7 พ.ย. 2023 เวลา 10:00 • ธุรกิจ

ทำไม ‘อิสราเอล’ เป็น ‘ผู้ส่งออกเพชร’ อันดับ 6 โลก ทั้งที่แทบไม่มีแหล่งอัญมณีในประเทศ

ในบรรดาผู้ส่งออกเพชรมากที่สุด 6 อันดับแรกของโลก พบว่า “อินเดีย” ครองอันดับ 1 ตามมาด้วยสหรัฐ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง เบลเยียม และอิสราเอล ตามลำดับ
สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือ “อิสราเอล” ประเทศขนาดเล็กมาก มีทรัพยากรจำกัด และต้องนำเข้าเพชรจากต่างประเทศ (ทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ) แต่ทำไมขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกเพชรอันดับ 6 ของโลกได้ ด้วยมูลค่ากว่า 10,900 ล้านดอลลาร์
คำตอบ คือ ความล้ำหน้าทาง “เทคโนโลยีเจียระไนเพชร” ของอิสราเอล ซึ่งเพชรที่อิสราเอลส่งออกไปต่างประเทศนั้น ไม่ใช่เพชรดิบ แต่เป็น “เพชรเจียระไน” โดยเป็นการนำเข้าเพชรดิบจากต่างประเทศ และนำมาเจียระไนด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงในประเทศ จนทำให้ “เพชรอิสราเอล” ส่องเป็นประกาย มีหลากหลายรูปทรงอันประณีตและเงางาม แม้แต่สินค้าที่ไทยนำเข้าจากอิสราเอลมากที่สุดอันดับ 1 ก็หนีไม่พ้นเพชรและอัญมณี
📌​จากชนชาติเร่ร่อน สู่ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชร
สิ่งที่ทำให้ชาวอิสราเอลเชี่ยวชาญด้านเพชร จนกลายเป็น “พ่อค้าเพชรของโลก” ย้อนไปในสมัยยุคกลาง ชาวยิวซึ่งเป็นเชื้อสายของชาวอิสราเอล อาศัยกระจัดกระจายในแถบยุโรปและตะวันออกกลาง ไม่มีประเทศเป็นของตัวเอง
พวกเขายังถูกจำกัดสิทธิ ไม่ให้ถือครองที่ดิน ไม่ให้ทำการเกษตรและไม่ให้รับราชการ อาชีพที่พวกเขาทำได้คือ ค้าขายและการเงิน อีกทั้งในช่วง 139 ปีก่อนคริสต์ศักราช อาณาจักรโรมันยังขับไล่ชาวยิวออกจากดินแดน จนพวกเขาต้องเร่ร่อนและแสวงหาที่อยู่ใหม่เรื่อย ๆ
ถึงแม้ชาวยิวขึ้นชื่อเรื่องความขยันและทำธุรกิจเก่งจนร่ำรวย แต่การที่พวกเขาไม่ค่อยเป็นที่ต้อนรับจากชาติพันธุ์อื่น จึงทำให้ต้องอพยพอยู่หลายครั้ง และเลือกสะสมความมั่งคั่งผ่าน “เพชร” แทน มีขนาดเล็กและง่ายต่อการพกติดตัว
อีกทั้งในคัมภีร์ไบเบิล ยังมีเอ่ยถึงอัญมณีอันเลอค่าอย่างเพชร และเกราะหน้าอก (Breastplate) ของนักบวชยิวชั้นสูงก็ประดับไปด้วยเพชร
ความโดดเด่นเหล่านี้ ทำให้ชาวยิวสนใจ และประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเพชรเป็นจำนวนมากทั่วยุโรป มีการพัฒนาวิทยาการตัดเพชร เจียระไนเพชรสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนพ่อค้ายิวมีชื่อเสียงด้านเพชรขึ้นมา
การค้าเพชรในสมัยก่อน จะเริ่มจากผู้ขายเปิดถุงกระดาษที่เต็มไปด้วยเพชรให้ผู้ซื้อค่อย ๆ คีบเพชรออกมาและใช้แว่นขยายส่องดูความบริสุทธิ์และเนื้อเพชรใต้แสงตะเกียง
หลังซื้อขายเสร็จสิ้น ทั้งสองจะจับมือกันพร้อมพูดเป็นภาษาฮีบรูว่า “Mazal U’Bracha” หมายถึง “ขอให้โชคดี” ธรรมเนียมอวยพรเช่นนี้ได้แพร่หลายไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
1
ในสมัยนั้น ศูนย์การค้าเพชรที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ และเมืองอันต์เวิร์ปของเบลเยียม แต่จุดเปลี่ยนสำคัญ คือ ช่วงปี 2473 เกิดกระแสต่อต้านชาวยิวทั่วยุโรป ต่อมาในปี 2483 กองทัพนาซีเยอรมันได้ยกพลบุกยึดเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม พร้อมทั้งเกิดโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
พ่อค้าเพชรเชื้อสายยิวจำนวนมาก จึงอพยพจากยุโรปมาสู่ประเทศเกิดใหม่อย่าง “อิสราเอล” และตั้งบริษัทเพชรในกรุงเทลอาวีฟ เมืองเปตะห์ติกวา และเมืองนาตาเนียในอิสราเอล
เมื่ออิสราเอลกลายเป็นศูนย์รวมพ่อค้าเพชรจากทั่วทุกสารทิศแล้ว De Beers ซึ่งเป็นบริษัทเพชรแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงสนใจและส่งเพชรดิบให้พ่อค้าเพชรอิสราเอลเจียระไน จนทำให้อิสราเอลสามารถเข้าถึงลูกค้าเพชรเป็นจำนวนมาก
จวบจนปัจจุบัน อิสราเอลขึ้นแท่นกลายเป็นผู้ส่งออกเพชรอันดับ 6 ของโลก โดยมีตลาดใหญ่ที่สุดคือ สหรัฐ และกำลังเติบโตได้ดีในตลาดจีน ฮ่องกง และอินเดีย
สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/business/1097000
โฆษณา