Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
27 พ.ย. 2023 เวลา 08:26 • ประวัติศาสตร์
คนในสมัยโบราณมองว่าอนาคตเป็นอย่างไร?
หนึ่งในคำถามของประวัติศาสตร์ที่น่าคิดและน่าสนใจก็คือ
“คนในสมัยก่อนมองอนาคตหรือทำนายอนาคตว่าอย่างไร?”
เรามาเริ่มจากคำทำนายของ “แซแนกาผู้ลูก (Seneca the Younger)” นักปรัชญาในสมัยโรมันโบราณและมีชีวิตอยู่ในรัชสมัยของ “จักรพรรดิเนโร (Nero)”
แซแนกาคิดว่าจุดจบของโลกจะมาจากน้ำท่วมโลก โดยฝนที่ตกติดต่อกันจะทำให้น้ำจำนวนมหาศาลทำลายทุกอย่างบนโลก และมีเพียงผู้รอดชีวิตไม่กี่รายเท่านั้นจึงจะสามารถขึ้นไปถึงยอดเขา แต่สุดท้ายก็จะตายจากความหิวโหยอยู่ดี
แซแนกาผู้ลูก (Seneca the Younger)
แซแนกายังกล่าวอีกว่าหลังจากน้ำท่วมใหญ่ ก็ถึงจุดเริ่มต้นใหม่ของมวลมนุษย์ หากแต่กิเลสของมนุษย์จะยังคงอยู่ และโลกก็จะวนกลับมาที่น้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง วนไปมาเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่ามุมมองอนาคตของคนยุคโบราณนั้นแตกต่างจากคนในปัจจุบ้น ในปัจจุบัน เราเชื่อว่าอนาคตนั้นจะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งนี่ก็คือแนวคิดที่กำเนิดมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ในศตวรรษที่ 19 และทำให้วิทยาการเทคโนโลยีต่างๆ ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด
ในขณะเดียวกัน นักคิดชาวกรีกหลายคนก็ทำนายอนาคตโดยดูจากวัฏจักรของสังคมในอดีต เช่น “โพลิเบียส (Polybius)” นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกก็ได้ให้แง่มุมของวงจรการบริหารประเทศซึ่งทุกดินแดนต้องเคยผ่านมาก่อน
1
ด่านแรกก็คือระบอบกษัตริย์ ซึ่งจะมีบุคคลหนึ่งที่ทรงอิทธิพลก้าวขึ้นสู่อำนาจ และด่านสุดท้ายก็คือการปกครองโดยประชาชน ซึ่งประชาชนจะทำการต่อต้านและไม่ยอมรับกษัตริย์ ยึดอำนาจจากกษัตริย์ในที่สุด
โพลิเบียส (Polybius)
นักปรัชญาโบราณบางรายยังประยุกต์แนวคิดเข้ากับเรื่องของจักรวาล เช่น “เฮราคลิตัส (Heraclitus)” นักปรัชญาชาวกรีกโบราณ เชื่อว่าทุกๆ สิ่งล้วนเกิดขึ้นและดับสูญกลายเป็นลูกไฟที่ลุกโชนชั่วนิรันดร์
นักปรัชญาในเวลาต่อมาก็เชื่อว่าจักรวาลจะถูกลูกไฟขนาดมหึมากลืนกินในทุกๆ รอบ 1,000 ล้านปี และประวัติศาสตร์ก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
คนในยุคนั้นยังไม่ได้คิดถึงเรื่องเทคโนโลยีหรือวิทยาการความก้าวหน้าในอนาคต ซึ่งบางที เรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยีก็อาจจะเป็นสิ่งที่เหนือล้ำจินตนาการของผู้คนในยุคนั้นก็เป็นได้
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้คนก็เชื่อว่าการค้นพบอะไรใหม่ๆ จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของตนนั้นดีขึ้น
เฮราคลิตัส (Heraclitus)
“พลินีผู้อาวุโส (Pliny the Elder)” นักเขียนชาวโรมัน ได้จัดทำลิสต์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ โดยเรียงตามลำดับตัวอักษร แสดงให้เห็นถึงความรู้ที่มาจากการค้นพบของผู้คนในสมัยนั้น
และเมื่อพูดถึงอนาคต ชาวกรีกหรือโรมันโบราณก็มักจะนึกถึงการเมืองหรือจริยธรรมของผู้คนในอนาคตที่จะดีขึ้นกว่าคนในสมัยตน ไม่ได้คิดถึงเรื่องวิทยาการหรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากนัก โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คงจะเป็น “คัลลิโพลิส (Kallipolis)” เมืองในจินตนาการของ “เพลโต (Plato)” นักปรัชญาชาวกรีกโบราณ ซึ่งได้เขียนเล่าเรื่องราวของเมืองคัลลิโพลิสลงในงานเขียน “อุตมรัฐ (Republic)”
ชาวโรมันก็รับเอาความเชื่อเรื่องอนาคตมาจากกรีก ผนวกเข้ากับการเมืองของตน ตัวอย่างก็เช่น หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐโรมัน สาธารณรัฐโรมันก็ได้เปลี่ยนเป็นจักรวรรดิเมื่อ “จักรพรรดิออกัสตัส (Augustus)” ขึ้นสู่อำนาจเมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาล
จักรพรรดิออกัสตัส (Augustus)
กวีชาวโรมันหลายคนเชื่อว่ารัชสมัยของจักรพรรดิออกัสตัสเป็นช่วงเวลาที่สงบสุข ไม่มีสงคราม เป็นเหมือนกับลูปเวลาที่วนกลับมา
ก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะล่มสลาย หลายคนเป็นห่วงเรื่องความเสื่อมโทรมในอนาคต โดยชาวโรมันเชื่อว่าบรรพบุรุษนั้นมีชีวิตที่เรียบง่ายและมีศีลธรรมอันดี คอยป้องกันการคดโกงในสังคม และความละโมบ โดยเฉพาะความละโมบที่เกิดจากผู้นำหรือผู้มีอำนาจ จะนำพาความพินาศมาสู่สังคม
ทางด้านชาวมายา (Maya) ก็มีวิธีในการดูวันเวลาและยังมีความเชี่ยวชาญเรื่องของดวงดาว
ชาวมายามีวงล้อมเวลาที่เรียกว่า “แบ็กทัน (Baktun)” ซึ่งในหนึ่งรอบจะมีเวลายาวนานเกือบ 394 ปี โดยปฏิทินพิเศษของชาวมายาแสดงให้เห็นว่าแบ็กทันที่ 13 จะสิ้นสุดในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555)
แบ็กทัน (Baktun)
ด้วยเหตุเช่นนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าชาวมายาทำนายวันสิ้นสุดมนุษยชาติ แต่อันที่จริงก็คือการเริ่มเข้าสู่วังวนใหม่ เริ่มต้นยุคใหม่สำหรับชาวมายา
ชาวมายาจะจดบันทึกถึงช่วงเวลาที่ทำการเพาะปลูก พระราชกรณียกิจขององค์กษัตริย์ และยังมีการจัดงานเลี้ยงและสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ
ชาวมายาเชื่อว่าพระเจ้านั้นมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน และผู้คนก็ต้องปฏิบัติตนให้ดี โดยเชื่อว่าหากผู้คนปฏิบัติตนไม่ดี เมื่อวงล้อชีวิตหมุนเวียนมาบรรจบ เรื่องร้ายๆ ก็อาจจะเกิดขึ้น
นี่ก็คือเรื่องราวมุมมองของผู้คนในสมัยโบราณที่มีต่ออนาคต
References:
https://medium.com/lessons-from-history/what-ancient-people-thought-the-future-would-be-like-8ba4560665a8
https://worldhistory.medium.com/three-strange-ways-that-ancient-people-told-the-future-e14d85dea3d2
https://www.thearchaeologist.org/blog/what-did-the-romans-think-the-future-would-be-like
https://www.history.co.uk/articles/ancient-greek-methods-for-predicting-the-future
ประวัติศาสตร์
7 บันทึก
16
2
7
16
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย