Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
17 พ.ย. 2023 เวลา 13:00 • กีฬา
นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง : จากผู้รักษาประตูสู่กองหน้าจำเป็น ที่ยิงประตูให้ทีมไทยในศึกคัดฟุตบอลโลก
ศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ได้เริ่มขึ้นแล้ว ที่ผ่านมาแม้จะเป็นหนทางที่ยากลำบากของทีมชาติไทย แต่ก็มีหลายเกมที่มีโมเมนต์ประทับใจที่อยู่ในใจของนักเตะและแฟนบอล
หนึ่งในนั้นคือลูกยิงของ นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง หรือ “โค้ชเกลี้ยง” ในปัจจุบัน ที่ซัลโวใส่ อินเดีย เมื่อปี 1985 ซึ่งหากดูเผิน ๆ คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นผู้รักษาประตูแต่กลับต้องลงสนามในฐานะศูนย์หน้าจำเป็น
ทำไมผู้รักษาประตูทีมชาติไทยรายนี้จึงต้องมารับบทกองหน้า แล้วยังดันทำประตูได้เสียด้วย ติดตามเรื่องราวได้ที่นี่
[ยกทัพเยือนเอเชียใต้]
ย้อนกลับไปในศึกฟุตบอลโลก 1986 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบแรก ทีมชาติไทยอยู่ร่วมกลุ่มกับ อินโดนีเซีย อินเดีย และบังกลาเทศ โดยในทีมชาติไทยมีสตาร์ดังอย่าง วิทยา เลาหกุล, ชลอ หงษ์ขจร, วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ และ เฉลิมวุฒิ สง่าพล นำทีม
เกมผ่านมา 4 เกม ไทยชนะเพียง 1 เกม และเสมอ 1 แพ้ 2 โอกาสผ่านเข้ารอบริบหรี่ โดย 2 เกมสุดท้ายต้องออกไปเยือน 2 ทีมจากเอเชียใต้อย่าง บังกลาเทศ (5 เมษายน 1985) และ อินเดีย (9 เมษายน 1985)
ด้วยความที่บอลแทบจะหมดลุ้นแล้วจึงตามมาด้วยปัญหาการเตรียมทีมมากมาย นักเตะหลายคนไม่อยากเดินทางไปด้วย ขณะที่สมาคมฟุตบอลก็มีกระแสข่าวว่าอยากจะประหยัดงบการเดินทาง ถึงขนาดโดนล้อเลียนว่าทีมชุดนี้อาจต้องเดินทางไปกันเองเลยทีเดียว
ทำให้ทีมไทยมีนักเตะเดินทางไปเพียง 17 คน สำหรับการลงเล่น 2 เกมดังกล่าว และเพียงเกมแรกก็แพ้ บังกลาเทศ 0-1 ปิดประตูการเข้ารอบต่อไปทันที
“พอบอลมันแทบไม่มีผลอะไรแล้วและยังต้องไปบังกลาเทศไปอินเดีย ผู้เล่นหลายคนเขาก็ไม่ค่อยอยากไปกัน มันลำบาก ตอนนั้นประเทศเขายังไม่เจริญ จะออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้”
“แข่งที่บังกลาเทศจบจะบินต่อไปอินเดียก็ต้องรอเครื่องบินอยู่ 3 วันกว่าจะมีไฟล์ทมา ต้องอยู่แต่ในโรงแรม มันไม่สนุก” นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง ผู้รักษาประตูทีมไทยที่ลงตัวจริงในเกมกับบังกลาเทศ เผยถึงสถานการณ์ในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะตกรอบไปแล้ว แต่เกมนัดสุดท้ายที่เหลือนักเตะทุกคนก็ต้องลงสนามตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
[ศูนย์หน้าจำเป็น]
เมื่อทัพนักเตะไทยยกพลถึงอินเดีย ที่สถานการณ์เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มและยังมีลุ้นเข้ารอบ เพื่อเตรียมลงเล่นนัดสุดท้าย ทีมไทยก็ต้องเผชิญปัญหาอีกครั้ง เมื่อมีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่ม จนทำให้เหลือผู้เล่นใช้งานได้เพียงแค่ 13 คน
โดย 1 ใน 2 ตัวสำรองก็คือผู้รักษาประตูอย่าง นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง ที่เปิดทางให้ สมปอง นันทประภาศิลป์ เพื่อนนายด่านลงเฝ้าเสาทิ้งท้าย
จากเกมที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร ครึ่งแรกไม่มีใครทำประตูได้ แต่จู่ ๆ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ สุทิน ไชยกิตติ แนวรับตัวเก่งทีมไทยได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากสนาม ซึ่งบนซุ้มม้านั่งเหลือแค่เพียง นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง รายเดียวเท่านั้น
“เอ้า ๆ เกลี้ยงไป ลงไปยืนเกะกะให้ครบ 11 คนไว้ จะได้ไม่เสียเปรียบ” นราศักดิ์ เผยถึงวินาทีที่โค้ช เสนอ ไชยยงค์ เรียกตัวเองให้เปลี่ยนชุดลงสนาม
“ตอนนั้นมีผู้เล่นเจ็บ ผู้เล่นก็ไม่มีใครจะเปลี่ยนแล้ว เหลือเราที่เป็นผู้รักษาประตูอยู่คนเดียว ไม่งั้นต้องเล่น 10 คนในสนาม โค้ชก็ให้เราลงไปวิ่งเกะกะ ๆ อยู่ข้างหน้าทีมจะได้ไม่ลำบากมาก เราก็ไม่เคยเล่นกองหน้าหรอก แต่มีความแข็งแรง วิ่งได้ เตะบอลได้”
“ผมมองว่าสถานการณ์แบบนี้การลงไปเป็นกองหน้าดีที่สุด เราลงไปยังมีแรง ไปวิ่งไปไล่กวนคู่แข่งข้างหน้าได้ อย่าไปยุ่งกับกองหลังเดี๋ยวเขาจะเสียสมาธิ เพราะกองหลังต้องจัดระบบให้ดี เราทะเล่อทะล่าเข้าไปเดี๋ยวเขาเช็คล้ำหน้าแล้วดันไปยืนห้อยอยู่มันก็ไม่ได้”
“ส่วนตอนเปลี่ยนตัวก็ไม่มีอะไรมาก สมัยก่อนมันง่าย แค่ไปแจ้งกรรมการว่าขอเปลี่ยนเบอร์เสื้อ สมมตินักเตะเจ็บที่ออกใส่เบอร์ 13 เราก็ไปแจ้งเขาขอใส่เบอร์ 13 แทน” นราศักดิ์ กล่าว
วินาทีนั้นเขาไม่รู้หรอกว่าอีกไม่กี่นาทีต่อมาตนเองจะสามารถบันทึกสถิติในสิ่งที่ผู้รักษาประตูน้อยรายจะทำได้
[ผู้รักษาประตูที่ยิงประตูในศึกคัดบอลโลก]
หลังถูกเปลี่ยนลงสนาม นราศักดิ์ลงไปเล่นตำแหน่งกองหน้าภายใต้ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย นั่นคือการพยายามวิ่งไล่บอล ทำอย่างไรก็ได้ให้คู่แข่งขึ้นเกมลำบากมากที่สุด
ทว่าสิ่งที่เขาได้ทำนั้นไม่ได้มีแค่การวิ่งไล่อย่างเดียว แต่ยังมีโอกาสได้ส่องไกลลุ้นประตู
“เล่น ๆ ไปมันก็มีโอกาสได้ยิงประตูอยู่ 2 ที ได้ยิงนอกกรอบคล้าย ๆ กันเลย ทีแรกมันออกข้างไปนิดนึง”
“อีกที สมพล ชมชื่น ส่งจากซ้ายมาให้ เรายืนอยู่ตรงหัวกะโหลก 18 หลา ได้บอลก็ยิงปึ้งไป อ่าว เข้าประตู บอลมันมุดเข้าโคนเสาซ้ายมือพอดี คนก็ฮือฮากันใหญ่”
“ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย เราไม่ใช้ศูนย์หน้าอาชีพ เน้นยิงเอาแรงเข้าว่า ให้ตรงกรอบเข้าไว้ ไม่ได้คิดอะไรหรอก”
“พอยิงเข้าพวกเพื่อนในทีมก็มาเฮฮากัน มาแซวกัน ไอห่าเอ๊ย ไม่มีใครยิงเลยมึงลงมายิงได้เลยอะไรแบบเนี้ย ไม่ได้คิดอะไรว่าจะได้บันทึกอะไร คิดแค่เป็นเรื่องสนุกสนานที่ยิงได้ แต่น่าเสียดายที่เราน่าจะชนะมากกว่า” นราศักดิ์ เผย
ประตูที่ทำได้ของนราศักดิ์ในนาที 76 เกือบทำให้ทีมไทยเก็บชัยชนะกลับบ้าน แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อ ตารุน ดีย์ แนวรับอินเดียมาทำประตูตีเสมอในนาที 85 พร้อมส่งทีมชาติไทยจบรอบแรกด้วยตำแหน่งรองบ๊วยกลุ่ม
แม้เกมดังกล่าวจะไม่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลมากนักด้วยผลการแข่งขันที่ไม่ได้สวยหรูรวมถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนเกม แต่เกมนัดนี้ก็อยู่ในความทรงจำของ “นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง” มาจนถึงทุกวันนี้
3
“ตอนกำลังขึ้นเครื่องกลับบ้านก็เห็นหนังสือพิมพ์อินเดียเขาลงรูปเราตอนกำลังเงื้อเท้ายิงประตูพอดี แล้วมีข้อความภาษาอังกฤษทำนองว่าผู้รักษาประตูทีมไทยยิงประตูได้ พอเห็นมันก็ตลกดีเลยเม้มกลับมาฉบับนึงแล้วมาตัดเก็บไว้”
“เวลาหยิบขึ้นมาดูทีไรได้ย้อนถึงวันนั้นมันก็สนุกดี มันก็ประทับใจนะ ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น” นราศักดิ์ ทิ้งท้าย
บันทึก
10
2
10
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย