24 พ.ย. 2023 เวลา 06:08 • ประวัติศาสตร์

โบสถ์ที่ใช้ทุนสร้างกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท)

“วิหารเซนต์ปีเตอร์สบาซิลิกา (Saint Peter’s Basilica)” ในกรุงวาติกัน คือสิ่งก่อสร้างที่น่ามหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก และได้ชื่อว่าเป็นวิหารหรือโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
วิหารนี้เริ่มการก่อสร้างในเดือนเมษายน ค.ศ.1506 (พ.ศ.2049) และแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1626 (พ.ศ.2169) เท่ากับใช้เวลาก่อสร้างถึง 120 ปีเต็ม
สำหรับคำถามที่หลายคนอยากทราบก็คือ มูลค่าการก่อสร้างหรือ “ทุน” ที่ใช้ในการก่อสร้างวิหารแห่งนี้จะคิดเป็นเงินเท่าไรหากคิดตามค่าเงินปัจจุบัน?
วิหารเซนต์ปีเตอร์สบาซิลิกา (Saint Peter’s Basilica)
หากพิจารณาจากความใหญ่โตอลังการของวิหารแห่งนี้ ซึ่งบรรจุรูปแกะสลักกว่า 395 ตัว โดม 11 แห่ง แท่นบูชา 44 แท่น เสา 778 ต้น รูปแกะสลักบนกระเบื้องโมเสค 135 ชิ้น และก่อนที่จะมีการปรับปรุง อาคารแห่งนี้ก็ต้องใช้โคมไฟกว่า 4,400 ดวงเพื่อจุดให้แสงสว่างในบริเวณรอบๆ อาคาร
วิหารนี้ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 227,000 ตารางฟุต และใช้เวลาก่อสร้าง 120 ปี ตกแต่งภายในอีก 50 ปี
ดังนั้นเงินทุนที่ใช้ในการก่อสร้างย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน
เงินทุนที่ใช้ในการก่อสร้างในยุคนั้นจะอยู่ในรูปแบบของเหรียญทองคำที่เรียกว่า “ดัคแอต (Ducat)” และ “สคูดิ (Scudi)”
เหรียญดัคแอตจะประกอบด้วยทองคำเกือบ 3.5 กรัม ในขณะที่สคูดิซึ่งมาแทนที่ดัคแอตและใช้ในรัฐสันตะปาปาเมื่อปีค.ศ.1531 (พ.ศ.2074) นั้น จะมีขนาดเล็กกว่าและประกอบด้วยทองคำบริสุทธิ์จำนวนน้อยกว่า โดยบทความนี้จะคิดตามค่าสคูดิ
ในปีแรกที่เริ่มการก่อสร้างวิหารเซนต์ปีเตอร์สบาซิลิกาในปีค.ศ.1506 (พ.ศ.2049) โครงการนี้มีค่าใช้จ่าย 13,500 สคูดิ และในปีต่อมา มูลค่าก็พุ่งขึ้นเป็น 30,000 สคูดิ และตั้งแต่ค.ศ.1508-1510 (พ.ศ.2051-2053) ค่าใช้จ่ายก็ตกอยู่ที่ปีละ 15,000 สคูดิ
1
นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาภายในตัวอาคารอีกจำนวนมหาศาล ซึ่งบางส่วนก็ต้องใช้แรงงานนับร้อย ม้าอีกเกือบร้อยตัวในการขนย้ายพื้นที่ภายใน
ในปีค.ศ.1694 (พ.ศ.2237) พระสันตะปาปาทรงมีรับสั่งให้ “คาร์โล ฟอนตานา (Carlo Fontana)” สถาปนิกในยุคนั้น ให้คำนวณค่าก่อสร้างวิหารแห่งนี้
คาร์โล ฟอนตานา (Carlo Fontana)
ฟอนตานาได้คำนวณจากคุณภาพวัสดุที่ใช้ก่อสร้างและค่าขนย้ายรวมทั้งค่าฝีมือ ได้ตัวเลขออกมาเป็นจำนวน 46,800,498 สคูดิ
แน่นอนว่าตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ยังไม่สามารถฟันธงได้ เป็นเพียงการคำนวณคร่าวๆ เท่านั้น แต่เราลองมาดูกันดีกว่าว่าเงินจำนวนเท่านี้มีมูลค่ามากเพียงใดในยุคนั้น
เงินจำนวน 1 สคูดิสามารถซื้อไก่ได้ 28 ตัว แป้งทำอาหาร 50 กิโลกรัม และสามารถเช่าห้องพักขนาดกลางของโรมันได้หนึ่งเดือน
นายช่างก่อสร้างใหญ่จะได้รับค่าแรงเป็นเงินเดือนละห้าสคูดิ ส่วนศิลปินดังอย่าง “ราฟาเอล (Raphael)” ก็ได้รับเงินค่าจ้างกว่า 1,200 สคูดิในการสร้างผลงานเมื่อราว 100 ปีก่อนหน้า ส่วน “ไมเคิลแองเจโล (Michelangelo)” ซึ่งเสียชีวิตในปีค.ศ.1564 (พ.ศ.2107) โดยในขณะเสียชีวิตนั้น เขามีเงินเก็บราว 8,400 สคูดิ
ไมเคิลแองเจโล (Michelangelo)
พระสันตะปาปาเองก็มีรายได้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านสคูดิ ดังนั้นหากคิดตามที่ฟอนตานาประเมิน พระสันตะปาปาต้องเก็บเงินกว่า 19 ปีจึงจะมีเงินพอสร้างได้
แต่หากคิดตามค่าเงินปัจจุบัน คิดเป็นเงินดอลลาร์ อาจจะไม่ง่ายนัก
บริบทและการพัฒนาเศรษฐกิจในปัจจุบัน บวกกับภาวะเงินเฟ้อก็อาจจะทำให้การคิดคำนวณไม่ง่ายนัก แต่ก็มีการลองคิดแบบคร่าวๆ
เงินสคูดิที่ใช้ในรัฐสันตะปาปามีน้ำหนัก 3.38 กรัม 22 กะรัต ดังนั้นจะเป็นทองคำประมาณ 3.08 กรัม
ในปัจจุบัน ทองหนึ่งกรัมจะมีราคาประมาณ 63.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,200 บาท) ดังนั้นหนึ่งสคูดิก็น่าจะมีมูลค่าประมาณ 6,600 บาท แต่มูลค่าของเงินดอลลาร์ก็มีความแปรผันตามราคาทองคำ ดังนั้นนี่ก็อาจจะเป็นการประเมินได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
ดังนั้นก็อาจจะต้องมาคิดจากค่าแรง แรงงานก่อสร้างในกรุงโรมสมัยศตวรรษที่ 16 จะได้รับค่าแรงปีละประมาณ 40-50 สคูดิ ในขณะที่ปัจจุบัน แรงงานก่อสร้างในสหรัฐอเมริกาจะมีรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 35,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท)
หากลองคิดตามนี้ก็จะเท่ากับ 50 สคูดิ ดังนั้นหนึ่งสคูดิจะเท่ากับ 700 ดอลลาร์ (ประมาณ 25,000 บาท) ตามค่าเงินปัจจุบัน ดังนั้นหากคิดจากที่ฟอนตานาคำนวณ ก็จะคำนวณออกมาได้ตามค่าเงินปัจจุบันอยู่ที่ 32,760,348,600 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นตัวเลขกลมๆ ก็คือมากกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ (มากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท)
จำนวนนี้หากเทียบกับมูลค่าสิ่งก่อสร้างในปัจจุบัน ก็จะแพงกว่าอย่างไม่เห็นฝุ่น
“ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa)”ที่ดูไบซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 829.8 เมตร ก่อสร้างเสร็จในปีค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) และใช้งบประมาณในการก่อสร้างในเวลานั้นถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 52,800 ล้านบาท) แต่หากคิดตามค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ 2,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 74,000 ล้านบาท)
ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa)
ในขณะที่โรงงานของ “เทสลา (Tesla)” ที่เท็กซัส สหรัฐอเมริกา นั่นคือ “Gigafactory Texas” ซึ่งกว้างใหญ่ถึง 4.3 ล้านตารางฟุต ก็ใช้งบประมาณถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 352,000 ล้านบาท)
Gigafactory Texas
แต่ทั้งคู่ก็ยังใช้งบเทียบไม่ได้กับวิหารเซนต์ปีเตอร์สบาซิลิกานี้เลย
โฆษณา