19 ต.ค. 2023 เวลา 10:22 • นิยาย เรื่องสั้น

เรื่องสั้น - อโหสิกรรม

คชา กำปืนในมือไว้แน่น กระบอกปืนจ่อไปที่ แก้ว หนุ่มหน้ามลที่ได้เจอกันไม่ถึงเดือน แต่กลับทำให้คชาเดือดดาลถึงกับต้องจ่อปืนใส่ แต่ก็ไม่สามารถลั่นไกได้ เมื่อพิมลักษณ์ ภรรยาสุดที่รักเข้ามาขวางทางปืนไว้
น้ำตารื้นในตาของคชาอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะความโกรธเกรี้ยวที่เห็นพิมลักษณ์สนิทสนมกับแก้วจนเกินงาม จนนำมาซึ่งเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้เท่านั้น แต่ที่ทำให้น้ำตาร่วงลงมาอีกก็เป็นเพราะไม่คิดเลยว่า พิมลักษณ์จะเอาตัวเข้าขวาง เมียรักที่อยู่กินกันมานาน 15 ปี ถึงกับจะยอมแลกชีวิตเพื่อไอ้หนุ่มที่เพิ่งรู้จักคนนี้น่ะหรือ เขาไม่อยากจะเชื่อ ไม่อยากจะเชื่อตั้งแต่ที่ตัวเองบันดาลโทสะ ลุกไปหยิบปืนกระบอกนี้มาแล้วนั่นแหละ
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 วันก่อน
แก้ว หนุ่มหน้าตาดีผู้มีแววเศร้าขรึมในดวงตา เดินเข้ามาที่รีสอร์ต ณ ริมน้ำจันทบูร เขาขอเช่าห้องพักระยะยาวเป็นเวลา 1 เดือน ทำให้พิมลักษณ์ เจ้าของรีสอร์ตที่สงบร่มเย็นแห่งนี้แปลกใจมิใช่น้อย
จริงอยู่ว่า “คชารีสอร์ต” ของสามีจะเป็นรีสอร์ตริมน้ำที่น่าอยู่ แต่ลูกค้าส่วนมากก็จะมากันคืนสองคืน อาจจะเป็นเพราะจันทบุรีเองก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯ มากมายนัก และบรรยากาศของที่นี่ก็เป็นบรรยากาศริมแม่น้ำ ไม่ใช่บรรยากาศทะเลเหมือนที่เป็นที่นิยมกันในจังหวัดนี้ แต่ลูกค้าผู้แปลกประหลาดกลับขอเช่านานตั้ง 1 เดือน
แต่ที่สำคัญกว่านั้น เพียงแค่ได้เจอกันไม่กี่วินาที พิมลักษณ์รู้สึกวูบวาบในหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนคุ้นเคยกับลูกค้าหน้าใหม่คนนี้มานานปี ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนี้ ปะปนกันทั้งความคุ้นเคย ความห่างเหิน ความเจ็บปวดในเบื้องลึก และ..ที่น่ากลัวที่สุด มันเหมือนจะมีอีกความรู้สึกหนึ่งซ่อนอยู่ในซอกหลืบที่ลึกที่สุดของหัวใจ..ความรัก..ความผูกพัน...ที่เลือนลาง
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรเล่า พิมลักษณ์แต่งงานกับคชาตั้งแต่ตอนที่อายุเพิ่งจะย่างเข้า 20 มาถึงตอนนี้ ในวัย 35 ปี พิมลักษณ์ยังดูงดงามเหมือนสาวรุ่น แต่แม้จะมีหนุ่มๆ เพียรมาขายขนมจีบ รวมทั้งลูกค้ารีสอร์ตหลายคนที่ขยันมาหยอดคำหวาน แต่พิมลักษณ์ไม่เคยสนใจใครมากไปกว่าการพูดจาวางตัวดี เหมาะสมกับอาชีพเป็นผู้บริการรีสอร์ต
ก็เธอจะสนใจใครไปทำไมเล่า ตั้งแต่เติบโตมาพร้อมๆ กับเด็กรุ่นพี่ข้างบ้านอย่างคชา เธอก็รู้ว่าเขาเป็นคนดีอย่างแสนที่สุดสำหรับเธอ คชาหนุ่มรูปหล่อที่สาวอื่นมองกันเหลียวหลังตั้งแต่วัยรุ่นจนมาถึงเดี๋ยวนี้ สามีของเธอก็ยังเป็นผู้ชายที่ดูดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น และเป็นเช่นกันว่า ไม่ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมาให้ท่า หรือแสดงอาการสนใจ คชาก็ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา
สองสามีภรรยาจึงช่วยกันทำมาหากิน สร้างรีสอร์ตเล็กๆ นี้ขึ้นมาพร้อมกับความรักที่มีให้กันอย่างล้นเหลือ แม้จะไม่มีลูกด้วยกัน แต่คชาและพิมลักษณ์ เจ้าของ “คชารีสอร์ต” ก็มีความรัก มีความสุขด้วยกันอย่างที่คนเห็นแล้วอิจฉา ภรรยาก็สวยสม สามีก็หล่อเหลาเอาอกเอาใจ รีสอร์ตแห่งนี้จึงอบอวลด้วยความรัก
แต่ทำไมเล่า เพียงแค่ลูกค้าหนุ่มคนใหม่ที่มาขอเช่าห้องพักคนนี้ส่งยิ้มเศร้าๆ มาให้ พิมลักษณ์ถึงได้รู้สึกหัวใจสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยเป็น แม้แต่กับคชา สามีที่เธอมอบทั้งชีวิตให้เขาอย่างจงรัก
“ว่าไงครับ ผมอยากเช่าห้องพักริมน้ำเดือนนึง” แก้วเอ่ยถามซ้ำ เมื่อเห็นพิมลักษณ์นิ่งงันไปเป็นเวลานาน
เจ้าของรีสอร์ตสาวยกมือขึ้นเสยผมยาวสลวยของเธอเป็นการแก้เขิน ก่อนจะเอ่ยถาม
“จะอยู่ตั้งเดือนนึงเลยหรือคะ ปกติไม่ค่อยมีลูกค้ามาขอเช่าระยะยาวๆ เลยอดแปลกใจไม่ได้ค่ะ ว่าคุณจะอยู่ได้ยังไงตั้งนาน แถวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากสักเท่าไหร่หรอกนะคะ”
“แต่ผมกลับคิดว่าแถวนี้มีอะไรให้ผม “ทำ” เยอะเลยครับ” ลูกค้าหนุ่มเน้นคำว่า “ทำ” จนพิมลักษณ์รู้สึกประหวั่นอย่างบอกไม่ถูก
เธอลอบมองเขาอย่างตรวจตรา หนุ่มที่บอกชื่อเข้าพักว่าชื่อแก้วคนนี้ น่าจะอายุอานามประมาณ 25 ปี รูปหน้าคมเข้มแบบชายไทยแท้ๆ ดูเป็นคนง่ายๆ กับกางเกงขายาวสีดำเรียบๆ เสื้อยืดคอกลมสีเดียวกัน ในมือถือกระเป๋าเดินทางใบย่อม นอกนั้นก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต นอกจากแววตานั้น ที่มองเท่าไหร่ก็ชวนเศร้า แม้เมื่อเจ้าตัวจะส่งยิ้มสดใสมาให้ แต่นัยน์ตาของเขาก็ปิดความโศกเศร้าไว้ไม่มิด
อาจจะหนีจากอาการอกหักมาพักที่นี่กระมัง พิมลักษณ์คิดในใจ ก่อนจะจัดแจงลงทะเบียนห้องพัก หยิบกุญแจห้องในมุมที่สวยที่สุดของแม่น้ำจันทบูรมา แล้วเดินนำแก้วไปเข้าห้องพัก
ตกเย็น เมื่อคชากลับมาจากไปซื้อข้าวของเครื่องใช้มาจากตัวจังหวัด ก็ได้ทราบจากภรรยาถึงลูกค้าผู้แปลกประหลาด แต่คชาก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรอย่างที่ภรรยาเล่า ก็แค่ลูกค้าคนนึงที่อยากจะมาอยู่นานหน่อย และอาจจะเป็นไปได้อย่างที่พิมลักษณ์ว่า เขาอาจจะหนีมาให้พ้นจากอาการอกหักเท่านั้นกระมัง คชาอดยิ้มไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้ากังวลของเมียสุดที่รัก
เขาโอบกอดเธอไว้เบาๆ เหมือนที่เคยทำทุกเช้าค่ำ
“อย่าคิดมากเลยพิม ลูกค้าก็มีสารพัดแบบนั่นแหละ” คชาปลอบ
“แต่พิมว่า ลูกค้าคนนี้แปลกมากจริงๆ นะพี่ แววตาเขามันแบบ...อืมม์ พิมก็พูดไม่ถูก พี่ต้องเห็นเองถึงจะเข้าใจ ว่าทำไมพิมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยปกติ”
“เอาเถอะๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า พี่เจอเขาแล้วจะลองจ้องตาเขาดู ดีไหม เอ หรือจ้องตาเขาแล้ว พี่เกิดหลงรักเขาก็จะยุ่งเอานา” คชายิ้มยั่ว พิมลักษณ์ลอบค้อนสามี ก่อนที่เขาจะก้มลงจูบเธอเบาๆ เหมือนทุกครั้ง แต่พิมลักษณ์บอกกับตัวเองได้เลยว่าจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมนับจากนี้
แก้วมาอาศัยที่ “คชารีสอร์ต” ได้ 3 วันแล้ว คชาเจอเขาในตอนที่ช่วยกันกับพิมลักษณ์บริการอาหารเช้าให้แขกที่เข้าพักทุกวัน จริงอยู่ว่า แก้วดูไม่เหมือนลูกค้าคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงอย่างที่ภรรยากังวล แถมแก้วยังอัธยาศัยดี เขาเข้ากับลูกค้าอื่นๆ ได้ง่ายดาย โดยเฉพาะกับลูกค้าสาวๆ ที่คชาแอบเห็นหลายคนส่งสายตาเชิญชวนให้เขา
ก็แน่ล่ะ แก้วเป็นหนุ่มหน้าตาดี พูดจาอ่อนหวาน คชาอดขำไม่ได้เหมือนกัน เพราะปกติแล้ว คนที่รูปหล่อ และสาวๆ ส่งสายตาให้มากที่สุดในรีสอร์ตก็มักจะเป็นคชานี่แหละ แต่ตอนนี้ อาจจะเป็นเพราะวัยที่อ่อนกว่า แถมเห็นชัดว่าไม่มีผู้หญิงไหนมาด้วย แก้วก็เลยกลายเป็นจุดหมายของสาวๆ แทนที่เขาไปเสียแล้ว แต่คชาจะสนใจไปทำไมเล่า ในเมื่อเขาก็ไม่เคยมองใคร ตั้งแต่เล็กจนโตมา ก็มีแต่พิมลักษณ์ ที่กุมหัวใจของเขาไว้แนบแน่น
แต่เมื่อแก้วมาอยู่ได้สัปดาห์เศษๆ นั้นแหละ ที่คชาเริ่มรู้สึกถึงความกังวลใจบ้าง ก็ไม่เพียงแต่ลูกค้า และพนักงานสาวๆ เท่านั้นที่ก้อร่อก้อติกกับแก้ว แต่พิมลักษณ์เอง ก็ดูเหมือนจะสนิมสนมกับ “แขกพิเศษ” คนนี่เป็นธรรมดา ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง พิมลักษณ์มักจะไปนั่งพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกับแก้วจนกลายเป็นเรื่องชินตา จนคชารู้สึกได้ว่า หัวใจเจ็บแปลบ
“แก้วเป็นคนคุยสนุกนะ ไม่ว่าเรื่องอะไรๆ แก้วก็รอบรู้ไปหมด ยิ่งฟังแก้วเล่าเรื่องเดินทางคนเดียว เที่ยวไปโน่นมานี่ พี่ล่ะทึ่งจริงๆ ที่แก้วได้เดินทางไปตั้งเยอะแยะขนาดนี้” เจ้าของรีสอร์ตสาวพูดอย่างปลาบปลื้มในช่วงเย็นที่ได้นั่งคุยกันริมแม่น้ำ
“ผมโชคดีน่ะครับ ที่ได้โอกาสเดินทางมากกว่าคนอื่นๆ อาจจะเป็นเพราะผมมีเวลาว่างมาก” แก้วตอบ เขาเน้นย้ำที่คำว่า “เวลา” จนพิมลักษณ์รู้สึกได้
“ไม่รู้จะละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่านะ แก้วก็ยังดูอายุไม่มาก ทำไมมีเวลาเยอะ แล้วไม่ต้องทำงานเหรอ หรือเป็นลูกเศรษฐี” พิมลักษณ์ยิ้มกระเซ้าเขา และอดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองชักทำตัวเหมือนเป็นสาวรุ่นๆ เมื่อได้คุยกับแก้ว
ชายหนุ่มยิ้มตอบ และมองลึกเข้าไปในดวงตาของคู่สนทนา ทำเอาพิมลักษณ์ถึงกับต้องหลบสายตาที่แม้จะเศร้า แต่แฝงแววอ่อนหวานนั้น
“ผมไม่ได้เป็นลูกเศรษฐีอะไรหรอกครับ แต่ผมเป็นคนโชคดีต่างหาก สักวันนึง ผมจะบอกพิม ว่าทำไมผมถึงได้เที่ยวไปเรื่อยๆ ไม่ต้องทำงาน แต่จะว่าไป ผมก็ทำงานในแบบของผมนะ และงานที่ผมทำ ก็อาจจะใกล้เสร็จแล้ว” ชายหนุ่มพูดเป็นปริศนา
“อือ นี่ตกลงจะไม่ยอมเรียกพี่จริงๆ เหรอ พี่อายุ 35 แล้วนะ แก่กว่าแก้วตั้งเยอะ แก้วอายุเท่าไหร่ พี่เดาว่าน่าจะ 25 ล่ะมั้ง อ่อนกว่าพี่ตั้ง 10 ปีได้ เรียกพี่ดีกว่านะ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่อยากเรียกพี่ ผมเรียกพิมก็ดีแล้ว ที่สำคัญ ผมไม่ได้อายุน้อยอย่างที่พิมคิดนะครับ ว่าแต่ ผมถามพิมบ้างดีกว่า พิมแต่งงานกับคุณคชามานานเท่าไหร่แล้ว”
หญิงสาวทอดสายตายาวออกไปที่แม่น้ำ แต่ไหนแต่ไรมา เธอไม่เคยกระอักกระอ่วน ที่จะบอกใครต่อใครว่า รู้จักคชามาตั้งแต่เด็ก และตัดสินใจแต่งงานกับเขาด้วยวัยไม่ถึงบรรลุนิติภาวะ แน่ล่ะ ที่ผ่านมา ชีวิตคู่ก็ดูมีความสุขมาตลอด แต่เมื่อได้เจอแก้ว พิมลักษณ์ก็ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมไม่มีความสุขเหมือนแต่ก่อน กลับรู้สึกได้ถึงความอ้างว้างและโหยหา
“ว่าไงฮะ เหมือนพิมจะไม่อยากตอบ” แก้วยังรุกเร้า
“ก็แต่งงานกันมา 15 ปีแล้ว” พิมลักษณ์ตอบห้วนๆ
“พิมคงรักคุณคชามาก”
“ก็...รัก รักอย่างที่รักมาตลอด เหมือนกับว่า พอจำความได้ ก็รู้จักพี่คชา พี่เค้าอยู่บ้านใกล้ๆ กัน ไม่ห่างจากรีสอร์ตนี่ไปเท่าไหร่หรอก เกิดมา พวกเราก็รู้จักแต่ริมน้ำจันทบูร รู้จักกันกับครอบครัวพี่คชา โตมาก็แต่งงาน ชีวิตมันก็ง่ายๆ แบบนี้ ไม่ค่อยเคยได้ไปไหนเหมือนแก้ว”
“ผมเดินทางเยอะฮะ ไปมาแล้วทั่วประเทศ แต่ที่ผมรักที่สุด ก็บรรยากาศริมน้ำนี่แหละ ทำให้ผมรู้สึกคุ้ยเคย นานมาแล้ว ผมเองก็เติบโตมาแถวๆ ริมแม่น้ำ”
“เหรอ บ้านของแก้วอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ผมมาจากสุพรรณบุรีครับ แม่น้ำสุพรรณบุรีเหมือนเป็นเรือนตายของผม”
“พูดอะไรเรื่องตาย แก้วยังหนุ่มอยู่แท้ๆ”
“สิ่งที่เรามองเห็น อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงนะครับพิม”
“แก้วพูดอะไรที่เข้าใจยากเสมอเลยนะ” พูดไม่ทันขาดคำ แก้วก็เอื้อมมือมาจับมือพิมลักษณ์ไว้ หญิงสาวตกใจ คิดจะดึงมือออก แต่ก็กลับปล่อยมือน้อยๆ นั้นให้อยู่ในอุ้งมือแข็งแรงของเขา
“ผมมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรอยากบอกพิมมากมายเหลือเกิน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ผม...”
ตอนนั้นเอง ที่คชาเดินเข้ามา พิมลักษณ์หันไปเห็นเข้า ก่อนจะรีบดึงมือออกจากแก้ว แต่นั่นไม่ได้ทำให้สีหน้าของคชาดีขึ้น เจ้าของรีสอ์ตผู้เป็นสามียืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้า
“พิม มีแขกใหม่จะเข้าพัก พี่ตามหาซะทั่ว กลับมานั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้นี่เอง” คชาพยายามระงับโทสะ และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุด แต่ถึงกระนั้น พิมลักษณ์ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นใต้น้ำในวาจาของสามี
ภรรยาสาวรีบลุกไปต้อนรับลูกค้าใหม่ ทิ้งให้คชาและแก้วเผชิญหน้ากันในสถานการณ์ที่ค่อนข้างตึงเครียด
“ผมว่า คุณมาอยู่นานไปหน่อยนะ คุณแก้ว” คชาเป็นฝ่ายเอ่ยทัก
“คำว่านานของแต่ละคนคงไม่เท่ากันหรอกนะครับ เวลาของผม กับเวลาของคุณ ความยาวนานคงไม่เท่ากัน” คำตอบของแก้วยิ่งทำให้คชาระงับความโกรธได้ยาก ไอ้หนุ่มคนนี้ชอบพูดอะไรเข้าใจยาก ดูเป็นปริศนา และนี่แหละ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้สาวๆ รวมถึงภรรยาของเขาหลงใหลได้ปลื้ม ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้มีอะไร นอกจากผู้ชายกลิ้งกลอกคนหนึ่ง
“จริงครับ ความยาวนานของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน อย่างผม ตั้งแต่แต่งงานกับพิม ก็เหมือนเวลาจะไม่ได้ไปไหน เราใช้เวลาอยู่กับความรักของเรา” นี่ไง แม้ไม่อยากจะพูด แต่คชาก็รู้สึกว่าต้อง “ปราม” เจ้าหนุ่มคนนี้เสียบ้าง ให้รู้ว่าใครเขามีเจ้าของแล้ว
“ความรักกับเวลา ก็แปลกพอๆ กันนะครับ”
“แปลกยังไงกันคุณ”
“ก็อย่างที่ผมบอก เวลาอันยาวนานของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ความรักของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนมีหัวใจให้รักแท้เพียงรักเดียว แต่บางคน...รักเดียวก็อาจจะไม่ใช่คำตอบ หัวใจดวงนึง ไม่ได้กำหนดว่าต้องรัก หรือถูกรักเพียงหนึ่งนะครับ”
