18 พ.ย. 2023 เวลา 04:10 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Dumb Money (2023) – แมงเม่าเผานายทุน

เรื่องราวของคนตัวเล็กรวมตัวล้มยักษ์ใหญ่ มักเป็นแนวทางเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจได้โดยง่าย ในฐานะแนวทางของเบี้ยรองบ่อนที่ไม่มีทางชนะ แต่สุดท้ายก็ค้นพบวิถีทางที่มีชัยจนได้ และในทุกสนามและแวดวง ก็มักจะเกิดเรื่องราวนี้อยู่เสมอโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่แม้กระทั่งวงการวอลล์สตรีท ที่ครั้งหนึ่งเหล่าแมงเม่าต่างรวมตัวเก็งราคาหุ้นของร้านขายแผ่นเกมที่ใกล้เจ๊งในยุคโควิด เกิดเป็นตำนานของการโค่นนายทุนครั้งสำคัญ และมันก็ถูกนำมาถ่ายทอดในหนังอย่าง Dumb Money
Dumb Money บอกเล่าเรื่องราวของ คีธ กิล พนักงานหนุ่มวัยกลางคน ที่สนใจในการลงทุนในตลาดหุ้น และมีงานอดิเรกเป็นยูทูบเบอร์สายการเงินอย่าง รอริ่ง คิตตี้ ในช่วงภาวะโควิด เขาตัดสินใจทุ่มซื้อหุ้นร้านเกม GameStop ที่ราคาหุ้นปรับตัวต่ำเตี้ย แต่เขาเชื่อมั่นว่าตัวหุ้นจะสร้างกำไร
จนกระทั่งเหล่านายทุนกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เห็นเหล่า “แมงเม่า” พยายามชอร์ตหุ้น เพื่อเก็งกำไรว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงอีก แต่แล้ว เหล่าขุนพลแมงเม่ามหาศาล จากนักลงทุนรายย่อยในบอร์ด Reddit ต่างเข้าซื้อหุ้น จนกลายเป็นมหกรรมตรึงหุ้นทะยานฟ้า เป็นสงครามระหว่างนายทุนและชนชั้นกลางค่อนล่างโดยแท้จริง
ตัวหนังเริ่มด้วยฉากเปิด ผ่านบทสนทนาของเหล่านายทุนชนชั้นสูง ที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงบนตลาดหุ้นของหุ้น GME หรือหุ้นของ GameStop ก่อนที่ตัวหนังจะย้อนความกลับไป ในช่วงหกเดือนก่อนความวุ่นวาย และแนะนำตัวละครของเหล่าแมงเม่า นำโดย คีธ กิล และนักลงทุนรายย่อย ทั้งการระบุชื่อตัวตนจริง ตำแหน่งหน้าที่การงาน และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ทั้งพยาบาลแม่เลี้ยงเดี่ยว, พนักงานร้านค้าปลีก และนักศึกษาหนี้กยศ. ในเรื่องราวของมหกรรมตรึงราคาหุ้นครั้งประวัติการณ์ ด้วยจังหวะหนังที่เล่าในโทนปั่นหัวชวนแสบแบบเบา ๆ
ด้วยความที่เป็นหนังที่เกี่ยวกับการเงิน เลยเตรียมใจไว้สักหน่อย ว่าอาจจะต้องเจอกับศัพท์เฉพาะทางอย่างแน่นอน ซึ่งตัวหนังก็มาพร้อมศัพท์เฉพาะทางการเงินอย่าง “ชอร์ตสควีซ” (สถานการณ์ของตลาดหุ้น ซึ่งราคาหุ้นตัวหนึ่งพุ่งขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนนักลงทุนที่ทำชอร์ต ต้องตัดสินใจขายเพื่อป้องกันความเสี่ยงขาดทุน แต่ก็ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปอีก) ซึ่งอาจจะชวนปวดหัวเสียหน่อย อย่างในแนวหนังคล้าย ๆ แบบ The Big Short แต่กับหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ท้าทายความรู้สามัญขนาดนั้น
เพราะการจัดวางแนวทางการกำกับและเนื้อหา พาเราไปอยู่ในวงนอก ของเหล่าแมงเม่า ซึ่งเป็นชนชั้นกลางค่อนข้างเสียส่วนใหญ่ ไม่ได้มีสินทรัพย์มากมายเหลือคณานับ แต่พวกเขาอยู่ในวิถีชีวิตที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว จัดการค่าใช้จ่าย และมีความรับผิดชอบที่ล้วนต้องดูแล ทั้งกับตัวเองและครอบครัว รวมถึงการฉายภาพสถานการณ์ ซึ่งยังไม่ได้ฟื้นฟูจากช่วงเวลาโควิดดีนัก ก็ทำให้เราเข้าถึงสถานภาพของตัวละครได้ง่ายขึ้นไปอีก
