21 พ.ย. 2023 เวลา 02:53 • ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้ง

ชาวไวกิ้ง (Vikings) เป็นกลุ่มชนเผ่านักรบ นักการค้า และนักสำรวจจากภูมิภาคสแกนดิเนเวีย ซึ่งได้แก่ ประเทศนอร์เวย์ สวีเดน และเดนมาร์ก ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 ถึง 11 ชาวไวกิ้งได้ทำการสำรวจและตั้งรกรากในดินแดนต่างๆ ทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย
คำว่า "ไวกิ้ง" มาจากภาษานอร์สโบราณว่า "vikingr" ซึ่งแปลว่า "นักเดินเรือ" ชาวไวกิ้งมีทักษะในการเดินเรือที่ยอดเยี่ยม พวกเขาใช้เรือยาวที่เรียกว่า "ดรา็กนาร์" ในการออกสำรวจและโจมตีดินแดนต่างๆ
การสำรวจและโจมตีของชาวไวกิ้งได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวยุโรปในยุคนั้น ชาวไวกิ้งได้บุกโจมตีชายฝั่งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี รัสเซีย และแม้แต่อเมริกาเหนือ พวกเขาได้ปล้นสะดม สังหาร และจับผู้คนไปเป็นทาส
นอกจากการโจมตีแล้ว ชาวไวกิ้งยังเป็นผู้บุกเบิกการค้าในเส้นทางต่างๆ พวกเขาได้ติดต่อค้าขายกับจักรวรรดิไบแซนไทน์ เปอร์เซีย และอินเดีย ชาวไวกิ้งได้นำเข้าสินค้าต่างๆ จากดินแดนเหล่านี้ เช่น ผ้าไหม เครื่องเทศ และเครื่องประดับ
ชาวไวกิ้งยังมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมสแกนดิเนเวียไปทั่วโลก พวกเขาได้นำภาษา ศาสนา และความเชื่อของตนไปเผยแพร่ในดินแดนต่างๆ ชาวไวกิ้งได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมไว้มากมาย ตัวอย่างเช่น ภาษานอร์สโบราณได้กลายเป็นรากฐานของภาษาต่างๆ ในยุโรปเหนือ เช่น ภาษานอร์เวย์ ภาษาสวีเดน และภาษาเดนมาร์ก
การสำรวจของชาวไวกิ้ง
ชาวไวกิ้งได้ทำการสำรวจดินแดนต่างๆ ทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกการเดินเรือในเส้นทางใหม่ๆ ชาวไวกิ้งได้ค้นพบเกาะกรีนแลนด์และไอซ์แลนด์ พวกเขายังเดินเรือไปถึงชายทวีปอเมริกาเหนือก่อนโคลัมบัสถึง 500 ปี
การค้นพบของชาวไวกิ้งได้ทำให้โลกกว้างใหญ่ขึ้น พวกเขาได้เผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมของตนไปทั่วโลก
การสิ้นสุดยุคไวกิ้ง
ยุคไวกิ้งสิ้นสุดลงในคริสต์ศตวรรษที่ 11 สาเหตุของการสิ้นสุดยุคไวกิ้งนั้นมีหลายประการ เช่น การยอมรับศาสนาคริสต์ของชาวไวกิ้ง การรวมอำนาจของกษัตริย์ในยุโรป และการปรับปรุงกองทัพของชาวยุโรป
ถึงแม้ยุคไวกิ้งจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ชาวไวกิ้งยังคงเป็นกลุ่มชนที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์โลก พวกเขาได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมไว้มากมาย ซึ่งยังคงส่งผลต่อโลกในปัจจุบัน
โฆษณา