คำตอบของแก้วทำให้คชาถึงกับตัวสั่นสะท้าน แน่ล่ะ ไอ้หนุ่มคนนี้มันเผยเรื่องในใจออกมาแล้ว มีอย่างที่ไหน มาพูดได้ยังไงว่ารักเดียวไม่ใช่คำตอบ นี่มันคงจะบอกว่า มันจะเดินหน้าจีบพิมลักษณ์ล่ะซิ เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของคชาก็เหมือนถูกบีบอย่างแรง แต่ไหนแต่ไรมา เขาเชื่อใจ มั่นใจในตัวภรรยามาโดยตลอด แต่หลายวันที่ผ่านมานี้ ทำให้เขาเริ่มไม่แน่ใจ
คชาเดินออกมาจากริมน้ำอย่างโกรธเกรี้ยว นี่หากไม่ผลุนผลันเดินออกมา เขาคงต่อยหน้าลูกค้าจอมปลิ้นปล้อนอย่างแก้วไปแล้ว นึกแล้วก็ให้เจ็บใจ เขารู้จากพนักงานในรีสอร์ตว่า แม้แต่ห้องหับ ที่หลับที่นอนของแก้ว พิมลักษณ์ก็อาสาเข้าไปดูแลเองให้ทุกวัน ต่างกับห้องอื่นๆ ที่พวกลูกจ้างจะจัดการให้ แล้วไหนจะแอบมานั่งคุยก้อร่อก้อติกกันบ่อยๆ อีก ที่สำคัญ เมื่อสักครู่นี้ เขาเห็นกับตาว่าแก้วกับพิมลักษณ์กำลังจับมือกันอยู่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ภรรยาที่แสนดีของเขาจะเป็นไปได้ขนาดนี้
ค่ำแล้ว พิมลักษณ์ยังไม่กลับมาที่ตึกใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของรีสอร์ต แม้ว่าก่อนหน้านี้ พิมลักษณ์เองจะเคยทำงานเอกสาร หรือดูแลลูกค้าจนดึกดื่นอยู่บ้าง แต่คราวนี้ คชารู้สึกได้ถึงความไม่เชื่อใจที่ก่อตัวมาอย่างรวดเร็ว
จากระเบียงของตึกใหญ่ มองออกไปเห็นเรือนริมน้ำที่แก้วเข้าพักอยู่เลือนลาง คชาเพ่งตามอง เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง หลังม่านที่มีแสงนวลตาจากไฟนีออนนั้น เขาคิดว่าเขาเห็นเงาสองเงาในห้องนั้น หนึ่งหญิง หนึ่งชาย ซึ่งไม่น่าจะเป็นใครไปได้ นอกจากไอ้หนุ่มหน้าใหม่ กับเมียรัก
เงาทั้งสองเหมือนกำลังพูดคุย ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าหากันช้าๆ และโอบกอด
เท่านั้นเอง คชารู้สึกว่าโลกทั้งโลกหยุดหมุน เมียหนอเมีย ที่รักกันมานาน จะสวมเขาให้ผัวในคราวนี้น่ะหรือ มือที่สั่นสะท้านเอื้อมไปเปิดตู้ หยิบปืนพกออกมาถือกระชับ
ในห้องของแก้ว
“ขอบคุณนะพิม ที่ลงมาหาตามที่ผมขอ”
“แก้วมีอะไรล่ะ ในห้องมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พี่จะได้แก้ไขให้”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ห้องนี้อยู่สบายดี แต่ผมมีอะไรมากมายที่อยากบอก”
“หือ ถ้ามีอะไรที่อยากบอก พรุ่งนี้เช้าเราค่อยคุยกันดีไหม” แม้พิมลักษณ์อยากจะอยู่พูดคุยกับแก้ว แต่เธอก็รู้ดีถึงความไม่เหมาะสม
“ผมรอมานานแล้ว และไม่อยากจะรออีกต่อไป” ชายหนุ่มพูด ก่อนจะก้าวเดินอย่างรวดเร็วเข้ามาสวมกอดเธอเอาไว้แนบแน่น
แม้จะตกใจ แต่พิมลักษณ์รู้สึกได้ถึงอ้อมแขนแข็งแรงที่อบอุ่น มันไม่ได้ให้ความรู้สึกมั่นคงเหมือนที่คชาเคยโอบกอดเธอ แต่มันเต็มไปด้วยความผูกพันที่ยากจะอธิบาย ถึงกระนั้น แม้จะเผลอใจไปชั่วครู่ แต่พิมลักษณ์ก็ผลักแก้วออกเบาๆ
“อย่าทำอย่างนี้แก้ว มัน...มันไม่ถูก” น้ำเสียงของเธอแหบพร่า
“ผมรู้ ผมแทบไม่เคยทำอะไรถูกสักอย่าง แต่ผมอดใจไม่ไหว ผมอยากกอดพิม เหมือนที่เคยได้...” พูดไม่ทันขาดคำ ประตูห้องก็ถูกกระแทกดังปัง ก่อนที่คชาจะส่องปืนมาที่แก้ว
ด้วยความตกใจ พิมลักษณ์รีบเอาตัวเข้าไปบังแก้วไว้ เธอไม่อยากให้ความเข้าใจผิดทำให้เป็นเรื่องใหญ่ หรือจะว่าไป คชาอาจจะไม่ได้เข้าใจผิด เธอเองนั่นแหละ ที่กำลังมีใจให้ชายอื่น
พิมลักษณ์น้ำตาร่วง เมื่อเห็นคชาร้องไห้ พี่คชา ผู้ชายที่แสนดี และรักเธอมาตลอด ต้องมาเสียน้ำตาเพราะการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของเธอกระนั้นหรือ
คชาเดินเข้ามาใกล้ เขาใช้มือซ้ายผลักพิมลักษณ์ออกไปอย่างแรง เธอเซไปอย่างไม่ได้ตั้งตัว และโดยที่ยังไม่ทันได้พูดจา คชายิงระวังเข้าใส่แก้วติดๆ กันถึง 3 นัด
“ปัง ปัง ปัง”
พิมลักษณ์กรีดร้อง
แก้วผงะถอยหลังไปเล็กน้อย
พิมลักษณ์รีบเข้าไปประคองเขา ก่อนจะต้องประหลาดใจอย่างมาก ที่ไม่เห็นเลือด ไม่ได้เห็นอะไรเลยที่เป็นสัญญาณว่าแก้วถูกยิง แม้แต่คชาเองก็ยังจ้องมองอย่างแปลกใจ เขายิงไอ้ชายชู้ไป 3 นัดติดๆ กัน แต่ทำไม เหมือนกับจะไม่เกิดอะไรขึ้น มีเพียงเสื้อยืดที่แก้วใส่เกิดเป็นรูฉีกขาดชัดเจน 3 รูเท่านั้น
“พวกคุณคงแปลกใจ” แก้วเอ่ยขึ้น พลางประคองพิมลักษณ์ที่กำลังตกใจไปนั่งที่ปลายเตียง
“ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณคชา คุณจะฆ่าผม แต่คุณทำไม่ได้หรอก” น้ำเสียงของแก้วกราดเกรี้ยว
“ทำไม แกมีอะไรดี ทำไมฉันจะฆ่าแกไม่ได้” คชาขึ้นเสียง
“อย่าโกรธผมเลยคุณคชา ถึงเวลาแล้ว ที่ผมจะบอกเรื่องที่อยากบอก” แก้วดูเหมือนจะตั้งสติได้ก่อนใครเพื่อน
“แกจะบอกอะไรฉัน จะบอกว่าแกลักลอบเป็นชู้กับเมียฉันงั่นน่ะเหรอ”
“ผมไม่เคยลักลอบเป็นชู้กับพิม แต่พิมเป็นของผมอยู่ก่อนแล้วต่างหาก คุณนั่นแหละ ที่มาแย่งพิมไปจากผม” คำตอบของแก้ว ทำให้ทั้งคชาและพิมลักษณ์นิ่งอึ้ง นี่ไอ้หนุ่มคนนี้มันเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร
แก้วเดินไปเอนตัวพิงกรอบหน้าต่าง เหมือนมีมนต์สะกดให้ทุกคนต้องฟังเขา
“นานมาแล้ว ผมตามหาพวกคุณ วนเวียนตามหาทั่วสุพรรณบุรี แต่ผ่านไปนานก็ไม่เจอ ผมคิดว่าพวกคุณคงไปที่อื่น ผมมีนิมิตเพียงแค่ว่าพวกคุณอยู่ใกล้ริมน้ำ แต่ยังไม่รู้ว่าที่ไหน ผมเลยออกเดินทางไปทั่ว แล้วก็โชคดี ผ่านมาได้เกือบ 500 ปี ผมถึงได้เจอพวกคุณที่นี่”
“ไอ้บ้า แกพล่ามอะไรของแกวะ” คชาตะโกน มือยังกำปืนไว้แน่น จ่อไปที่หน้าอกแก้ว
“ลดอาวุธของคุณลงเถอะคุณคชา คุณก็เห็นแล้วว่าปืนของคุณทำอะไรผมไม่ได้ ผมอาบว่านที่มีสรรพคุณพิเศษ ยิงฟันไม่เข้า ผมเป็นอมตะ ผมอยู่มาแล้วเกือบ 5 ศตวรรษ เพื่อตามหาพวกคุณ”
คชาลดปืนในมือลงอย่างอ่อนแรง นี่มันเรื่องประหลาดมหัศจรรย์อะไรกัน
แก้วเล่าเรื่องของเขาต่อ เรื่องที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้
ในรัชสมัยของสมเด็จพระพันวษา ช่วงต้นรัชกาล พ.ศ. 2038 ไอ้แก้วถือกำเนิดขึ้น เป็นเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกับพิมพิลาไลย และไอ้ช้าง
“เรื่องมันก็เป็นอย่างที่พวกคุณคงจะเคยอ่าน ใช่ล่ะ มันเป็นเรื่องของพวกเรา การยื้อแย่งความรัก รักสามเส้าของเราสามคน จนทำให้พิมต้องโทษประหาร” ถึงตอนนี้ แก้วก็น้ำตาร่วงลงมาอย่างห้ามไม้ได้
หลังวันทองถูกประหารชีวิต ขุนช้างยังคงรับราชการในสมเด็จพระพันวษา เจริญก้าวหน้าแต่พอประมาณ และทำบุญกุศลสม่ำเสมอ ด้วยอานิสงฆ์ของบุญ ส่งผลให้เขาได้มาเกิดใหม่ เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ลบปมด้อยในอดีตชาติ และขณะที่ความผูกพันของกรรมเก่า นำพาให้วันทองได้มาเกิดใหม่เป็นพิมลักษณ์ และแต่งงานอยู่กันกับคชามาจนวันนี้
“ตัวผมเอง หลังจากวันทองตาย ผมอาบว่านวิเศษ นอกจากจะคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า ผมยังเป็นอมตะ กลายเป็นหนุ่มฉกรรจ์ ผมใช้ชีวิตในแบบของผม พบผู้หญิงอีกมากมาย แต่ทุกคนก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ผ่านเข้ามา และผ่านไป ไม่มีใครที่ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงรักแรก รักที่ผมไม่เคยลืม รักที่มีกับพิมพิลาไลย
ที่สำคัญกว่านั้น พออยู่มาได้หลายร้อยปี ผมรู้สึกว่า ความโดดเดี่ยวมันกัดกินผม มันกัดกร่อนผมจากข้างใน ผมอยากตายไปตามวัฏสงสาร แต่ผมทำไม่ได้ เพราะผมรู้สึกผิด ผมถึงได้ตามหาพวกคุณ”
แก้วหันไปหาพิมลักษณ์ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงคุกเข้าเบื้องหน้าเธอ กุมมือถือเอาไว้
“พี่มาตามหาพิม พิมพิลาไลย รักแรกของพี่ เพราะพี่อยากขอให้เจ้าอโหสิกรรม เจ้าต้องมากลายเป็นหญิงสองชาย ได้ชื่อเล่าขานว่าเป็นนางวันทองสองใจ ต้องโทษประหารจากเหนือหัว ทั้งหมดก็เป็นเพราะพี่ พี่เองที่เป็นผู้ชายหลายใจ มักมากมีหลายเมีย ทำให้เจ้าลำบาก แม้เจ้าตายจากไปแล้ว พี่ก็ไม่อาจจะสงบใจลงได้ นอกจากต้องตามหา เพื่อขอวาจาอโหสิกรรมจากเจ้าเท่านั้น”
พิมลักษณ์น้ำตาร่วงพรู เธอจำได้แล้ว ความรัก ความหลัง ความแค้นเคืองทั้งหมดที่มีต่อกัน ภาพทุกภาพแจ่มชัดในความรู้สึก พี่แก้วหนอพี่แก้ว ทิ้งเมียให้ทุกข์ระทม มีแต่พี่ช้างที่คอยดูแลใส่ใจ ไม่มีอะไรให้ขาดตกบกพร่อง รักที่มีให้พี่ช้าง จึงเป็นรักในความผูกพัน รักในความใส่ใจที่ผู้ชายคนหนึ่งจะมีให้ได้ ต่างกับพี่แก้ว รักที่โลเลเหลวไหล ไม่เคยพอในความมักมากกับผู้หญิง แต่รักแรกนี้ก็ลืมไม่ลง
คชาทรุดตัวลงที่หน้าประตูห้อง อย่างนี้นี่เอง เขาหลงรักพิมลักษณ์ตั้งแต่เด็ก รู้ตัวเสมอมาว่าเกิดมาเพื่อจะรักผู้หญิงคนนี้อย่างเต็มหัวใจ และยินดีที่ได้ตบแต่งเธอมาเป็นภรรยาที่แสนดี แต่มาวันนี้ เขาได้รู้แล้วว่า รักของเธอนั้น ยังมีเงารักอีกเงาหนึ่งซ้อนอยู่ เป็นเงารักแห่งความหลังที่ไม่เคยเสื่อมคลาย เขาไม่อาจเป็นชายเดียวในดวงใจของเธอได้ ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติไหน
แก้วหันมาทางคชา
“ฉันเองก็อยากขออโหสิกรรมจากพี่ด้วย พี่ช้าง แต่ดูซิ พอได้มาเจอพิมพิลาไลย ฉันก็กลับเป็นฝ่ายทำเรื่องให้พี่โกรธฉันอีกจนได้”
แก้วหันกลับมามองพิมลักษณ์
“อโหสิกรรมให้พี่เถิดพิม ชาตินี้หรือชาติไหนๆ พี่ก็ไม่คู่ควรกับพิม พิมก็รู้ดี มีแต่พี่ช้างเท่านั้น ที่รักเดียวใจเดียว รักพิมเสมอต้นเสมอปลาย พี่มันก็แค่ผู้ชายกลับกลอก ทำให้พิมเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า”
“แล้วพี่รักฉันบ้างไหม” พิมลักษณ์เอ่ยถามแผ่วเบา แก้วลุกขึ้นมาตะกองกอดเธอไว้แนบอก
“รักที่พี่มีให้พิมก็ไม่เคยเสื่อมคลาย แต่พี่ไม่เคยทำได้อย่างพี่ช้าง ที่จะเพียงพอในรักเดียว พี่เที่ยวหว่านความรักไปเรื่อย แต่พี่ก็ได้รู้แล้วว่า มันไม่จีรัง ไม่มั่นคงเหมือนรักของพี่ช้างที่มีให้พิม”
“แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ก็มีหญิงอื่นเสมอใช่ไหม”
“พี่อยู่มาเกือบ 500 ปีแล้วนะพิม พี่ได้เจอผู้หญิงมากมาย แต่ทุกคนก็จากพี่ไป เหลือทิ้งไว้เพียงความเจ็บปวดที่ไม่รู้จบ พี่ถึงได้ตามหาพิม ตามหาเพื่อขอคำอโหสิกรรม พิมจะให้พี่ได้ไหม”
พิมลักษณ์หันไปมองคชา ชายที่เธอคิดว่าเธอรักมาตลอดทั้งชีวิต ชายผู้หล่อเหลากว่าใคร ตอนนี้แทบไม่เหลือสภาพ เขาดูอ่อนแอ อิดโรย หน้าตาเต็มไปด้วยริ้วรอยของความรู้สึก ไม่ใช่ชายคนเดิมที่เธอรู้จักในชีวิตนี้ แต่เหมือนชายจากอดีตภพคนนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไหน เขาก็คือผู้ชายที่มีรักแท้ รักเดียวให้เธออย่างไม่เสื่อมคลาย แต่ดูตอนนี้ซิ คชาเป็นเหมือนผู้ชายที่พ่ายแพ้แก่ทุกอย่าง และเธอจะยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้
“พี่แก้ว ถ้าฉันอโหสิกรรมให้พี่ แล้วพี่จะเป็นยังไงต่อไป”
“พี่ก็จะหมดสายใยที่ผูกโยงไว้ด้วยกรรม และไปตามทางที่ควรจะเป็น พี่จะคลายมนต์จากความเป็นอมตะ ที่ผูกรัดพี่มาเกือบ 500 ปีนี้ได้”
“เอาเถอะพี่ แม้พี่จะทำให้ฉันเจ็บช้ำมาตลอด แม้จนวันนี้ พี่ก็เข้ามาทำลายชีวิตที่เคยสวยงามของฉัน แต่ฉัน...ฉันก็..ฉันอโหสิกรรมให้พี่” น้ำเสียงของเธอขาดเป็นห้วงๆ ปนเสียงสะอื้น
คชาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ปืนในมือยังกระชับมั่น เขาเล็งไปที่แก้วอย่างเยือกเย็น และลั่นไก
“เปรี้ยง” เสียงนี้ฟาดฟันเข้าไปในหัวใจทั้งสามดวง
เลือดสดๆ สาดออกมาจากหลังและอกของแก้ว ตาเศร้าโศกของเขาเริ่มพร่าเลือน แต่แก้วยังมีรอยยิ้ม
พิมลักษณ์ผวาเข้าไปกอดเขาไว้ในอ้อมแขน
“พี่แก้ว ทำไม ทำไมเป็นอย่างนี้”
“ดีแล้วพิมพิลาไลย เมื่อเจ้าอโหสิกรรมให้พี่ บ่วงทุกบ่วงที่เคยผูกไว้ก็ขาดจากกัน พี่ดีใจที่มีวันนี้ ไม่เสียใจเลยที่เคยได้รัก เคยได้ทนุถนอม” แก้วกระซิบ ก่อนจะหันไปหาคชา
“พี่ช้าง ฉันฝากพิมพิลาไลยด้วย ฉันรู้ อันที่จริงไม่ต้องฝากฝัง พี่ก็รักแม่พิมด้วยหัวใจแท้ๆ ของพี่ ถึงตอนนี้ ฉันขอให้พี่อโหสิกรรมให้ฉันด้วย ฉันคงได้เวลาที่จะ...” พูดไม่ทันขาดคำ ร่างของแก้วสะอึก และเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ร่างกายของชายหนุ่มดูเหมือนจะโปร่งใส เขากำลังสลายไป สลายไปกับกาลเวลาที่ผ่านมาหลายศตวรรษ กำลังจะกลายเป็นเพียงอากาศ
คชาตกตะลึงมองร่างของแก้วที่ละลายไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาปวดร้าว เมื่อเห็นเมียรักร้องไห้อย่างหนัก พิมเอ๋ยพิม ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน เจ้าไม่เคยเป็นของพี่ทั้งหัวใจ
คชาหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง เสียงร้องไห้ของพิมลักษณ์ยังตามมาหลอกหลอนเขา แม้จะเดินจากไปไกลแล้ว เขาคำรามเบาๆ
“ไปเถอะไอ้แก้ว ตายไปจากชีวิตกูเถอะ กูจะรอไปเจอมึงในนรก ชาตินี้หรือชาติไหน กูไม่มีวันอโหสิกรรมให้มึง กูขอสาบาน จะตามล้างตามผลาญมึงทุกชาติไป”
ร่างที่กำลังสลายของแก้วพลันกระตุก ร่างที่ควรจะกลายเป็นความว่างเปล่า กลับมีเศษผงสีดำที่เหลือจากการสลายตัวหล่นลงบนตักพิมลักษณ์
“กูไม่มีวันอโหสิกรรม” เสียงของคชาลอยมาตามลม....
หมายเหตุ - เรื่องสั้นของผู้เขียนเรื่องนี้ เคยลงตีพิมพ์ในนิตยสาร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา