1 ธ.ค. 2023 เวลา 05:30 • ธุรกิจ

Human vs AI : AI จะมาทดแทนคนได้จริงหรือไม่?

อ่านบทความฉบับเต็มคลิก : https://bit.ly/45qRi3p
เทรนด์การนำ AI มาใช้ทดแทนคนจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้คนต้องไปทำงานที่ได้ค่าจ้างที่น้อยลง หรือทำให้คนอาจตกงานได้ แต่จริงๆ แล้วนั้น AI สามารถทำงานแทนคน หรือนำ AI มาใช้แทนคนได้ทั้งหมดจริงๆ หรือไม่? หรือจริงๆ แล้วทั้ง AI และคนเองนั้นต่างมีจุดแข็งที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากนำ AI มาทำงานร่วมกันกับคน หรือที่เรียกกันว่า Augmented Intelligence จะช่วยให้คนทำงานได้ง่ายมากขึ้น จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น หาคำตอบไปพร้อมกับ AIGEN ในบทความนี้
AI มีวิธีการทำงานอย่างไร?
AI (Artificial intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์นั้นเป็นศาสตร์ของการสร้างคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องจักรให้ชาญฉลาด และอัจฉริยะได้เท่ากับ หรือมากกว่ามนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดเป็นการโต้เถียงกันว่าแล้วสรุปแล้วมนุษย์ หรือ AI ใครฉลาดกว่ากัน? โดยที่อัลกอริทึมของ Machine learning และ Deep learning นั้นได้ถูกออกแบบมาให้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และสามารถตัดสินใจได้แบบเดียวกันกับที่มนุษย์ทำ
นอกจากนั้น AI ได้มีการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา และจะยังคงได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการออกแบบ ฟังก์ชัน และความสำคัญในปีต่อๆ ไป
โดยที่ AI นั้นอาศัยรูปแบบ และฟีเจอร์การทำงานในชุดข้อมูล (data set) และวิเคราะห์แพทเทิร์น และฟีเจอร์การทำงานโดยการรวบรวมชุดข้อมูลขนาดใหญ่เข้ากับอัลกอริทึมการประมวลผลอันชาญฉลาด และทำวนซ้ำ ทุกครั้งที่ระบบ AI ประมวลผลข้อมูล AI ระบบจะทดสอบ และวัดประสิทธิภาพ และไดเรับความรู้ใหม่ โดยที่ AI เองนั้นมีประสิทธิภาพในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างมาก
เนื่องจากระบบ AI ไม่ต้องการเวลาพัก AI สามารถจัดการงานที่มีอยู่เป็นร้อย เป็นพัน หรือเป็นล้านให้เสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเรียนรู้ข้อมูลจำนวนมากได้ในระยะเวลาอันสั้น และมีความเชี่ยวชาญในการทำสิ่งที่ถูกเทรนให้ทำได้เป็นอย่างดี
Artificial intelligence VS Human intelligence แตกต่างกันอย่างไร
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Artificial intelligence VS Human intelligence
Artificial intelligence
AI เป็นวิทยาศาสตร์แบบสหวิทยาการในความหมายที่กว้างที่สุด โดยผสมผสานแนวคิด และวิธีการจากสาขาวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ศึกษาด้านสมอง ภาษาศาสตร์ จิตวิทยา ประสาทวิทยา และคณิตศาสตร์ โดย AI เป็นการสร้างให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องจักรให้สามารถเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ และทำเหมือนมนุษย์ได้ และซอฟต์แวร์ หรือเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำงานโดยอาศัยข้อมูล และคำสั่งที่ป้อนเข้าสู่ระบบ
Human intelligence
มนุษย์จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้ และความเข้าใจจากเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป และประสบการณ์ในอดีต อย่างไรก็ตามเป็นเพราะว่า AI นั้นไม่สามารถคิดได้ จึงทำให้ตามหลังมนุษย์อยู่ในเรื่องนี้ ความสามารถในการคิดรวมเข้ากับความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความตระหนักรู้ในตนเอง ความหลงใหล และความปรารถนา ทำให้มนุษย์มีความเชี่ยวชาญในการทำงานที่ซับซ้อนได้ดี
