จี้ไม่อยากแก่ แค่ไม่มีเซลลูไลท์ก็ไม่แก่แล้ว..มั้ง
สาเหตุที่ทำให้แก่ก่อนวัยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
สาเหตุทางธรรมชาติ เกิดจากปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม เป็นต้น
สาเหตุจากปัจจัยภายนอก เกิดจากพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อมที่เราสามารถควบคุมได้ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสแสงแดด การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
สาเหตุทางธรรมชาติ
- อายุที่เพิ่มขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ร่างกายของมนุษย์จะเสื่อมสภาพลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวแห้ง กล้ามเนื้อฝ่อ และความจำเสื่อม เป็นต้น
- พันธุกรรม พันธุกรรมมีส่วนกำหนดโครงสร้างและการทำงานของร่างกาย ผู้ที่สืบทอดยีนที่เกี่ยวกับความแก่ชราจากพ่อแม่ก็จะมีโอกาสแก่ก่อนวัยได้
สาเหตุจากปัจจัยภายนอก
- สูบบุหรี่ สารนิโคตินและสารก่อมะเร็ง ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวเหี่ยว หมองคล้ำ
- ดื่มแอลกอฮอล์ ทำลายเซลล์และทำให้ผิวแห้งกร้าน
- แสงแดด รังสียูวี ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวย่น และเกิดฝ้า กระ
- อาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และแป้ง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นปัจจัยที่เร่งให้ร่างกายแก่ก่อนวัย
- ความเครียด ทำลายเซลล์และทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพลง
- นอนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ร่างกายเสื่อมสภาพลง
วิธีชะลอความแก่ก่อนวัย
นอกจากการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดแก่ก่อนวัยแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยชะลอความแก่ก่อนวัยได้ เช่น
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และเกลือแร่ ซึ่งจะช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน ส่งผลให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยซ่อมแซมเซลล์และฟื้นฟูร่างกาย
- ควบคุมความเครียด การลดความเครียดจะช่วยปกป้องร่างกายจากการถูกทำลาย
หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสแสงแดดมากเกินไป เป็นต้น
แก่เพราะผิวเหี่ยว เซลลูไลท์เกาะ ยกกระชับปรับให้แน่นปั๋งด้วย SculpSure สลายไขมันในบริเวณที่ไม่ต้องการ
TheVenisiaClinic
สาเหตุไขมันสะสมบริเวณชั้นคอ
- ความอ้วน เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ไขมันจะสะสมอยู่ทั่วร่างกาย รวมถึงบริเวณชั้นคอด้วย ยิ่งมีน้ำหนักตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งมีไขมันสะสมมากขึ้นเท่านั้น
- พันธุกรรม บางคนมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันบริเวณชั้นคอมากกว่าคนทั่วไป
- อายุ ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ส่งผลให้มีการสะสมไขมันมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชั้นคอและลำตัว
- โรคประจำตัว โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคคอพอก โรคกระดูกพรุน อาจทำให้มีการสะสมไขมันบริเวณชั้นคอมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการสะสมไขมันบริเวณชั้นคอ เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย
วิธีลดไขมันสะสมบริเวณชั้นคอ
- ลดน้ำหนัก โดยการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวหรือไขมันทรานส์สูง
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ช่วยเผาผลาญไขมัน
หากมีไขมันสะสมบริเวณชั้นคอมากจนส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพหรือสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
สำหรับหนอกคอ (Buffalo Hump) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เกิดจากการสะสมของไขมันและกระดูกสันหลังบริเวณด้านหลังคอ สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความอ้วน พันธุกรรม โรคประจำตัว เป็นต้น
วิธีรักษาหนอกคอ
- ลดน้ำหนัก หากหนอกคอเกิดจากการสะสมของไขมัน การรักษาที่ดีที่สุดคือการลดน้ำหนัก โดยอาจใช้วิธีควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
- การผ่าตัด หากหนอกคอมีขนาดใหญ่หรือไม่สามารถลดน้ำหนักได้ แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดดูดไขมันหรือผ่าตัดกระดูกสันหลัง
ทั้งนี้ การรักษาหนอกคอควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
