11 มี.ค. เวลา 23:10 • ประวัติศาสตร์

วันพุธ ที่ 02 เดือนยะมาดิ้ลอาเคร ฮ.ศ. 1443 : อ้างอิงวันที่จากเพจประวัติศาสตร์อิสลาม

ท่านสุลต่านจาลาล อัดดิน คาลจี ผู้เริ่มต้นราชวงศ์คาลจี แห่งอาณาจักรเดลี
ท่านสุลต่านจาลาล อัดดิน คาลจี ( Jalal-ud-din Khalji Sultan ) : ท่านถือกำเนิดประมาณ ฮ.ศ. 616 (ค.ศ.1220) เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นสุลต่านท่านแรกของราชวงศ์คาลจี แห่งอาณาจักรแห่งเดลีในอนุทวีปอินเดีย
เป็นที่รู้กันในอาณาจักรเดลีว่า ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีน เป็นผู้มีมารยาทงอ่อนโยน ถ่อมตน และมีความกรุณาต่อประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองของท่าน
ท่านสุลต่านจาลาล อัดดิน ท่านเป็นชนพื้นเมืองคาลัจที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวเติร์กที่อยู่ในประเทศเตอร์กิสถานในปัจจุบัน
ก่อนที่ท่านจาลาล อุดดิน จะขึ้นมาเป็นสุลต่านปกครองอาณาจักรเดลี ท่านมีนามเดิมว่า “มาลิก ฟีรูซ” ท่านจาลาล อัดดินและพี่ชายของท่านคือ ท่านซัยฮาบุดดีน (บิดาของท่านสุลต่านอะลาอุดดีน คาลจี) รับใช้ท่านสุลต่านบาลบัน แห่งราชวงศ์มัมลูคแห่งเดลีมานานหลายปี
ท่านใช้ความรู้ความสามารถของท่านจนสามารถขึ้นมาเป็นหัวหน้าราชองครักค์ และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเมืองสามานา (Samana) และภารกิจของท่านคือปกป้องการรุกรานของพวกมองโกล
ท่านจาลาล อัดดิน ก่อนที่จะขึ้นเป็นสุลต่าน ท่านจะเผชิญวิบากกรรมในการวางแผนลอบสังหารท่านในกรุงเดลี แต่ท่านรู้ตัวเสียก่อนเลยได้ทำศึกกับคู่อริของท่านที่แม่น้ำยมุนา
สาเหตุที่ท่านโดนลอบสังหารก็เพราะ เมื่อท่านสุลต่านบาลบันเสียชีวิต ได้มีมีขุนนางแบ่งเป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายแรก เป็นกลุ่มขุนนางเติร์กเก่าที่มีแนวคิดว่า ให้มีคนสืบทอดการเป็นสุลต่านต้องเป็นคนในเท่านั่น
ฝ่ายที่คิดเห็นแตกต่างคือ ท่านจาลาล อัดดิน ที่อยากให้มอบอำนาจการปกครองอาณาจักรเดลีให้คนที่มีความสามารถมาปกครองน่าจะเหมาะสมกว่า
จนมาถึงจุดแตกหักจนต้องรบรากันที่แม่น้ำยมุนา และชัยชนะก็เป็นของท่านจาลาล อัดดิน
และท่านจาลาล อัดดิน ได้แต่งตั้งท่านคายูมาร์ (Kayumars) เป็นสุลต่านปกครองอาณาจักรเดลี และตัวท่านจาลาล อัดดีน เป็นผู้สำเร็จราชการแทนท่านสุลต่านคายูมาร์ที่ในขณันั้นยังอยู่ในวัยเยาว์
ในปี ฮ.ศ. 688 (ค.ศ.1290) ในขณะที่ท่านจาลาล อัดดีน อายุ 72 ปี ท่านจาลาล อัดดีนได้ปลดท่านสุลต่านคายูมาร์ (เป็นสุลต่านได้ 3 เดือน) ลงจากตำแหน่ง และท่านจาลาล อัดดีน ได้ขึ้นมาเป็นสุลต่านปกครองอาณาจักรเดลีแทน แต่ก็ถูกขุนนางเตอร์กเก่าไม่ยอมรับ
และท่านจาลาล อัดดีนได้ย้ายไปว่าราชการที่เมืองกิโลครี (Kilokhri) แทนเพื่อตัดการรังควานจากขุนนางเตอร์เก่า
ท่านจาลาล อัดดีน ท่านได้เอาชนะประชาชนอาณาจักรเดลี ด้วยการถ่อมตน และความเมตตาในการปกครอง ซึ่งมีความแตกต่างจากสมัยของท่านสุลต่านบาลบันที่เป็นคนเด็ดขาดอย่างมาก
ในปี ฮ.ศ. 688 (ค.ศ.1290) ได้เกิดการกบฏของท่านมาลิก ซัจจู (Malik Chajju) ซึ่งเป็นหลานชายของท่านสุลต่านบาลบัน แต่ก็ถูกท่านสุลต่านจาลาล อัดดีนปราบปรามที่บริเวณแม่น้ำคงคาที่โภชบุรี ใกล้กับเมืองฟารูคฮาบัด (Farrukhabad) ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีนำได้เนรเทศท่านมาลิก ซัจจูไปอยู่ที่เมืองมุลตาน (Multan) แถวชายแดน
ต่อมาได้มีกองทัพมองโกลได้เข้ามารุกรานบริเวณพรมแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักร นำโดยท่านอับดุลลาห์ หลานของฮูลากู ข่าน
ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีน ได้นำกองทัพออกไปรบด้วยตัวท่านเอง ทั้ง 2 ทัพเผชิญหน้ากันที่สมรภูมิบาร์-ราม (Bar-ram)
และผลของการรบ จบลงด้วยความได้เปรียบของกองทัพของท่านสุลต่านจาลาล อัดดีน โดยกองทัพมองโกลยอมถอยทัพ
หลังจากเสร็จศึกกับพวกมองโกล ในปี ฮ.ศ. 691 (ค.ศ.1292) ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีน ได้นำกองทัพเดลีบุกไปทำกับอาณาจักรชาฮามานะส์ (Chahamanas Dynasty) เพราะกษัตริย์ฮัมมิรา เทวา (Hammira-Deva) ได้นำกองทัพมาบุกยึดเมืองมันดาวาร์ (Mandawar) และคอยรังควานแถวเมืองอัจเมอร์และเมืองฮาร์นายาอีกด้วย
: เดิมนั้นอาณาจักรซาฮามานะส์ ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเดลี ต่อมาได้แข็งข้อและทำการบุกยึดเมืองมันดาวาร์ของอาณาจักรเดลี :
ในสมรภูมิมันดาวาร์ ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีนได้ทำการล้อมเมืองไว้ประมาณ 4 เดือนถึงได้ยึดเมืองคืนมาได้สำเร็จ
ก่อนหน้าจะบุกยึดเมืองมันดาวาร์คืนมา ท่านสุลต่านได้จัดกองทัพไปบุกยึดเมืองจาอิล (Jhain) ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของเมืองหลวงรันทัมบอร์ (Ranthambore) ของอาณาจักรซาฮามานะส์ โดยชัยชนะเป็นของกองทัพของท่านสุลต่านจาลาล อัดดีนอย่างเด็ดขาด
และหลังจากยึดเมืองมันดาวาร์ และเมืองจาอิลได้แล้ว ท่านสุลต่านได้เดินทัพต่อไปยังเมืองหลวงรันทัมบอร์
ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีน ได้บุกยึดอาณาจักรซาฮมานะส์ได้อย่างเด็ดขาดในปี ฮ.ศ. 700 (ค.ศ.1301)
โดยที่ท่านสุลต่านจาลาล อัดดีน คาลจี มีอายุ 79 ปีตามฮิจเราะห์ศักราช และปกครองอาณาจักรเดลีได้ประมาณ 8 ปีตามฮิจเราะห์ศักราช
ขออนุญาติยกอัลกุรอาน มากล่าวไว้ ณ ที่นี้สัก 1 อายะห์ความว่า :
يُرِيدُ اللَّهُ لِيُبَيِّنَ لَكُمْ وَيَهْدِيَكُمْ سُنَنَ الَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ وَيَتُوبَ عَلَيْكُمْ ۗ وَاللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌ
อัลลอฮ์ทรงปรารถนาที่จะแจกแจงแก่พวกเจ้า และแนะนำพวกเจ้าซึ่งแนวทางต่างๆ ของบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้า
และจะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเจ้า
และอัลลอฮ์ เป็นผู้ทรงรอบรู้และเป็นผู้ทรงปรีชาญาณ
ซูเราะห์อันนิสาห์ อายะห์ที่ 26
โฆษณา