26 ต.ค. 2023 เวลา 12:28 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 29

เจ็ดดาวร่วมธรรม (2) ผีผมแดง ดาวสัพพัญญู
เมื่อเหลยเหิงลากลับไปอำเภอแล้ว เฉาไก้พาชายที่อุปโลกน์เป็นหลานมายังอาคารด้านหลัง หาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนใหม่แล้วถามชื่อแซ่
“ผู้น้อยแซ่หลิว 刘 ชื่อถัง 唐 เป็นชาวเมืองลู่โจวตะวันออก 东潞州 ที่ข้างขมับมีปานแดง คนจึงเรียกว่า ผีผมแดง 赤发鬼 ตั้งใจนำสมบัติมามอบให้ท่านเป่าเจิ้ง เมื่อเย็นวานเมาหลับเสียที่ศาลเจ้า ถูกจับมัดมานี่เสียก่อน ดังที่ว่า
有缘千里来相会,无缘对面不相逢
หากวาสนามี ห่างพันลี้ยังพานพบ
วาสนามิบรรจบ อยู่ตรงหน้ามิพบพาน
พี่ท่านเชิญนั่ง ให้หลิวถังได้คารวะพี่ท่านสี่กราบ”
กราบเสร็จ เฉาไก้ก็ถามว่า “เจ้าว่ามีสมบัติมามอบ อยู่ที่ไหนหรือ”
หลิวถังว่า “ข้าท่องวงนักเลงมาแต่เล็ก ได้ยินชื่อเสียงพี่ท่านอยู่ไม่น้อย ผู้น้องฟังมาว่าเหลียงจ้งซูเจ้าเมืองต้าหมิงแห่งเป่ยจิงเที่ยวหาซื้อทรัพย์สิ่งของมีค่ามีมูลค่าหนึ่งแสนก้วน จะส่งไปเป็นของขวัญวันเกิดให้พ่อตาคือท่านไท่ซือไฉ้ที่ตงจิง ปีที่แล้วก็เคยส่งไปชุดหนึ่งแล้วมูลค่าหนึ่งแสนก้วนเช่นกัน แต่ไปได้ไม่ถึงครึ่งทางก็ถูกดักปล้นจนบัดนี้ยังจับใครไม่ได้
ของขวัญวันเกิดปีนี้ก็ต้องไปให้ทันวันเกิดวันที่สิบห้าเดือนหก ผู้น้องเห็นว่าของเหล่านี้ล้วนได้มาโดยไม่สุจริต แม้ชิงเอามาเสียก็ไม่ผิดต่อฟ้า พี่ท่านเป็นชายชาตรีฝีมือเข้มแข็ง ตัวข้าเองก็พอมีฝีมือ หากมีทวนในมือต่อให้ทหารนับพันคนก็ไม่กลัว จึงเอาสมบัติชิ้นนี้มาเสนอพี่ท่าน พี่ท่านคิดเห็นเช่นไร”
เฉาไก้ว่า “เรื่องนี้คงต้องไตร่ตรองให้ดี เจ้าเองก็เพิ่งฟาดเคราะห์มา ไปพักผ่อนเสียก่อนเถิด แล้วค่อยหารือกันอีกที” แล้วก็ให้คนพาหลิวถังไปพักผ่อนยังห้องรับแขก
หลิวถังเมื่ออยู่ลำพังในห้องพักนึกเคืองเหลยเหิงที่จับตนมัดแขวนไว้ จนเฉาไก้ต้องมาช่วย แล้วยังมาหลอกเอาเงินเฉาไก้ไปอีกสิบตำลึง จึงคิดเอาว่าหากตามไปทวงเอาเงินมาคืนเฉาไก้คงจะดี อีกทั้งจะได้ระบายแค้น จึงออกจากห้องคว้าเอาดาบพอเตาจากราวอาวุธแล้วออกจากบ้านกวดตามไปทางทิศใต้ ฟ้าขณะนั้นเริ่มสว่าง
