30 ต.ค. 2023 เวลา 10:52 • ประวัติศาสตร์

อิทธิพลของ "นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)" ที่ส่งผลต่อยุโรป

ในช่วงพีคของ “การปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolution)” เป็นช่วงเวลาที่การเมืองและความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในฝรั่งเศสกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต บ้านเมืองเป็นจลาจล เกิดการปล้น ขโมย ลักพาตัว การฆ่าฟัน อาชญากรรมต่างๆ มากมาย
7
กลุ่มการเมืองหลายๆ กลุ่มพยายามจะก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ในช่วงเวลาจลาจล และท่ามกลางความวุ่นวาย ผู้นำคนหนึ่งซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการจะรวมยุโรปทั้งทวีปให้เป็นปึกแผ่นก็ได้ก้าวขึ้นมา
ชายผู้นั้นคือ “นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)"
ด้วยความทะเยอทะยานและมุ่งมั่น บวกกับชัยชนะในหลายศึก ทำให้นโปเลียนก้าวสู่บัลลังก์แห่งฝรั่งเศส ขึ้นเป็น “จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 (Napoleon I)”
1
นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)
จากนั้น กองทัพของนโปเลียนก็ได้พิชิตอาณาจักรใกล้เคียงได้อีกหลายแห่ง ทั้งดินแดนอิตาลีในปัจจุบัน ออสเตรีย โปแลนด์ รัฐเยอรมัน ฮอลแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สเปน เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ซึ่งดินแดนเหล่านี้ล้วนตกอยู่ใต้อำนาจของนโปเลียน โดยตลอดชีวิตของเขา เขาทำศึกมามากกว่า 70 ศึก แต่พ่ายแพ้เพียงแค่แปดครั้งเท่านั้น
3
แต่แล้วความรุ่งเรืองของกองทัพนโปเลียนก็ต้องมาสะดุดลงด้วยความพ่ายแพ้ใน “ยุทธการที่วอเตอร์ลู (Battle of Waterloo)” ก่อนที่นโปเลียนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
1
ถึงแม้ว่านโปเลียนจะเสียชีวิตไปก่อนที่จะทำความฝันในการรวบรวมยุโรปทั้งทวีปให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ แต่วิสัยทัศน์ต่างๆ ของเขา รวมทั้งการปฏิรูปหลายๆ ด้านซึ่งเกิดขึ้นในสมัยนโปเลียนก็ได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรปหลังจากที่นโปเลียนเสียชีวิต
1
ยุทธการที่วอเตอร์ลู (Battle of Waterloo)
เริ่มจากแนวคิดเรื่อง “ประชาธิปไตย”
1
หลังจากที่นโปเลียนขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ มีอำนาจสูงสุดและไม่จำกัด แต่นโปเลียนก็ได้กำหนดว่าส่วนราชการทุกหน่วยนั้นจะต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน ยกเว้นตนซึ่งเป็นจักรพรรดิ
1
แนวคิดนี้ได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรคาทอลิกและสถาบันทางศาสนาอื่นๆ แต่นโปเลียนก็เดินหน้าสนับสนุนแนวคิดเรื่องเสรีภาพ ความเท่าเทียม และภราดรภาพ
1
แนวคิดเหล่านี้เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส และภายหลังก็เป็นแก่นของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส และเมื่อดินแดนอื่นๆ เช่น อิตาลี เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ถูกนโปเลียนพิชิตในภายหลัง แนวคิดเหล่านี้ก็ได้ถูกนำเข้าไปในดินแดนเหล่านั้นด้วย
1
แต่ข้อเสียที่เกิดขึ้นในตอนนั้นก็คือระบบประชาธิปไตยนี้ทำให้อัตราการโกงกินในรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นในเวลาต่อมา หากแต่ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยนี้ก็ได้รับความนิยมและแพร่หลายไปยังดินแดนหลายแห่งทั่วยุโรป
1
เรื่องต่อมาก็คือ “ประมวลกฎหมายนโปเลียน (Napoleonic Code)”
1
ประมวลกฎหมายนโปเลียนเป็นประมวลกฎหมายที่ได้ชื่อว่าพลิกสังคมในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากเป็นกฎหมายที่ทำให้เหล่าชนชั้นสูงเสียผลประโยชน์และอภิสิทธิของตน และเปิดเสรีให้ทุกคนสามารถถือครองที่ดิน การนับถือศาสนาอย่างเสรี และส่งเสริมความเท่าเทียม
1
และเมื่อกองทัพฝรั่งเศสบุกยึดดินแดนใด กฎหมายนี้ก็จะเข้าไปยังดินแดนเหล่านั้นด้วย โดยเรื่องเด่นๆ ของประมวลกฎหมายนโปเลียนก็เช่น การให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา การยกเลิกอภิสิทธิของชนชั้นสูง การกำหนดให้กฎหมายนี้บังคับใช้กับทุกคน เป็นต้น ซึ่งกฎหมายนโปเลียนนี้ก็ยังมีอิทธิพลต่อกฎหมายยุคปัจจุบันในหลายดินแดน
2
หลังจากเรื่องของกฎหมาย ก็คือเรื่องของ “ชาตินิยม”
1
การปกครองของนโปเลียนทำให้แนวคิดชาตินิยมในยุโรปเฟื่องฟู ความเกรียงไกรของกองทัพนโปเลียนทำให้อาณาจักรเล็กๆ ต้องสิ้นสุดลง และทำให้หลายๆ ดินแดนรวมกันเป็นหนึ่ง
และถึงแม้จะได้รับการต่อต้าน แต่ก็ทำให้ประชาชนในหลายๆ แห่งมีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียว ผู้คนก็ต้องยอมรับความแตกต่างทางประเพณีและวัฒนธรรม ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ช่วยในการกำหนดหลักเกณฑ์สำคัญของสิ่งที่เรียกว่า “สหภาพยุโรป (European Union)” ในปัจจุบัน
1
กองทัพฝรั่งเศสเองก็เป็นตัวอย่างให้ประชาชนเห็นถึงการทุ่มเทชีวิตเพื่อชาติและการเสียสละเป็นสำคัญ ซึ่งแนวคิดชาตินิยมนี้เองภายหลังก็ทำให้ประชาชนในดินแดนที่ถูกรุกรานกล้าลุกขึ้นต่อต้านนโปเลียน
1
อาจจะสรุปได้ว่าหลังจากนโปเลียนสิ้นอำนาจไปกว่า 200 ปี แต่ความยิ่งใหญ่ในอดีตของนโปเลียนก็ยังส่งผลและเป็นที่ถกเถียงจนถึงปัจจุบัน
หลายคนจดจำนโปเลียนในฐานะทรราชผู้สังหารผู้คนนับล้าน แต่อีกหลายคนก็มองเขาเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้ที่นำพาความรุ่งเรืองมาสู่ดินแดน
ก็คงต้องขึ้นกับมุมมองของผู้อ่านแต่ละคนว่าจะมองเขาอย่างไร
โฆษณา