โดย Human intelligence นั้นจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ โดยการรวมการทำงานของกระบวนการรับรู้ต่างๆ เข้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์นั้นจะเป็นดิจิทัล ส่วนสมองของมนุษย์ก็มีความคล้ายคลึงกัน โดยมนุษย์จะพึ่งพาความทรงจำ พลังของการประมวลผล และความสามารถในการคิดนั่นเอง
5 สิ่งที่ AI ทำได้ดีกว่าคน
1. งานที่ต้องทำแบบซ้ำๆ ไปซ้ำมา
เราทุกคนต่างต้องมีงานที่เป็นงานที่ต้องทำซ้ำๆ ไปมา หรือที่เรียกว่าเป็นงานรูทีน ตัวอย่างเช่น การกรอกข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารเข้าไปในระบบ การตรวจสอบคำผิดในเอกสาร การส่งอีเมลขอบคุณ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเราสามารถนำ AI มาช่วยทำให้งานที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมาเหล่านี้ให้ทำได้แบบอัตโนมัติ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้งานที่น่าเบื่อหมดไป ซึ่งจะทำให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ และความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น
2. การตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ AI ทำได้เป็นอย่างดี โดย AI สามารถทำให้หน้าที่งานบางอย่างทำได้แบบอัตโนมัติ และให้ข้อมูลเชิงลึกได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยทำให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และมีข้อมูลในการตัดสินใจมากขึ้น โดยที่ความสามารถด้านนี้ของ AI จะยิ่งมีคุณค่าเมื่อนำมาใช้กับสภาพแวดล้อมการตัดสินใจที่มีการเดิมพันสูง ซึ่งในทุกๆ การตัดสินใจต้องตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสูง หรือช่วยชีวิตผู้คนได้
3. การระบุรูปแบบ หรือแพตเทิร์น
Pattern identification หรือการระบุรูปแบบเป็นอีกหนึ่งสาขาที่ AI มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และสามารถระบุถึงรูปแบบ และเทรนด์ ทำให้ช่วยธุรกิจ และองค์กรให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้า เทรนด์ตลาด และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ส่งผลกับธุรกิจได้ดีมากยิ่งขึ้น
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยทำให้ผู้บริหาร หรือผู้ที่ต้องใช้ข้อมูลสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น และยกระดับผลลัพธ์ทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การนำ AI มาใช้ในการตรวจจับการฉ้อโกง โดยที่อัลกอริทึมของ Machine learning จะสามารถระบุถึงรูปแบบ และความผิดปกติของข้อมูลธุรกรรมที่มีอยู่ได้ เพื่อตรวจจับ และป้องกันการฉ้อโกง และการทุจริต ซึ่งจะช่วยยกระดับความปลอดภัย และลดความเสียหายทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งสำหรับบุคคล และองค์กร
4. Unbiased Decisions
มนุษย์นั้นมักจะถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ความรู้สึกไม่ว่าเราจะชอบ หรือไม่ชอบก็ตาม แต่ในทางตรงกันข้าม AI นั้นไม่มีเรื่องของอารมณ์ และความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง และใช้แนวทางที่ปฏิบัติได้จริง และมีเหตุมีผลสูง และถือเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่สำคัญของ AI คือ AI ไม่มีมุมมองที่มีอคติ ซึ่งช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น
5. ทำงานได้แบบไม่ต้องหยุดพัก
จากการศึกษาพบว่ามนุษย์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากคนต้องการเวลาพัก และวันหยุดเพื่อหาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว แต่ AI เองนั้นสามารถทำได้ยาวแบบไม่ต้องหยุดพัก และยังคิด และประมวลผลข้อมูลต่างๆ ได้เร็วกว่ามนุษย์ และทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันโดยได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ หรือ AI เองนั้นยังสามารถจัดการงานรูทีนที่ต้องแบบซ้ำไปซ้ำมาได้อย่างง่ายดายด้วยความสามารถของอัลกอริทึม AI นั่นเอง
5 สิ่งที่ AI ไม่สามารถทดแทนคนได้
1. ข้อมูลทางประสาทสัมผัส
มนุษย์เรานั้นใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อยู่ตลอดเวลา โดยที่ไม่มี AI หรือหุ่นยนต์ไหนที่จะสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดนนี้ได้เหมือนกับมนุษย์ จึงทำให้ AI มีประโยชน์ในการที่จะช่วยในการประมวลผลข้อมูลเท่านั้น
2. ความคิดสร้างสรรค์
AI จะสามารถเขียนบทกวีที่ถ่ายทอดอารมณ์เชื่อมโยงกับคำได้เหมือนกับที่มนุษย์เขียนหรือไม่? หรือสามารถสรรค์สร้างงานศิลปะที่อาจจะไม่เพอร์เฟค แต่ยังสามารถสัมผัสถึงจิตวิญญาณของคุณได้หรือไม่? มนุษย์สามารถเทรนให้ AI แสดงออก หรือทำอะไรบางอย่างได้เหมือนกับมนุษย์ แต่เราไม่สามารถเทรน หรือฝึกให้ AI พัฒนาด้านบุคลิกภาพได้
3. เหตุผลเชิงตรรกะ
คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลตรรกะ และข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถสร้างสิ่งต่างๆ หรือสร้างความรู้ใหม่ๆ เหมือนที่มนุษย์ทำได้ ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวที่ AI มีคือไม่มีข้อจำกัดทางชีวภาพ คุณสามารถเทรนให้คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องจักรได้หากคุณรู้กฎทั้งหมดล่วงหน้า
4. การตัดสินใจ
เมื่อพูดถึงการตัดสินใจมนุษย์จะมีลำดับความคิดที่สูงกว่า AI มาก ซึ่งทำให้มนุษย์สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูก และอะไรผิด และเมื่อมนุษย์ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเราใช้การประมวลผลข้อมูล และการจำลองที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ซึ่งไม่มีเครื่องจักร หรือระบบใดสามารถทำได้
5. สัญชาตญาณ
มนุษย์ใช้การพัฒนาทางสติปัญญา และมีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และสัญชาตญาณ ซึ่งทำให้มนุษย์สามารถจำลองสถานการณ์ในทุกๆ รูปแบบในสมองของเราได้ภายในไม่กี่วินาที
มีอีกหลายมิติที่มากกว่าการประมวลผลข้อมูลที่ทำให้มนุษย์นั้นเหนือกว่า AI มาก มนุษย์ไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่เพราะมนุษย์สร้างพลังงานขึ้นมาใช้เองได้ เรามีพลังงานทางอารมณ์ที่ขับเคลื่อนเราให้เกินขอบเขตของความเป็นไปได้ และมนุษย์เองนั้นใช้การพัฒนาทางสติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และสัญชาตญาณที่ช่วยจำลองสถานการณ์ทุกประเภทในสมองของเราได้ในภายในไม่กี่วินาที เหนือสิ่งอื่นใด เราสืบพันธุ์เพื่อความอยู่รอดและถ่ายทอดความรู้ที่อยู่ในตัวเราไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานของเราได้
Human vs AI : แล้ว AI จะมาทดแทนคนได้จริงหรือไม่?
หลังจากที่อ่านเนื้อความด้านบนกันแล้ว เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านน่าจะพอได้คำตอบกันบ้างแล้วว่า AI เองนั้นไม่สามารถที่จะมาทดแทนมนุษย์ได้ในเรื่องที่กล่าวไว้โดยเฉพาะในด้านของ Soft skills และทักษะที่ AI มี กับทักษะที่มนุษย์มีนั้นก็เป็นทักษะที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากนำ AI มาทำงานร่วมกันกับมนุษย์ หรือที่เรียกกันว่า Augmented Intelligence จะทำให้คนทำงานได้ง่าย ลดภาระงานบางอย่าง และทำให้คนมีเวลาที่จะโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และงานเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น
Think AI Think AIGEN
ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการนำ AI ไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIGEN ได้ที่
· Facebook : AI GEN : ไอเจ็น
· Line : @aigen
โฆษณา