北斗初横,东方欲白。
天涯曙色才分,海角残星渐落。
金鸡三唱,唤佳人傅粉施朱;
宝马频嘶,催行客争名竞利。
几缕丹霞横碧汉,一轮红日上扶桑。
ดาวจระเข้เอนขวาง
ข้างบูรพาฟ้าเริ่มขาว
อรุโณทัยสุกสกาว
หมู่ดาวทยอยลานภา
ไก่ทองขันสามหน
เตือนคนงามลุกแต่งหน้า
เสียงร้องของอาชา
เร่งเตือนหาชื่อหาสิน
คาดฟ้าครามหลากแถบแดงแสงฟ้าสาง
จากฝูซางล้อตะวันแดงโผผิน
(ฝูซาง 扶桑 บนเกาะสุดขอบฟ้าตะวันออกของโลก มีต้นหม่อนอิงกันอยู่เรียกฝูซาง ซีเหอ 羲和 เทพีตะวัน และ นกทองสามขา 三足金乌 ทั้งสิบบุตรของนางเกาะอาศัยอยู่ พอรุ่งอรุณ ก็จะสลับกันบินขึ้นฟ้าคนละวัน เพื่อให้แสงสว่างแก่โลก ครั้งหนึ่งแย่งกันขึ้นพร้อมกันเป็นอาทิตย์สิบดวง ถูกโห้วอี้ 后羿 ยิงทิ้งไปเก้าดวง เหลือไว้เพียงหนึ่ง)
รุดมาตามทางได้ห้าหกลี้ก็เห็นหลังเหลยเหิงนำทหารเดินทางอยู่ด้านหน้า หลิวถังตะโกนว่า “ไอ้นายกอง อย่าเพิ่งไป”
เหลยเหิงหันกลับมาเห็นหลิวถังถืออาวุธกวดหลังมา จึงรีบฉวยดาบพอเตาจากทหารมาไว้เล่มหนึ่ง ตะโกนถามกลับไปว่า
“เจ้าจะรีบตามมาทำไม”
“หากรู้ตัว ก็เอาเงินสิบตำลึงคืนมา ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
“น้าเจ้าเป็นคนให้ข้ามาเอง เกี่ยวอะไรกับเจ้า ถ้าไม่ใช่เห็นแก่หน้าน้าเจ้า เจ้าคงตายไปแล้ว ยังมีหน้ามาทวงเงินอีก”
“ข้าไม่ใช่โจร เจ้ากลับมัดข้าแขวนไว้ทั้งคืน แล้วยังหลอกเอาเงินน้าข้ามาสิบตำลึง หากรู้จักเอามาคืน พระพุทธองค์คงทรงเมตตา หากไม่คืน ต้องให้เจ้าร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด”
เหลยเหิงโกรธจัด “ไอ้โจรสามานย์ลวงโลก บังอาจเสียมารยาท”
“ไอ้พวกโสโครกหากินรีดไถชาวบ้าน กล้ามาด่าข้า”
“ไอ้หน้าโจรตาโจรกะโหลกโจร มีแต่หาเรื่องเดือดร้อนให้เฉาไก้ ไอ้พุงโจรไส้โจร ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
หลิวถังโกรธจัด “มาสู้กันให้รู้แพ้ชนะ”
ทั้งสองประดาบกันกลางถนน
一来一往,似凤翻身;
一撞一冲,如鹰展翅。
一个照搠,尽依良法;
一个遮拦,自有悟头。
这个丁字脚,抢将入来;
那个四换头,奔将进去。
两句道:虽然不上凌烟阁,只此堪描入画图。
หนึ่งรุกอีกหนึ่งรับ
ดังหงสากลับหลังหัน
หนึ่งชนอีกหนึ่งดัน
ดังอินทรีเปิดปีกอ้า
ฝ่ายหนึ่งจู่โจมแทง
สำแดงยุทธตามตำรา
ฝ่ายหนึ่งป้องกายา
เคล็ดวิชาเฉพาะตน
ทางนี้ย่างสามขุม
ทุ่มกำลังบุกหวังผล
ทางนั้นหักมุมชน
พุ่งพรวดพราดปราดเข้ามา
สรุปสองคำ
แม้มิอาจจารึกหอหลิงเอียน
ยังนับเป็นภาพเขียนยากหาชม
(หอหลิงเอียน 凌烟阁 หอเกียรติคุณสมัยถัง พระเจ้าถังไท่จงให้จารึกภาพวาดยี่สิบสี่ขุนนางผู้มีผลงานร่วมก่อสร้างราชวงศ์)
ผลัดกันรุกรับถึงห้าสิบกว่าเพลงไม่รู้แพ้ชนะ พวกทหารเห็นเหลยเหิงเอาชนะหลิวถังไม่ได้ จึงล้อมวงเข้ามาจะรุมช่วย ก็เห็นประตูรั้วบ้านข้างทางเปิดออก มีคนถือโซ่ทองเหลืองสองเส้นก้าวออกมาตะโกนว่า
“ผู้กล้าทั้งสอง อย่าสู้กันเลย ข้าดูมานานแล้ว ฟังข้าพูดหน่อยเถิด”
แล้วก็เข้ามาเอาโซ่ฟาดสะกัดขวางกลางไว้ ทั้งสองจึงเก็บดาบกระโดดออกจากวงมายืนพักอยู่
ผู้ที่เข้ามาขวางแต่งตัวคล้ายนักศึกษา หน้าขาว คิ้วตาคม ไว้เครายาว เป็นคนพื้นที่มีนามดาวสัพพัญญูอู๋ย่ง 智多星吴用 มีฉายาธรรม 道号 ว่า อาจารย์เจียเลี่ยง 加亮先生
万卷经书曾读过,平生机巧心灵,六韬三略究来精。
胸中藏战将,腹内隐雄兵。
谋略敢欺诸葛亮,陈平岂敌才能。略施小计鬼神惊。
字称吴学究,人号智多星。
คัมภีร์สารอ่านมานับหมื่นม้วน
กระบวนอุบายปราดเปรื่องเอาเรื่องอยู่
พิชัยสงครามลิ่วเทาซานเลวี่ยรู้
ทั้งเป็นนักสู้อยู่ในจิตวิญญา
กลศึกอาจข่มจูเก่อเลี่ยง
เฉินผิงยังเพลี่ยงพล้ำปัญญาหนา
แผนเพียงนิดพิชิตภูตผีเทวา
อู๋เสวียจิวฉายาดาวสัพพัญญู
(เฉินผิง 陈平 เสนาธิการของหลิวปังยุคบุกเบิกราชวงศ์ฮั่น ภายหลังรับตำแหน่งเสนาบดี)
อู๋ย่งชี้มายังหลิวถังถามว่า “ท่านผู้กล้าช้าก่อน ท่านมีเรื่องอันใดจึงต้องมาสู้กับท่านนายกอง”
หลิวถังว่า “ไม่ใช่เรื่องของสิ้วไฉ 秀才 เช่นท่าน”
เหลยเหิงจึงว่า “ท่านอาจารย์ยังไม่ทราบ ไอ้หมอนี่เมื่อคืนเมาหลับอยู่ที่ศาลหลิงกวน ข้าจับตัวไว้พาไปยังบ้านเฉาเป่าเจิ้ง กลายเป็นว่าหมอนี่เป็นหลานของเป่าเจิ้ง ข้าเห็นแก่หน้าน้ามันจึงปล่อยตัวไป โลกบาลเฉาเชิญข้าดื่มแล้วให้ของกำนัลเล็กน้อย หมอนี่กลับตามมาทวงคืนไม่ให้น้ามันรู้ ท่านว่ามันบังอาจไหม”
อู๋ย่งตรองดูว่า “เฉาไก้กับข้าคบหากันมาแต่เด็ก มีเรื่องอะไรก็มาปรึกษาข้า ญาติข้างไหนข้าก็รู้จักหมด ไม่เคยรู้ว่ามีหลานคนนี้ อายุอานามก็ไม่น่าใช่ มีอะไรชอบกลอยู่ ข้าหย่าศึกเสียก่อน ค่อยไปถามไถ่ให้รู้ความ”
อู๋ย่งจึงว่า “ผู้กล้าท่านนี้อย่าเพิ่งหลงผิดไป น้าของท่านกับข้าสนิทกัน กับนายกองท่านนี้ก็คบหากันดีอยู่ เมื่อน้าท่านมอบของกำนัลให้ท่านนายกอง แต่ท่านกลับมาทวงคืนก็เท่ากับทำให้น้าท่านเสียหน้า เดี๋ยวข้าจะคุยกับน้าท่านเอง”
หลิวถังว่า “สิ้วไฉ ท่านไม่รู้เรื่องอะไร ไม่ใช่น้าข้าเต็มใจให้ หมอนี่มันหลอกเอาเงินน้าข้าไป ถ้าไม่เอามาคืน ข้าก็ไม่กลับ”
เหลยเหิงว่า “ถ้าเฉาเป่าเจิ้งมาเอง ข้าก็คืนให้ แต่ไม่คืนให้เจ้า”
หลิวถังว่า “เจ้ากล่าวหาข้าเป็นโจรเพื่อหลอกเอาเงินไป ทำไมไม่คืน”
“ไม่ใช่เงินของเจ้า ไม่คืน ไม่คืน”
“ไม่คืน ก็ถามดาบในมือข้า”
อู๋ย่งแย้งว่า “พวกท่านสู้กันมาครึ่งค่อนวัน ไม่รู้แพ้ชนะ จะสู้ไปถึงเมื่อไร”
หลิวถังว่า “มันไม่คืนเงินมา ก็สู้จนตายไปข้างหนึ่ง”
เหลยเหิงโกรธจัด “ถ้าข้ากลัวเจ้า ให้ใครเข้ารุมแม้แต่คนเดียวก็ไม่นับเป็นลูกผู้ชาย ข้าจะคว่ำเจ้าลงเอง”
หลิวถังตบอกผาง “ไม่กลัวเว้ย” แล้วปราดเข้าใส่ เหลยเหิงก็วาดดาบปรี่เข้าหา พลันทหารก็ชี้บอกว่า
“เป่าเจิ้งมาแล้ว”
เฉาไก้วิ่งมาตามทาง ปากตะโกนว่า “เด็กเวร เสียมารยาท”
พอมาถึง เหลยเหิงก็ฟ้องว่า “หลานท่านถือดาบมาทวงเงินคืน ผู้น้อยก็บอกว่า ไม่คืน จะคืนให้แต่กับท่านเป่าเจิ้ง ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เขาก็เลยสู้กับผู้น้อยห้าสิบกว่าเพลง ก็พอดีท่านอาจารย์มาห้ามไว้”
เฉาไก้ว่า “เจ้าเด็กเวรนี่ ข้าไม่รู้เรื่อง นายกองท่านเห็นแก่หน้าข้า เชิญกลับก่อนเถิด ไว้วันหน้าข้าจะไปชดเชยให้”
เหลยเหิงว่า “ข้าก็ว่าหมอนี่เหลวไหล ทำให้ท่านเป่าเจิ้งต้องลำบากออกมาตามเสียไกล” แล้วเหลยเหิงก็ลากลับไป
 
อู๋ย่งกล่าวกับเฉาไก้ว่า “ถ้าเป่าเจิ้งไม่มาเอง คงเป็นเรื่องใหญ่ หลานท่านคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา ข้าดูอยู่เห็นว่าถ้าสู้กันต่อไปนายกองเหลยอาจพลาดท่า จึงออกมาห้าม หลานท่านคนนี้เป็นใครกัน ทำไมข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”
เฉาไก้ว่า “ข้าว่าจะตามอาจารย์ท่านไปหารือสักหน่อย กำลังจะให้คนมาตาม ก็เห็นเขาหายตัวไป ดาบบนแคร่ก็หายไปเล่มหนึ่ง เด็กเลี้ยงวัวบอกว่าเห็นถือดาบวิ่งมาทางใต้ ข้าจึงรีบตามมา ดีที่ท่านหย่าศึกไว้ก่อน เชิญท่านไปที่บ้านก่อน ข้ามีเรื่องจะหารือ”
อู๋ย่งจึงกลับไปยังห้องเรียน เอาโซ่ทองเหลืองเก็บเข้าที่ แล้วบอกเจ้าของโรงเรียนว่า
“ถ้านักเรียนมา ก็บอกว่าวันนี้ครูมีธุระ ให้หยุดเรียนหนึ่งวัน”
文才不下武才高,铜链犹能劝朴刀。
只爱雄谈偕义士,岂甘枯坐伴儿曹。
放他众鸟笼中出,许尔群蛙野外跳。
自是先生多好动,学生欢喜主人焦。
1
ชาญอักษรมิด้อยกว่าชาญเชิงยุทธ
โซ่ทองเหลืองผุดกลางขวางดาบสอง
รักถกผู้กล้าหาญการประลอง
ไม่ขอเพียงเมียงมองเฝ้าเด็กเล่น
ปล่อยฝูงนกวิหคเหินจากกรง
ปล่อยฝูงกบลงกระโดดโลดเต้น
ตัวเป็นครูขยับขยายไม่ยากเย็น
นักเรียนเล่นชอบใจครูใหญ่ครวญ
ดาวสัพพัญญูอู๋ย่ง 智多星吴用 กลุ่มเทพฟ้า เทียนกัง ลำดับที่ 3 เป็นเสนาธิการใหญ่ของเหลียงซาน
อู๋ย่งเป็นชาวบ้านตงซีชุน อำเภอวิ่นเฉิง พอรู้เพลงอาวุธอยู่บ้างแต่ที่สำคัญคือเป็นคนเจ้าแผนการ ซือไน่อันยกย่องว่าเทียบได้กับขงเบ้ง แต่ก็แดกดันอยู่ในที ตั้งแต่การตั้งชื่อแล้ว อู๋ย่งนั้น 用 ย่ง แปลว่า ประโยชน์ แต่แซ่อู๋นั้นไปพ้องเสียงกับคำว่า 无 ที่แปลว่า ไร้ หรือ ไม่มี ชื่ออู๋ย่ง 吴用 จึงพ้องเสียงกับคำแปลว่า 无用 ไร้ประโยชน์
ผีผมแดงหลิวถัง 赤发鬼刘唐 กลุ่มเทพฟ้า เทียนกัง ลำดับที่ 21 เป็นหนึ่งในสิบนายทัพราบ ลำดับที่สามและเป็นนายด่านตะวันออก
ฉายาผีผมแดงของหลิวถังนี้ มาจากปานแดงขนาดใหญ่ข้างขมับ และมีขนสีดำเหลืองขึ้นบนปานนั้นด้วย จึงเป็นที่มาของคำว่า ผมแดง คือมีเส้นขนบนปานสีแดง ส่วนเส้นผมบนหัวนั้นสีดำ ต่างกับที่ในหนังหรือละครมักแปลงให้มีผมแดงดังชาวไอริช
ตอนก่อนหน้า : โลกบาลเทิดเจดีย์
ตอนถัดไป : สามหย่วนพี่น้อง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา