20 พ.ย. 2023 เวลา 01:00 • ข่าวรอบโลก

ซากวาฬระเบิด หากกำจัดซากวาฬเกยตื้นช้า อาจพบระเบิดชีวภาพชวนสยอง

ปีนี้ทั่วชายฝั่งสหราชอาณาจักรเกิดเหตุวาฬเกยตื้นมากกว่าปีไหนๆ
จากเดิมที่เคยมีประมาณ 500 - 600 ตัว แต่ปีนี้อาจมีมากกว่า 1,000 ตัว
ล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคม เพิ่งมีเหตุวาฬนำร่อง 55 ตัวเกยตื้นบนเกาะลูอิสในสกอตแลนด์
ซึ่งถือเป็นการเกยตื้นครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้นของสหราชอาณาจักร
ในอดีตการเกยตื้นของสัตว์อย่างวาฬเกิดขึ้นเพราะอาการป่วยหรือความชราตามธรรมชาติ ไม่ได้ส่งผลสำคัญต่อจำนวนประชากรอะไรมากมาย
บางครั้งอาจเกิดเพราะสภาพอากาศและลมพายุ แต่ในกาลก่อนก็ยังถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานๆ ที
แต่ปัจจุบันด้วยการใช้ประโยชน์และก่อผลกระทบทางทะเลมากมายของมนุษย์ การเกยตื้นของสัตว์น้ำจึงเกิดขึ้นได้ง่าย และนับเป็นอันตรายทางตรงอีกทางหนึ่ง
สาเหตุเป็นต้นว่า สัตว์น้ำได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือทำประมง ทั้งโดยความไม่ตั้งใจ รวมถึงการทิ้งอุปกรณ์จับปลาผิดกฎหมายลงทะเล
เส้นทางเดินเรือ การขุดเจาะน้ำมัน การซ้อมรบ การใช้โซนาร์จนเกิดเสียงรบกวนการสื่อสารของสัตว์ และทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ในทะเลเกิดอาการตื่นตระหนก
มลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ - ต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของวาฬมิทางตรงก็ทางอ้อม
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่วาฬบางสายพันธุ์ใช้ชีวิตกันเป็นกลุ่ม มีความสัมพันธ์กันในระบบสังคมที่ซับซ้อน
หากวาฬตัวใดตัวหนึ่งป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจนถูกซัดไปเกยตื้น ก็อาจดึงดูดวาฬตัวอื่นๆ ให้ว่ายตามไป และเกยตื้นตามในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การเกยตื้นที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากจะส่งผลต่อจำนวนสัตว์ในทะเลแล้ว ปัจจุบันยังส่งผลต่อการจัดการของคนบนฝั่ง
ที่ยิ่งมีวาฬเกยตื้นมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงอื่นๆ ก็ยิ่งตามมามากขึ้น
โดยราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม หมายถึงการขนย้ายและการกำจัดซาก ป้องกันไม่ให้เกิดมลภาวะตามชายฝั่ง ที่จะกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและสภาพแวดล้อมในละแวกนั้น
สำหรับวาฬที่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมากถึง 40 ตัน คงไม่สามารถปล่อยให้เน่าเปื่อยและสลายตัวไปตามธรรมชาติได้ตามปกติ
ยิ่งหากแหล่งเกยตื้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยว การทิ้งซากวาฬไว้เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการจงใจสร้างทัศนียภาพอุจาด ทำลายรายได้และความสวยงามให้หายไป
ภายในร่างของซากวาฬยังประกอบด้วยก๊าซมีเทนที่หมักหมมขึ้นและเปรียบเสมือนระเบิดเวลาแห่งความสยดสยอง
มีตัวอย่างคลิปวีดีโอหนึ่งเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว ซากวาฬที่บ่มก๊าซมีเทนไว้จนร่างบวมเต็มที่ได้ระเบิดขึ้นกลางทะเล สภาพแวดล้อมรอบๆ เต็มไปด้วยเลือด และซากเครื่องใน ทั้งม้าม ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร
ผู้คนที่พบเห็นได้แต่พากันอุทาน What the Fuc…
หากร่างสัตว์ระเบิดในน้ำ สิ่งนี่เปรียบเสมือนการเริ่มต้นของงานเลี้ยงในมหาสมุทร
ซากร่างวาฬจะค่อยๆ จมลง กลายเป็นอาหารของสิ่งมีชีวิตมากมาย
แต่หากเกิดขึ้นบนพื้นที่ชายฝั่ง มันก็คงเป็นสิ่งไม่น่าพิสมัยอย่างรุนแรง
ในปี 2004 เคยมีเหตุการณ์ซากวาฬสเปิร์มหนัก 60 ตัน ที่กำลังเน่าเปื่อยเกิดระเบิดขึ้นกลางถนนในไถหนาน ไต้หวัน ขณะกำลังทำการขนย้ายไปชันสูตรเพื่อข้อมูลความรู้
เลือดและซากอวัยวะต่างๆ กระจัดกระจายเปรอะเปื้อนรถราที่กำลังสัญจรและร้านค้าละแวกนั้นไปจนหมด
เศษซากที่ลอยขึ้นฟ้าทยอยตกลงราวเม็ดฝนกับลูกเห็บ
การจราจรต้องหยุดนิ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อกำจัดซาก
เพียงจินตนาการก็ได้กลิ่นเหม็นโชยขึ้นเต็มสมอง…
โดยแนวทางกำจัดซากวาฬเกยตื้นที่ถูกมองว่ามีความเหมาะสมที่สุด คือ การย้ายซากสัตว์นำไปฝังกลบ ซึ่งประมาณ 1 ใน 3 ของวาฬที่เกยตื้นทั่วชายฝั่งสหรัฐอมเริกาถูกกำจัดออกไปในลักษณะนั้น
หากพื้นที่เกยตื้นมีความลึกมากพอ หรือเป็นวาฬไม่ใหญ่ก็จะดำเนินการฝังกลบลงแถวนั้น
แต่หากชายหาดตื้นเกินไป ก็ต้องขนย้ายไปฝังกลบที่อื่น
ส่วนในสหราชอาณาจักรมีวิธีการแยกชิ้นส่วนซาก นำเข้าเตาเผา นำไปต้ม สกัดผสมแอลกอฮอล์แปรสภาพเป็นไบโอดีเซล
แต่ปัญหาก็ติดตรงที่ว่า หากเป็นวาฬตัวใหญ่ คงต้องหั่นและขนย้ายกันหลายรอบกว่าจะครบทั้งตัว
รวมถึงในบางกรณี อาจมีราคาค่าใช้จ่ายมากเกิน 1 ล้านบาท ในด้านการจัดการซากและขนย้ายไปจำกัด
ในสหราชอาณาจักร พบว่าปัญหาการเกยตื้นมักเกิดในชายหาดส่วนบุคคล ซึ่งอาจมีเส้นทางคมมาคมที่เข้าถึงได้ยาก การเคลื่อนย้ายซากวาฬหลายครั้งจึงเป็นไปได้ช้า
ขณะที่ทุกอย่างเป็นงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา
ก่อนซากวาฬจะระเบิดตู้ม! กลายเป็นอะไรที่เละกว่าโกโก้ครั้นช์
อ้างอิง
How do you get rid of a beached whale before it explodes ? https://shorturl.asia/KmQaG
Why do whales beach themselves ? https://shorturl.asia/9bXaG
Exploding whale stop city traffic https://shorturl.asia/8Y0Fz
โฆษณา