แถมตัวหนัง ก็ไม่ยี่หระในการจัดวางด้วยการฉายภาพของชนชั้นสูงได้ชวนหมั่นไส้ ผ่านกิจกรรมและอาหารอันหรูหราตามขนบของอีลิท ผ่านบทเพลงที่ล้วนเป็นฮิปฮอป ก็กระแทกความรู้สึกให้เรารู้สึกหึกเฮิมไปกับความไม่พอใจของแมงเม่าไร้ทางสู้ ที่จู่ ๆ ก็ลุกฮือขึ้นมารวมพลังเอาคืนนายทุน โดยเฉพาะในจังหวะที่ตัวหนังยกมีมกวนส้นปนความกาว ของเหล่าแมงเม่าในเรดดิท มาฉายเป็นภาพสะท้อนของการลุกฮือร่วมสมัย ก็เรียกเสียงฮาได้อยู่ไม่น้อย
ด้วยการวางจังหวะพ่วงด้วยการแสดง ที่แม้ไม่ได้มาพร้อมเสียงฮาโครมใหญ่ แต่ก็เป็นการหยอดมุกที่ชวนผ่อนคลายอยู่ไม่น้อย ในขณะที่เหล่าตัวละครต่างชักคะเยอในมหกรรมตรึงราคาหุ้น เพื่อเอาคืนชนชั้นสูงที่มีแต่ร่ำรวยขึ้น แต่ตามเนื้อหาสถานการณ์ความจริง ก็ไม่ได้สวยหรูสะใจขนาดนั้น เพราะมันก็มาพร้อมแท็คติกลูกเล่น จากฝั่งนายทุนที่ชวนน่าเกลียดและชวนหน้าชาอยู่ไม่น้อย ในแง่ที่ว่า คนตัวเล็กอาจไม่มีสิทธิหรือเครื่องมือพอจะต่อกรได้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ตัวหนังไม่ได้มาพร้อมอะไรท่าทีที่แปลกใหม่ หรืออยู่ในการเล่าที่จริงจังสั่นสะท้าน นอกจากการเล่าสถานการณ์ดังกล่าวแบบรวม ๆ โดยไม่ได้เจาะลึก หรือสะท้อนภาพกรอบความคิดของตัวละครจากสถานการณ์เหล่านั้น แต่ชวนให้คนที่อาจไม่เคยได้ยินหรือตามข่าว ได้ทราบถึงความปั่นป่วนของสถานการณ์แบบพอสังเขป ตัวหนังจึงอยู่ในลูกสูตรการเอาคืนของคนตัวเล็กแบบแมงเม่า ที่หาหนทางแก้เผ็ดคนระดับยอดพีระมิดผ่านตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
ว่ากันว่า ไม่มีสนามไหนที่เป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบหรือกระทั่งเสียเปรียบ ไม่แม้แต่ในตลาดหุ้นเอง ที่ควรจะเป็นพื้นที่ซื้อขายในอุดมคติที่ทุกคนที่มีความรู้และงบมากพอ สามารถจะทำกำไรได้ หากแต่ในกลโกงหรือกลเกมภายในตลาดหุ้นเอง ก็มีเหล่านายทุนเบื้องสูง ที่เห็นช่องโหว่และพยายามทำกำไรจากเดิมพันหุ้นที่อาจจะราคาตก ผ่านการชอร์ตหุ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นใน Dumb Money ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะในวงการตลาดหุ้น เพื่อเรียกเหล่านักลงทุนรายย่อยว่า “แมงเม่า” คือการฉายภาพบุคคลเหล่านี้ ซึ่งล้วนเป็นผู้คนชั้นแรงงานหรือเหล่ามดงานตัวน้อย ซึ่งแทบไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือในพื้ที่ ๆ พวกเขาอยู่ และล้วนหาวิธีสร้างรายได้ตามทักษะหรือกำลังที่ตนเองมี อย่างเช่น การลงทุน ที่น่าจะไร้ซึ่งกลไกที่เอื้อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ซึ่งมันก็ช่วยฉายภาพความสกปรกและความเสียเปรียบทางชนชั้น ผ่านความสับปลับกลับกลอกของสงครามวอลล์สตรีท ที่ซึ่งนายทุนพร้อมมี “ฟูก” คอยโอบอุ้มพยุงช่วย ในยามที่พวกเขาเหล่านั้นกำลังจะล้มเจ็บนัก ขณะที่ชนชั้นล่างมากมาย หากพลาดเพียงครั้งเดียว พวกเขาไม่มีแม้แต่ฐานจะให้ยืนเสียด้วยซ้ำ การลุกฮือเดิมพันร่วมกัน จึงเป็นพลังอำนาจอันมหาศาลที่แม้แต่นายทุนระดับสูงสุด ไม่อาจจะต้านทานได้
เปรียบดั่งฝูงหมาป่าไคโยตี้ฝูงโต ที่รวมพลังกันล้มเจ้าป่าอย่างสิงโตแห่งวอลล์สตรีทได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สรุปแล้ว Dumb Money คือหนังตลกดราม่า ที่ว่าด้วยสงครามครั้งประวัติการณ์บนตลาดวอลล์สตรีท ของมหกรรมตรึงหุ้นมหากาฬของเหล่าแมงเม่า ที่เขย่านายทุนแทบกระอักเลือด เปี่ยมด้วยจังหวะมีมกวนส้นปนความปั่นกาวเรียกเสียงฮา ภายใต้ลูกสูตรของการเอาคืนของคนตัวเล็กที่ดูเพลิน ๆ แต่ชวนหน้าชาไปกับความพยายามฉ้อฉลในวงการตลาดวอลล์สตรีท
3.5 / 5
Dumb Money (2023)
Directed by Craig Gillespie
Written by Lauren Schuker Blum & Rebecca Angelo
Based on "The Antisocial Network" by Ben Mezrich

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา