Mike Flanagan
จาก OCULUS สู่ The Fall of the House of Usher
ผู้ถ่ายทอดความสยองผ่านปมความสัมพันธ์ในครอบครัว ทีเราไม่ได้หนีไปไหนได้
เป็นผู้คนที่มารู้ที่หลังว่า กำกับหนังหลายเรื่องที่ตัวเองชอบแบบไม่รู้มาก่อนว่าเป็นผลงานของ Mike Flanagan อย่างเช่น Oculus [2013] Hush [2016] Before I Wake [2016] จนมารู้จักจริงๆตอน The Haunting of Hill House [2018] ที่ทำซีรี่ส์ออกมาได้อย่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ
เด็กชาย Mike Flanagan กำเนิดในปี 1978 ในเมือง Salem, Massachusetts เนื่องจากคุณพ่อ Timothy เป็นเจ้าหน้าที่ U.S. Coast Guard คุณแม่ Laura Flanagan และ Mike ต้องย้ายบ้านบ่อยๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ไปปักหลักอยู่ที่เมือง Bowie, Maryland ในวัยเด็กเริ่มถ่ายทำและตัดต่อหนังตั้งแต่ในระบบ VHS ก่อนจะเข้าเรียนที่ Archbishop Spalding High School ใน Severn, Maryland ที่เค้าเข้าเรียนเกี่ยวกับภาพยนต์อย่างจริงจัง และไปเข้าเรียนต่อใน Towson University's Electronic Media and Film department
เค้าได้เริ่มทำงานในวงการผลิตหนังในวัย 21 ตั้งแต่ปี 2000 อย่างเช่น MAKEBELIEVE (2000,) STILL LIFE (2001) และ GHOSTS OF HAMILTON STREET (2003) ต่อก็ย้ายไปทำงานตัดต่อใน Los Angeles ให้กับ โชว์ตลก ,Realityโชว์ ,สารคดี และ โฆษณา
ในปี 2005 Mike Flanagan เข้าสู่วงการหนังสยองขวัญด้วยหนังสั้น ชื่อ OCULUS: Chapter 3 ที่ใช้งบแค่ 2,000 เหรียญ ที่ชนะรางวัลในหลายเวทีรอบโลก ทำให้เค้าได้โอเกาสทำหนังจริงๆเรื่องแรกอย่าง ABSENTIA ที่ระดมทุนจาก Kickstarter ที่ได้งบการทำการสร้างมากขึ้น 70,000 เหรียญ ซึ่งผลงานก็ยังยอดเยี่ยมกระแสไปในทางที่ดี และได้รับรางวัลจาก Film festival และทำให้หลายๆคนวงการหนังเริ่มจับตามองเค้ามากขึ้น
2012 กลายผลงานเปิดตัวชิ้นแรกของเค้า นั้นคือ OCULUS ที่ได้ Relativity Media จัดจำหน่ายไปทั่วโลกที่ (ที่ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่และแตกต่างจากหนังผีในยุคนั้นเลย) และกลายเป็นจุดหมายสำคัญของการเข้าสู่ Horror แบบเต็มตัวและตามไปด้วยผลงานที่คนดูหนังสายนี้น่าจะรู้จักกันเยอะ อย่างเช่น BEFORE I WAKE [2016] HUSH [2016] Ouija: Origin of Evil [2016] และความฝันของเค้าก็มาถึงคือการได้ทำ Gerald's Game [2017]
รวมงานกับนักเขียนระดับตำนานอย่าง Stephen King ซึ่งทำให้เค้าเข้ามาสู่ Platform Netflix อย่างเต็มตัว และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญมากๆ THE HAUNTING OF A HILL HOUSE [2018] กลายเป็นซีรี่ส์สยองขวัญที่ยอดเยี่ยมใน Netflix ที่ดึงดูดคนมากมายเข้ามาชม ที่ต้องสยองกลับวิธีเล่าเรื่องที่เล่นกับความสัมพันธ์ของครอบครัว ที่ผสมผสานกับสถานที่สยดสยอง ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นและรายละเอียดที่สดใหม่จริงๆ ซึ่งได้ทำภาคต่ออย่าง The Haunting of Bly Manor [2020] แต่ความเทพของเค้ายังไม่ได้หมดไปซึ่งผลงานต่อมาก็ยังทำได้ยอดเยี่ยมอย่าง
Midnight Mass ที่เล่นกับเรื่องศาสนา ความเชื่อ ความดีความชั่วที่ขยี้ประเด็นได้อย่างเจ็บแสบมากๆ และในปีนี้่ก็มี The Midnight Club เรื่องราวของเด็กใกล้ตายที่มาเล่าเรื่องสยองกันตอนเที่ยงคืน ซีรี่ส์นี้มีกลิ่นความเป็น Stephen King ที่ coming of age มากๆ
และล่าสุด The Fall of the House of Usher
ฝันร้าย อันสยดสยองของ ของครอบครัวนายทุน ชนชั้นนำ ที่สามารถควบคุมสังคมได้ แต่กลับถูกทำลายจากภายในที่เน่าเฟอะ และบิดเบี้ยว ที่นำไปสู่ความหลอนของคนทั้งครอบครัวที่เงินไม่สามารถช่วยพวกเค้าได้เลย
ซึ่งเค้าบอกว่าหนังในดวงใจของเค้าคือ JAW ที่ทำให้เค้าจดจำได้ตั้งแต่เด็กๆ ที่เค้าได้ดูครั้งแรกผ่านทีวีเก่าๆ แต่ก็ยังทำให้เค้ากลัวและตกใจได้อย่างไม่เชื่อ และเค้าก็มีวิดิโอ JAW ที่เค้าจะเปิดให้เพื่อนๆดูในวันเกิดเค้า ซึ่งเค้าเองจะค่อยดูปฏิกิริยาของเพื่อนๆว่าจะกลัวและตกใจตอนไหนบ้างและทำให้เค้ารักหนังแนวนี้
และที่น่าสนใจมากคือๆ เค้าจะดู JAW ซ้ำในคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อศึกษารายละเอียดต่างๆ ในการทำหนัง อย่างจริงจังมาเรื่อยๆ ทำให้รู้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเรื่อยๆ JAW กลายเป็นผลงานที่เป็นแรงบันดาลใจของเค้ามากๆ
ที่เค้ากลายเป็นผู้กำกับเรือธง ที่นำความน่ากลัวแบบใหม่ที่คนดูแบบพวกเราไม่มีวันจินตนาการกับผลงานใหม่ๆได้จริงๆ
ข้อมูล
#MikeFlanagan
#ประวัติ
#แรงบันดาลใจ
#หลับต้นเรื่อง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
