลายเป็นผีร้ายคอยหลอกหลอน หรือจะเป็นครูผู้สอนบทเรียนบางอย่างให้ เราเองที่เลือกได้ อย่างเดวิดที่ยังแสดงความมืออาชีพ
เมื่อกลับมาเจออริเก่า D.Simeone ในนามสโมสร ก็ยังจับมือทักทาย ใส่เต็มที่ในสนาม พอจบเกมก็เดินไปขอแลกเสื้อกับอีกฝ่าย แถมยังใส่กรอบไว้เตือนใจอีก นี่แหละคือตัวอย่างของคนที่พลาดแล้วเรียนรู้จากมันต่อ
7. คุณสมบัติอย่างหนึ่งของการเป็น "ผู้นำที่ดี" คือติในที่ลับ ชมในที่แจ้ง ซึ่งจุดนี้ป๋ากับเกล็น ฮอดเดิ้ล ผจก. ทีมชาติอังกฤษในตอนนั้น ต่างกันยังสิ้นเชิง คนหนึ่งมองเดวิดเป็นดั่งลูกชาย ถึงดุก็ดุกันส่วนตัวตรงๆ จบงานแล้วไปต่อ พลาดจากทีมชาติมาก็ยังมีบ้านสีแดงรอโอบกอด ขณะที่ฮอดเดิ้ลจวกลูกทีมออกสื่อ นอกจากไม่ปกป้องแล้วยังซ้ำเติมไปอีก
8."เพื่อนแท้" หาใช่คนที่คอยยินดีเมื่อเราสำเร็จ หากแต่เป็นคนที่พร้อมจะร่วมทุกข์ ร่วมเจ็บ และร่วมกันฝ่า อย่างที่ "R.Keane" บอกว่าใครทำเดวิด ก็เหมือนทำพวกเขาด้วย ที่นี่เราพร้อมปกป้อง
9. กระนั้น ชีวิตไม่จำเป็นต้องมีฝันเดียวเสมอไป ถึงจะรัก #ManchesterUnited แค่ไหน แต่ถึงวันที่จำต้องแยก ประตูฝันครั้งใหม่ก็เปิดรอให้เลือก
10. ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อตาล่อใจมากมาย แต่ "รักแท้" ก็จะยังมั่นคงต่อไป ไม่ว่าจะเจอข่าวซุบซิบ โดนแซวยันชีวิตครอบครัวแค่ไหน สำหรับเดวิดแล้ว "วิคตอเรีย" คือยอดรักของเขาเสมอ ไม่สำคัญว่าพวกเขาเคยรักกันยังไง แต่สำคัญที่ยังรักกันต่อไปได้ดี แม้ในวันที่มีปัญหา ก็พร้อมจับมือกันฝ่าฟัน
11. ในที่หนึ่งเราอาจเป็นดาวเด่น แต่อีกที่เราอาจเป็นดาวประดับ ยิ่งกับ #RealMadrid ยุคกาลาคติกอส ยุคแรกที่เต็มไปด้วยดาวดังคับโลก เดวิดเป็นได้เพียงเงาของ L.Figo และยังไม่อาจฉายแสง ภาษาสเปนก็ไม่ได้ ครอบครัวก็ยังไม่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน หนำซ้ำยังเจอข่าวซุบซิบเรื่องมือที่สามมาโจมตี
ทว่าเขายังคงมีใจเข้มแข็ง สู้ทน ลงเล่นอย่างมืออาชีพต่อไป พร้อมเคลียร์ใจกับครอบครัว หาทางสร้าง "แสงสีขาว" ให้ตัวเองจนเจอ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นมากกว่าแข้งการตลาดบนสื่อ
12. ฟุตบอลเป็นกีฬาระดับสากล ต่อให้ต่างคนต่างที่มา แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เมื่อพูดคุยด้วยภาษาใจเดียวกัน แบบที่เดวิดได้เจอ "R.Carlos" เพื่อนซี้ต่างดินแดน
13. ในวันที่ชีวิตถึงจุดเปลี่ยนอีกรอบ โดนกุนซือจอมเฮี้ยบอย่างคาเปลโล่ขังลืมข้างสนาม ถูกห้ามกระทั่งมาซ้อมกับเพื่อนๆ โทษฐานแอบไปคุยกับ L.A.Galaxy แต่เดวิดก็ยังแสดงความเป็นมืออาชีพ เข้าชมเกม มาซ้อมเดี่ยวตรงเวลา ทำตัวเองให้ฟิตพร้อมรับกับโอกาสเสมอ จนชนะใจเขาได้ในที่สุด รวมพลังกันพลิกคว้าแชมป์ลาลีกา ส่งท้ายชีวิตในสเปนได้อย่างยิ่งใหญ่จวบจนวันสุดท้ายของสัญญา
14. แม้การบินลัดฟ้ามาค้าแข้งในแดนลับแลแห่งโลกลูกหนังอย่างอเมริกา จะเป็นผลดีกับความสุขครอบครัว และให้ค่าตอบแทนด้วยเม็ดเงินมหาศาล แต่สำคัญกว่านั้นคือเดวิดได้ฉายแววความเป็น "ผู้ริเริ่ม" ให้เห็น
เพราะคนเก่ง ใครก็เป็นได้ถ้ามีพรสวรรค์-พรแสวง (หรือรวมกัน) แต่การเป็น "ผู้นำ" คือการส่งต่อแสงของตัวเองให้คนอื่นๆ รอบตัวได้เฉิดฉายตาม นั่นกลับท้าทายยิ่งกว่า
ในวันที่ผืนหญ้าแดนลุงแซมยังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามชุดใหญ่ มีความเหลื่อมล้ำมากมาย นักเตะได้เงินไม่คุ้มแรง สนามบางที่ยังมีเส้นรักบี้ปนอยู่ เดวิดก็ยังคงก้มหน้าก้มตาเล่น ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
15. ถึงจะเป็นคนรักครอบครัวมากๆ และอยู่ในวัยซีเนียร์ ปลายอาชีพค้าแข้ง แต่หัวใจเดวิดก็ยังเป็นเด็กหนุ่มที่ยังกระหายความสำเร็จอยู่ตลอด จนยอมขัดใจเมีย เพื่อทำตามใจตัวเองสักหน่อย ก่อนหน้านี้ไป R.Madrid คนเดียวล่วงหน้า รอบนี้ครอบครัวตามมาอเมริกา ก็ไปมิลานเองซะเลย ฮ่าา
ถึงจะดูใจร้ายสำหรับเจ๊วิค หากมองในมุมเดวิดในส่วนลึก ก็เข้าใจได้ว่าเวลาบนฟลอร์หญ้าเขาเหลือไม่มากแล้ว อยากทำไรก็ทำเลย ไม่รอช้า
มามิลานถึงสองคำรบ ก็ยังคงมุ่งมั่นเสมอทั้งการเล่นในลีกที่ไม่คุ้นอย่างกัลโช่ และแผนของทัพรอสโซเนรี่ตอนนั้นก็ไม่มีการใช้ปีก แต่เดวิดก็บอกว่าเขาพร้อมลงทุกตำแหน่งที่อันเช่สั่ง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือบอลโลกรอบสุดท้ายกับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งยังคงเป็นฝันสูงสุด นั่นจึงทำให้น้ำตาผมหลั่ง เมื่อเห็นเขาเจ็บหนัก ชวดมันไปอย่างน่าเสียดายที่สุด (เสียดายไม่มีช่วงนี้ในสารคดี)
16. การติกันออกสื่อ ไม่เคยให้ผลดีกับใคร ไม่ใช่แค่กับคนเป็นผู้นำ แต่กับคนเลเวลเดียวกันด้วย สู้เคลียร์ใจตรงๆ หันหน้าแมนๆ คุยกันย่อมดีกว่า แบบที่ "L.Donovan" เคยด่าเดวิดว่าทิ้งทีม กรณียืมตัวไป #ACMilan ตามคำแนะนำของคาเปลโล่ โค้ชสิงโตคำรามคนใหม่ เพื่อโอกาสติดทีมชาติต่อ
จนเมื่อเดวิดกลับมาทำให้เห็นถึงแพสชั่นที่ยังมีเต็มเปี่ยม เกมอุ่นเครื่องกับมิลานก็เป็นคนเปิดเตะมุมให้เพื่อนทำประตู ก่อนจะหันไปอ้าแขนรับเสียงแฟนๆ ที่โห่มาทั้งเกม ประมาณว่า "พวกคุณยังต้องการอะไรอีก?" เพิ่งสนุกกับชีวิตในเครื่องแบบแดงดำมาไม่นาน ถึงเวลารับใช้ต้นสังกัดจริง เขาก็ใส่เต็มหมด นี่แหละมืออาชีพ
เลยทำให้ยอดแข้งมะกัน หันมายอมรับและปรับความเข้าใจกับเขาใหม่ ทิ้งเรื่องผิดใจไว้ข้างหลัง แล้วรวมพลังกันพาทีมพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จากทีมหลังแถว เคยกระทั่งไม่ชนะใครมา 12 เกมติด จนดีวันดีคืน พากันคว้าแชมป์ได้ในที่สุด
17. รอยยิ้มของแข้งบอลทองคำในวันนั้น ช่างมีความหมายยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งกว่าตอนคว้าทริปเปิ้ลแชมป์กับ Man United หรือการพลิกโผสอยถ้วยลา ลีกากับ R.Madrid ที่ต่างอุดมไปด้วยยอดแข้งและมีปัจจัยเอื้ออยู่มาก
แต่ที่นี่ เดวิดพยายามจนแสงของเขาได้สอดส่อง ส่งประกายความหวัง ความเชื่อมั่น ให้โค้ชและเพื่อนๆ L.A.Galaxy ฮึดสู้ตามไปด้วยจนสำเร็จ เป็นผู้ริเริ่มที่พลิกโฉมวงการลูกหนังแดนลุงแซม พาให้สื่อหันมาสนใจ เป็นใบเบิกทางให้แข้งในยุโรปคนอื่นๆ เดินตามมา
18. ถึงจะเป็น "Perfectionist" ตัวยงคนหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายเริ่มไม่ไหว แม้จะเป็นอาชีพแห่งฝัน เดวิดก็รู้ดีว่าเขานั้นควรต้องพักแค่นี้ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งที่พา P$G คว้าแชมป์ พร้อมเดินออกจากสนามทั้งน้ำตา
ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างยิ่งใหญ่ เป็นชายที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทุกคนก็รักเขาเสมอ
19. "แพสชั่นไม่มีวันหมดอายุ" ถึงจะแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่เลือดฟุตบอลในตัวเดวิดยังคงพุ่งพล่านไม่เปลี่ยน แค่นั้นก็เพียงพอให้กลับมาพัฒนาที่ที่เขาเคยปลุกปั้นอย่าง MLS ให้ดังกระหึ่มขึ้นไปอีก
นำความรุ่งเรืองมาสู่ #InterMiami ด้วยหัวใจนักผู้บริหารที่รักและมุ่งพัฒนาทีมอย่างแท้จริง คิดการใหญ่แล้วทำมันให้ได้ รู้ว่าทีมต้องการ "ผู้นำ" ในสนามแบบที่เขาเคยเป็น มาจุดประกายสีชมพูให้ส่องสว่าง ก็พา "L.Messi" มาสร้างไปด้วยกันจนเห็นจุดเปลี่ยน
ไม่เพียงจะส่งผลดีด้านการตลาด แต่ทุกคนในทีม
ต่างพากันยกระดับความเก่ง ได้บัฟทั้งขวัญ กำลังใจ พาให้กระหายไปด้วยกัน เหมือนฉายภาพวันที่เดวิดมาแอลเอฯ ใหม่ๆ เลย
ปลุกความคึกคักแห่งไมอามี่ ด้วยสปิริตและผู้เล่นระดับแชมป์เปี้ยนส์ พากันสอยแชมป์ได้อย่างงดงามในเวลาแค่ไม่นาน ทว่ากลับตราตรึงเหลือเกิน
20. นอกจากนี้ เดวิดยังเป็นตัวอย่างของการเป็นคน "Well Organized" สุดๆ ถึงจะเป็นคนดัง มีอะไรให้ทำมากมาย แต่ในครอบครัว เขายังเป็นพ่อบ้านคนสำคัญที่ไม่เคยปล่อยให้จานชามค้างลอย ไม่เคยปล่อยโต๊ะ ชั้น สิ่งของมีคราบสกปรกอยู่แม้แต่โมเลกุลเดียว
ตู้เสื้อผ้าก็มีการจัดวาง แยกประเภทชุดต่างๆ ยัน กกน. ไว้เป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่สะท้อนมาจากความเป็น Perfectionist นี่แหละ แค่เขารู้จักเอามาประยุกต์ใช้กับชีวิตอย่างดีที่สุดในแต่ละมุม ทำเอาดูจบผมถึงกับมีไฟเคลียร์ห้อง จัดตู้ให้ดีแบบเฮียตามไปด้วย
21. เป็นทั้งสามีที่ดีของเจ๊วิค ทั้งพ่อและเพื่อนที่ดีของลูกๆ ทั้ง 4 คนเสมอมา
น่าเสียดายที่สารคดีมีแค่ 4 ตอน
เลยทำให้ต้องเร่งหาทางจบ
จนพลาดบางช่วงสำคัญในชีวิตเดวิด
ทั้งน้ำตาลูกผู้ชายที่มิลานในวันฝันสลาย
พลาดโอกาสสุดท้ายกับทีมชาติอังกฤษ
แต่ก็ยังเป็นที่จดจำในฐานะตำนานคนหนึ่ง
ผู้รับใช้ชาติมากเป็นอันดับต้นๆ ถึง 115 นัด
ทั้งการได้หวนคืนถิ่น สวมชุดปีศาจแดง
เปลี่ยนตัวให้บรู๊คลิน ลูกชายคนโต
ลงไปเล่นแทนในเกมพิเศษ
ทั้งการถอดรหัสแนวคิด
ความเป็นผู้บริหารของเขาให้สุด
ว่าอะไรที่ทำให้ไมอามี่สำเร็จดังกระหึ่ม
ถ้ารวมตรงนี้และ
อีกหลายมุมเข้ามาได้
คง Epic ขึ้นอีกแน่
ใดๆ เท่านี้ก็ดีมากแล้ว
ทั้งการนำฟุตเทจที่ไม่เคยถูกเล่า
มาตีแผ่ให้เห็นอย่างเร้าใจ
ตัดต่อภาพ เสียงได้ดี
จบตอนแล้วชวนติดตามต่อ
ไม่รู้สึกเลยว่ากำลังชมสารคดีอยู่
ทั้งแขกรับเชิญที่ดูเหมือน
พาให้เรากลับคืนวันเก่าๆ
ในโลกลูกหนังยุคนั้น
ที่มีสีสัน สดใส แบบคลาสสิค
อยากขอบคุณที่ครั้งหนึ่ง
เราเคยมีชีวิตดูชายรูปงามคนหนึ่ง
โลดแล่นอยู่ในสนาม
วางบอลแม่น ยิงแม่นราวจับวาง
ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้ามาตลอด
รวมถึงเป็นมืออาชีพ "ที่สุด" คนหนึ่ง
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลทีมไหน
ผมก็เชื่อเต็มหัวใจว่าทุกคน
ต่างรักและเคารพนับถือเขา
และใครที่รักเขาอยู่แล้ว
ก็เชื่อว่าจะยิ่งรักขึ้นไปอีก
"David Beckham"
ขอบคุณที่ครั้งหนึ่ง
คุณเลือกมาอยู่ทีมเรานะ ❤️🖤
ภาพยนตร์
ฟุตบอล
netflix
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย