24 พ.ย. 2023 เวลา 06:38 • ข่าว

เคร์ต วิลเดร์สว่าที่ผู้นำเนเธอร์แลนด์ที่อาจกลายเป็นฝันร้ายของยุโรป

กับนโยบายขวาตกขอบ ต่อต้านมุสลิม และ NEXIT
2
เมื่อสัปดาห์ทีผ่านมา อาร์เจนตินา เพิ่งได้ผู้นำคนใหม่นาม จาร์เวียร์ มิลเล ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ทรัมพ์แห่งอาร์เจนตินา" ผู้นำเสนอนโยบายแบบสุดโต่งโละทิ้งเงินเปโซ เพื่อเปลี่ยนมาใช้ดอลลาร์สหรัฐในประเทศทั้งระบบ จนเป็นที่ฮือฮามาแล้ว
ล่าสุด ที่เนเธอร์แลนด์ หลังจากปิดหีบนับคะแนนเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า เคร์ต วิลเดร์ส ที่ได้ฉายาว่าเป็น "ทรัมพ์แห่งเนเธอร์แลนด์" จากพรรคเพื่อเสรีภาพ (PVV) สามารถคว้าชัยได้อย่างถล่มทลาย สามารถกวาดที่นั่งในสภาได้ถึง 37 ที่นั่งจาก 150 ที่นั่ง และได้สิทธิ์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้
3
แม้ตัวเลขโดยรวมจะดูไม่เยอะ แต่นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของเนเธอร์แลนด์ ที่ได้พรรคที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมขวาจัด ขวาสุดๆ สะดุดตกขอบขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาล แถมได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึง 20 ที่นั่ง เพิ่มมากที่สุดในบรรดาพรรคที่ลงแข่งขันเลือกตั้งในครั้งนี้ ฉีกทุกโพล หักทุกปากกาเซียนของทุกสำนักในเนเธอร์แลนด์
1
ซึ่งผลการเลือกตั้งที่เมืองดัตช์ ยังสร้างความกังวลไปทั้งยุโรป จนบางสื่อถึงกับพาดหัวว่า เคร์ต วิลเดร์ส คือฝันร้ายสุดๆของชาว EU นับจากนี้
เพราะนอกจากจะปลุกกระแสการเมืองแนวขวาจัดแบบ
ทรัมพ์ๆ กลับมาแล้ว เคร์ต วิลเดร์ส ยังประกาศว่าเขาจะทำประชามติ NEXIT พาเนเธอร์แลนด์ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปตามอังกฤษไปอีกประเทศ ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้เสียด้วย เพราะ เคร์ต วิลเดร์ส ได้ชูนโยบายสำคัญให้ชาวเนเธอแลนด์ต้องตัดสินใจเลือก นั่นคือ การหยุดรับผู้ลี้ภัย โดยเฉพาะชาวมุสลิมเข้าประเทศ
2
เคร์ต วิลเดร์ส เป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดขวาจัดรุนแรง และแสดงออกชัดเจนว่าต่อต้านชาวมุสลิม ซึ่งเขาเคยประกาศว่าจะยกเลิกการรับผู้ลี้ภัยจากประเทศมุสลิม แบนการสร้างโรงเรียนสำหรับชาวมุสลิม โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม และสุเหร่าในประเทศ ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบเสรีสำหรับแรงงานจาก EU และที่สำคัญคือ เขาจะยกเลิกการสนับสนุนด้านการทหารให้กับยูเครน และจะใช้สิทธิ์ที่มีของเนเธอร์แลนด์ เขี่ย ตุรเคีย ออกจาก NATO ให้จงได้
3
และเพราะต่อต้านอิสลาม เคร์ต วิลเดร์ส จึงมีจุดยืนสนับสนุนอิสราเอลอย่างเปิดเผย และตั้งใจว่าจะย้ายสถานทูตเนเธอร์แลนด์ จากกรุงเทล-อาวีฟ ไปตั้งใหม่ที่นครเยรูซาเล็ม ตามอย่างโดนัลด์ ทรัมพ์ อดีตผู้นำสหรัฐ และจะปิดสำนักงานด้านการทูตที่ตั้งอยู่ที่เมืองรอมัลลอฮ์ ในเขตเวสต์แบงค์ ของปาเลสไตน์ด้วย
2
แต่ในตอนนี้เคร์ต วิลเดร์ส ทำไม่ได้ แม้จะเป็นผู้นำเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม เพราะผิดกฎหมายหลายอย่างตามธรรมนูญของ EU ดังนั้นหนทางเดียวที่จะทำให้นโยบายสุดโต่งของเขาสำเร็จคือต้องพาเนเธอร์แลนด์ออกจาก EU ซ่ะ
1
แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น เคร์ต วิลเดร์ส ก็ต้องตั้งรัฐบาลของเขาให้ได้ก่อน เพราะจำนวนคะแนนเสียง 37 ที่นั่งยังห่างไกลจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ต้องได้เสียงเกิน 76 จาก 150 ที่นั่งในสภา
2
ดังนั้น จึงต้องไปหาพรรคร่วมมาจัดตั้งรัฐบาลผสม ที่ก็ไม่ได้จำกัดเวลาตายตัวเสียด้วย เพราะจากการเลือกตั้งคร้้งที่ผ่านมา มาร์ก รูตต์ ผู้นำคนปัจจุบันก็ใช้เวลานานถึง 271 วันกว่าจะตั้งรัฐบาลของเขาได้สำเร็จเหมือนกัน และตราบใดที่ เคร์ต วิลเดร์ส ยังรวบรวมเสียงข้างมากไม่ได้ ผู้นำคนปัจจุบันก็จะดำรงตำแหน่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ไม่ร้อน
1
และในโลกการเมือง ก็พิสูจน์ให้เห็นหลายครั้งแล้วว่าพรรคการเมืองที่ชนะด้วยคะแนนเสียงมากที่สุด ก็ใช่ว่าจะได้สิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล หรือ กำหนดตัวผู้นำประเทศได้เสมอไป
5
แต่การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ หรือที่ก่อนหน้านั้นที่อิตาลี ก็เป็นการส่งสัญญาณแรง ถึงกระแสการเมืองแนวอนุรักษ์นิยมขวาจัดกำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลังชาวยุโรปผ่านเหตุการณ์หนักๆมาหลายปี ทั้งสงครามในยุโรป สงครามนอกยุโรป ปัญหาเศรษฐกิจ การบริหารสวัสดิการรัฐ และความรุนแรง แตกแยกในสังคมที่ผ่านมา ที่ทำให้นโยบายการเมืองแบบทรัมพ์แฟรนไชส์ โดนใจชาวประชานิยมยังขายได้นั่นเอง
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา