18 ต.ค. 2023 เวลา 00:51 • ความคิดเห็น

Good day - Bad day

ตื่นเช้าวันนี้ เรามักจะภาวนาว่าขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีเสมอ แต่วันที่ดีนั้นคืออะไรกันแน่
2
กระทิง พูนผลกับผมมีโค้ชที่เรานับถือมากๆเป็นคนเดียวกัน เป็นทั้งอดีตหัวหน้าของเราทั้งคู่ ในระหว่างที่ทำงานให้เขาเราก็ได้เรียนรู้วิธีการคิดระดับโลกจากเขาไปด้วยเหมือนกัน
คุณซิกเว่ เบรกเก้ อดีตซีอีโอดีแทคผู้ที่ปัจจุบันกลายเป็นซีอีโอของบริษัทระดับโลกไปแล้วนั้น ชอบสอนผมเวลารับงานนั้นให้ทำงานที่ให้รู้สึกเหมือนกับไปยืนริมหน้าผาจะตกแหล่มิตกแหล่ตลอด ไม่รู้จะรอดหรือไม่รอด คุณซิกเว่บอกว่าความรู้สึกแบบนั้นจะทำให้เราเรียนรู้และเติบโต ความรู้สึกสบายต่างหากที่ทำให้เราไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย พอสอนๆแล้วผมดูหูทวนลม คุณซิกเว่ก็จะจับผมย้ายไปทำงานที่ได้ฟีลแบบนั้นเสมอและก็จริงอย่างที่คุณซิกเว่ว่าทุกครั้ง
กระทิงก็เพิ่งเล่าเรื่องที่คุณซิกเว่สอนไว้ในทำนองเดียวกัน ซึ่งเอ๋ นิ้วกลมมาเล่าต่อไว้ว่า ซิกเว่บอกว่าชีวิตคนเรามีแค่สองวันคือวันดี (good day) และวันร้าย (bad day) วันร้ายคือวันที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วงานราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไรเลย กินอะไรก็อร่อย กลับบ้านเร็ว วันนั้นเป็นวันที่คุณซิกเว่บอกว่าคือ bad day เพราะคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
2
วันดีคือวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเหงื่อออกนิดหน่อย พารานอยด์เล็กน้อย มีอุปสรรค มีปัญหาใหม่เข้ามา วันนั้นคือ good day เพราะคุณเก่งขึ้นจากตัวคุณเองเมื่อวาน เพราะแก้ปัญหาที่เมื่อวานแก้ไม่ได้
1
คุณซิกเว่มีทัศนคติแบบนี้ ตื่นเต้นกับ good day แบบที่เขามองในขณะที่เรามองเป็น bad day และก็ทำให้เขาเก่งขึ้นเรื่อยๆจากนักการเมืองที่ไม่รู้เรื่องบริหารอะไรเลยจนกลายเป็นผู้นำระดับโลกไปได้ในปัจจุบัน
ความคิดเรื่อง good day bad day นั้นน่าสนใจมากในมุมของชีวิตเช่นกัน ผู้อาวุโสทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชีวิตเรานั้นประกอบด้วยความทรงจำ ยิ่งใกล้ปลายอายุขัยนั้น สิ่งมีค่าที่สะสมไว้จะไม่ใช่แก้วแหวนเงินทองหรือชื่อเสียง แต่เป็นความทรงจำทั้งดีและร้ายทั้งสิ้น
2
แล้วความทรงจำเกิดจากอะไร อะไรที่ราบรื่น ผ่านไปวันๆแบบออโต้นั้นไม่เกิดความทรงจำใดๆเลย ความทรงจำกลับเกิดจากอุปสรรคต่างๆที่เจอในชีวิตมากกว่า ไม่ว่าจะทุกข์หรือแก้ปัญหานั้นได้ก็จะเป็นความทรงจำที่มีค่าเสมอ เวลาเราไปเที่ยวกับทัวร์ ขึ้นรถเป็นหลับ ขยับเป็นกิน ไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆแล้วกลับนั้นไม่เคยเป็นความทรงจำที่คิดถึงเมื่อเทียบกับขับรถเที่ยวเองกับครอบครัว หลงบ้าง ทำอะไรเปิ่นๆบ้าง ขับอ้อมโลกบ้าง
2
อุปสรรคและการฟันฝ่าเหล่านั้นเป็นความทรงจำที่อยู่กับเราจนตายมากกว่า good day กับ bad day พอคิดในมุมคุณซิกเว่ก็ได้ประสบการณ์และได้เติบโต พอคิดในมุมความทรงจำก็น่าจะคล้ายกัน
แล้วความทรงจำที่สะใจที่สุดคืออะไร ..
ผมเพิ่งดูสารคดี david beckham ที่ดีมากๆทาง netflix นอกจากจะทำให้ได้เข้าใจและชื่นชมความเป็น beckham มากกว่าเดิมมากแล้ว มีตอนหนึ่งที่น่าจะเป็นไฮไลท์ของชีวิต น่าจะเป็น very bad day ที่เลวร้ายที่สุดของเบคแฮม ก็คือตอนที่เขาน็อตหลุดไปเขี่ยน่องของซิมิโอเน่แล้วทำให้เขาถูกไล่ออกจนกลายเป็นแพะรับบาปเพราะอังกฤษแพ้อาร์เจนติน่าตกรอบบอลโลก
หลังจากนั้นเขาถูก bully เป็นคนที่คนอังกฤษเกลียดชังสุดๆ โดนโห่ โดนไล่ โดนล้อมรถด่าทุกวัน เบคแฮมใช้ความอดทนอย่างสูงสุด ไม่ตอบโต้ แต่พยายามทำผลงานทั้งสโมสรและทีมชาติให้ดีที่สุด
จนได้มีโอกาสอีกครั้งในการยิงฟรีคิกสุดสวยและทำให้อังกฤษเข้ารอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในวินาทีท้ายๆอย่างที่คนอังกฤษกระโดดดีใจทั้งประเทศ จนกลับมาได้รับการยอมรับอีกครั้ง
ความทรงจำที่สะใจแบบนี้ถึงกลายเป็นตำนาน การชนะอะไรง่ายๆไม่ค่อยน่าจดจำ แต่การชนะอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่นั้นน่าจดจำกว่ามาก การที่เรา having very bad day นั้นก็อาจจะเป็น good day ที่ปลอมตัวมาก็ได้ ในช่วงที่เบคแฮมลงสนามทีไรก็โดนโห่ ไปไหนก็โดนไล่ โดนแกล้ง แต่เบคแฮมและผองเพื่อนก็รวมกันเป็นหนึ่งเพื่อต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆนานา
ผมชอบที่โอเล่ กุนน่า โซลชา สรุปไว้ในบทสัมภาษณ์ช่วงนั้นมากพอเจอเรื่องยากๆแบบนั้น เขาบอกอย่างภูมิใจหลังจากเอาชนะได้ว่า “ We win despite of, not because of” และต่อด้วยรอย คีน ที่บอกว่าเบคแฮมทำพลาดและโดนด่าเยอะมาก แต่เขาจะสู้กับอุปสรรคท่วมหัวนั้นอย่างไร จะ “ sink or swim “ กันล่ะ ต้องเลือกเอา
และนั่นก็คือสปิริต manchester united ชุด triple champion ในตำนานปี 1999 นั่นเอง…
เบคแฮมอาจจะมองวันที่ถูกไล่ออกนั้นเป็น badest day ของชีวิตในตอนนั้น แต่มองจากวันนี้ วันที่โชคร้ายที่สุดในชีวิตก็น่าจะเป็น good day ที่ทำให้เขาต้องฮึด ต้องสู้ เติบโตและมีความทรงจำที่เป็นรสชาติของชีวิตจนเป็นตำนานได้ในที่สุด
เราเองก็เช่นกัน…
โฆษณา