20 พ.ย. 2023 เวลา 08:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

WHART ขยายอาณาจักรกองทรัสต์โลจิสติกส์

ลงทุนคลังสินค้า-โรงงานเพิ่ม 3 โครงการ เคาะราคาขายหน่วยเพิ่มทุนสูงสุดที่ 9.60 บาท
WHART เดินหน้าขยายอาณาจักร ลงทุนคลังสินค้า-โรงงานเพิ่ม 3 โครงการ มูลค่า 3,566.49 ล้านบาท ดันมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท เตรียมขายหน่วยเพิ่มทุน ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อวันที่ 1 , 4 และ 6 - 8 ธ.ค. นี้ ที่ราคาสูงสุด 9.60 บาทต่อหน่วย ส่วนนักลงทุนทั่วไปจองซื้อได้วันที่ 13 - 15 และ 18 ธ.ค. 66 ที่ราคาสุดท้าย
นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า กองทรัสต์ WHART เตรียมเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมในวันที่ 1 , 4 และระหว่างวันที่ 6 - 8 ธ.ค. 66 ที่ราคาสูงสุดที่ 9.60 บาทต่อหน่วย
โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ K-My Invest และสาขาของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดจะทำการคืนเงินส่วนต่างราคาให้กับผู้จองซื้อ
สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 13 - 15 และวันที่ 18 ธ.ค. 66 โดยจะทำการชำระเงินจองซื้อที่ราคาสุดท้าย โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม กองทรัสต์ WHART ได้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เท่ากับ 0.79 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 67 หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนประมาณ 8.23% (ขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้าย)
ด้านนายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART เปิดเผยว่า ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศไทย
โดยมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.89 ล้านตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร ซึ่งเป็นอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารโรงงาน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป (General Warehouse)
ในส่วนของสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ Built-to-Suit และ General Warehouse พื้นที่เช่า 90,862 ตร.ม.,
2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 24,310 ตร.ม และ 3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3 เป็นคลังสินค้า และโรงงานแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 27,724 ตร.ม.
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการที่เข้าลงทุน ถือเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลโลจิกติกส์ที่สำคัญ อย่างบางนา-ตราด และ EEC อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้เช่าที่มาจากกลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นคงอย่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (Third Party Logistics) และกลุ่มผู้ผลิต (Manufacturer) ซึ่งการได้ผู้เช่าที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรม ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่มั่นคง และสร้างประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์
นอกจากนี้ การที่กองทรัสต์ WHART มีการขยายขนาดกองทรัสต์จากการลงทุนเพิ่มเติมในทุกปี ส่งผลให้กองทรัสต์ฯ มีความมั่นคงทางรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยังกระจายความเสี่ยง ไม่ว่าจะในด้านของทำเลทรัพย์สินที่ลงทุน สัญชาติของผู้เช่า รวมถึงความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจของผู้เช่า (Business Sector) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยทำให้ภาพรวมผลประกอบการของกองทรัสต์ WHART อยู่ในระดับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง
โฆษณา