16 ต.ค. 2023 เวลา 07:30 • อาหาร

ชาตรามือ ต้นตำรับชาไทย กลยุทธ์พลิกชีวิตแบรนด์โบราณอายุ 103 ปี ให้ดังไกลระดับโลก

เรียกได้ว่าไม่ว่าอีกกี่แบรนด์ชานม ชาชง ชาไข่มุก จากต่างแดนจะเข้ามาตีตลาดไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่สามารถกลบความยืนหนึ่งเมนูน้ำชงอันดับหนึ่งในใจใครหลายคนอย่าง ‘ชาไทย’ เมนูสุดปังจาก ‘ชาตรามือ’ ก็อาจจะไม่ได้ เพราะนี่คือหนึ่งแบรนด์โบราณไทยแท้ ตำนานชาชงที่ต้นตำรับผู้ปลุกปั้นชาไทยให้กลายเป็นเมนูน้ำชงซิกเนเจอร์ที่ดังไกลระดับโลก
  • ชาจีนของซาเหล่าแปะ สู่ ชาไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
จุดเริ่มต้นของ ชาตรามือ และ ตระกูลเรืองฤทธิเดช เริ่มขึ้นเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว ‘ซาเหล่าแปะ’ ต้นตระกูลได้เดินทางจากจีนเข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยเมื่อปี 2463 และเริ่มจุดประกาย ‘ธุรกิจชาจีน’ ของตระกูลครั้งแรกในชื่อ ‘ลิมเมงกี’ Lim Meng Kee บนถนนเยาวราช นำเข้าทัพชาแท้ๆ ทั้งชาอู่หลง ชาเขียว ชาแดง จากจีนมาสู่ไทย ระหว่างขยับขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง ซาเหล่าแปะ เริ่มก่อตั้งโรงงานที่เชียงรายเป็นแห่งแรก โดยช่วงแรกๆ รับผลิตชาให้กับเจ้าอื่นๆ ตามพื้นที่ต่างๆ เป็นหลักไป
ธุรกิจก็เติบโตตามลำดับ ซาเหล่าแปะ ยังคงคิดค้นสูตรของร้านไปเรื่อยๆ นำเข้าชารูปแบบต่างๆ เพื่อตอบโจทย์รสนิยมของคนไทย อย่างการปรับเมนูชาชงใส่น้ำแข็งสดชื่นกว่าดื่มชาร้อนแบบจีน เพราะบ้านเราเมืองร้อนให้ซดชาร้อนสไตล์จีนตลอดก็คงไม่ไหว
อย่างไรก็ดีในช่วงแรก ชาตรามือ ยังไม่ได้มีชื่อแบรนด์ว่า ‘ตรามือ’ แต่คำว่า ‘ตรามือ’ นั้นที่มาจากโลโก้ดั้งเดิมที่ใช้ตั้งแต่สมัยก่อนที่เป็นรูปกาชงชา และมือยกนิ้วโป้ง ที่หมายถึง ‘ความเป็นเลิศ’ ลูกค้าติดภาพจำผลิตภัณฑ์จนเรียกติดปากต่อๆ กันว่า ‘ชาตรามือ’ หรือปู่ย่าบางคนก็อาจจะอาจเรียกว่า ‘ชาตราหัวแม่โป้ง’ ‘ชาตรากา’ จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญนั่นก็คือ การตัดสินใจเปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการ พร้อมปรับแบรนด์ดิ้งสู่ ‘ชาตรามือ’ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับคนดื่ม
  • จากยี่ปั๊วซาปั๊วจีน สู่ผู้ขายที่รุกโมเดิร์นเทรด และแฟรนไชส์ต่างประเทศ
การคิดค้นสูตรอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้ชาไทยที่มีคุณภาพดี ทำให้ ‘ชาตรามือ’ โดดเด่นในเรื่องของเอกลักษณ์ รสชาติ ที่คงคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของธุรกิจแบบ B2B ที่รับผลิตวัตถุดิบชาให้กับเจ้าอื่น ก้าวสู่ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายชาของตัวเอง
ผลิตภัณฑ์ชาชงสำเร็จรูปของชาตรามืออยู่เบื้องหลังความอร่อยของชาไทยหลายร้าน ถ้าสังเกตทุกวันนี้ร้านเล็กใหญ่ตามข้างทางไปจนถึงคาเฟ่หลายร้านต่างใช้ชาชงสำเร็จของชาตรามือเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับเมนูชาไทยกันทั้งนั้น แน่นอนว่าความดีงามของชาไทยยังถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยว และตลาดต่างประเทศที่นำ ชาตรามือ ไปชงต่อเช่นเดียวกัน
  • สานต่อเอกลักษณ์ รสชาติ และลูกค้า รุ่นต่อรุ่น
ปัจจุบันหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ ‘พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช’ ทายาทเจเนอเรชันล่าสุด รุ่น 3 ผู้ขับเคลื่อนอาณาจักรธุรกิจชาตรามือ ผู้สร้างกระแส ‘ชาตรามือฟีเวอร์’ ดันแบรนด์ดั้งเดิมของเหล่าแปะสู่คนรุ่นใหม่ๆ ต่อเนื่องจาก ดิฐพงศ์ เรืองฤทธิเดช ทายาทรุ่นที่ 2 พ่อของพราวนรินทร์ ลูกชายผู้สืบทอดกิจการ
หากใครที่ติดตามเรื่องราวของ ชาตรามือ มาโดยตลอดจะเห็นว่าท้ังสองรุ่นมีบทบาทสำคัญที่ทำให้แบรนด์ดิ้ง ชาตรามือ กลมกล่อมในแต่ละยุคสมัย เชื่อมโยงผู้บริโภคคอชากาแฟได้เป็นอย่างดี เป็นชาตรามือใส่แก้วลวดลายที่ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นกระป๋องชาเหล็กในตำนาน
“ชาที่ทุกคนไว้ใจได้ในคุณภาพ และราคาที่เหมะาสม เป้าหมายเป็นผู้ผลิตชาที่ผลิตชาได้ทุกชนิด”
เป้าหมายหลักของ ชาตรามือ ไม่ซับซ้อน และยังคงเป็นแก่นหลักในการพัฒนาธุรกิจ นั่นก็คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถูกบอกต่อกันแบบปากต่อปาก ก็ทำให้ความเชื่อมั่นในแต่ละเมนูโดยไม่ต้องพูดอะไรเยอะ
กลยุทธ์หลักๆ ที่ชาตรามือเจาะตลาดผู้บริโภค ได้แก่ การเป็นชาที่เข้าถึงผู้คนได้จริง กล่าวคือ ความเข้าถึงง่าย (Drinking-Friendly) และราคาที่คุ้มค่า ชาตรามือเน้นกลยุทธ์เลือกสถานที่ในการตั้งหน้าร้านคีออสก์ที่มองไปทางไหนก็เจอ เน้นทำเลที่คนเข้าถึงง่าย ช่องทางที่คนเข้าถึงง่ายอย่างตามห้างสรรพสินค้า บีทีเอส จุดที่ผู้คนสัญจรไปมา ไม่ใช่แค่ขายได้ แต่การตั้งหน้าร้านที่ใกล้ชิดผู้บริโภคยังเป็นการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรงอีกด้วย
นอกจากนี้ ชาตรามือ ไม่เคยหยุดต่อยอดสูตร รังสรรค์มนูใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างความประทับใจกับลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์พฤติกรรมการดื่มที่เปลี่ยนไปตามยุค โดยเฉพาะปัจจุบันที่ตลาดน้ำชง ชานมเจ้าต่างๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ยกตัวอย่าง ชากุหลาบ เมนูเรือธงที่สร้างปรากฏการณ์ ที่นอกเหนือจากรสชาติชาที่หอมกรุ่นดอกกุหลาบ แต่มาพร้อมกับสรรพคุณช่วยในการขับถ่าย ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาให้หมู่แฟนคลับทั้งไทย และต่างประเทศ เรียกได้ว่าไม่ใช่พลิกวงการน้ำชง แต่ยังพลิกชีวิตแบรนด์โบราณให้ขึ้นมาอยู่ในกระแสหลักได้ในทันที
ชาตรามือ นับเป็นหนึ่งตัวอย่างที่สร้างความประทับใจในการส่งต่อแบรนด์จากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงส่งผ่านแบรนด์ดิ้งจากอดีตสู่ปัจจุบันที่ประสบผลสำเร็จ การไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาธุรกิจ และปรับตัวโดยไม่ทิ้งแก่นแท้ ในฐานะแบรนด์ที่มีอายุยาวนาน กลยุทธ์หลายอย่างๆ ล้วนประกอบร่างสร้างให้แบรนด์ ชาตรามือ ไม่จางหายไปตามกาลเวลา แถมยังกลายเป็นแบรนด์รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ และอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของเมนูน้ำชงที่จะยกระดับชาไทยให้เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย
ปัจจุบันชาตรามือกินสัดส่วนตลาดกว่า 80% ของตลาดชาชงทั้งประเทศ มี 150 สาขาทั่วประเทศไทย แถมยังเตะตานักลงทุนที่ต้องการนำแบรนด์ ชาตรามือ ไปขยายอาณาจักรต่อในต่างประเทศ โดยตลาดต่างประเทศ ได้แก่ บรูไน, กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, เมียนมา, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ รายได้ปี 65 2,104 ล้านบาท กำไร 34 ล้านบาท รายได้ปี 64 1,977 ล้านบาท กำไร 32 ล้านบาท รายได้ปี 63 1,599 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท.
ติดตามรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่👇
FB: Thairath Money 💰
โฆษณา