29 พ.ย. 2023 เวลา 03:36 • ธุรกิจ

ตลาดงาน AI ว่าแรงแล้ว สายงาน Green Job ยิ่งแรงกว่า

ใช่จะมีแค่เพียงเทรนด์ "เศรษฐกิจ AI" เป็นขุมทองใหม่ของโลก ยังมีเทรนด์ "เศรษฐกิจสีเขียว" ที่เป็นอีกหนึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่เช่นกัน
ถ้าถามว่าตอนนี้โอกาสการลงทุนทางเศรษฐกิจใหม่ๆของไทย คืออะไร ทุกสำนักวิจัยทางเศรษฐกิจพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เศรษฐกิจสีเขียว" อย่างการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน การลงทุนอาหารเพื่ออนาคต การลงทุนด้านการกำจัดขยะ การสร้างบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น
แน่นอนว่าเมื่อเศรษฐกิจสีเขียวเป็นโอกาสของประเทศไทย มีการคาดการณ์ว่าตลาดแรงงานของภาคธุรกิจสีเขียวจะมีกลุ่มงานอาชีพที่น่าจับตามองในปี 2024 อ้างอิงจากรายงาน เจาะเทรนด์โลก 2024 โดย TCDC ระบุว่า 5 ประเภทงานสายสีเขียวหรือ Green Job นี้จะเป็นเทรนด์ในปีหน้า
1. ผู้จัดการฝ่ายความยั่งยืน (Sustainability Manager) ผู้จัดการด้านความยั่งยืน หรือหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน มีหน้าที่วิเคราะห์ผลกระทบทางนิเวศวิทยาและสังคมของบริษัท และมีบทบาทพัฒนากลยุทธ์ในการปรับโมเดลธุรกิจ และการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการผลิตแบบหมุนเวียน และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบให้กับองค์กร
2. ช่างเทคนิคกังหันลม (Wind Turbine Technician) บทบาทนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตั้งใช้งาน บำรุงรักษา และซ่อมแซมกังหันลม ข้อมูลจากสมาคมพลังงานโลก (World Wind Energy Association : WWEA) บอกว่ามูลค่าธุรกิจกังหันลมในตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2021 มีกังหันลมที่มีกำลังการผลิตรวม 97.5 กิกะวัตต์ได้ถูกติดตั้งทั่วโลก
3. นักนิเวศวิทยา (Ecologist) นักนิเวศวิทยาทำหน้าที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพืช สัตว์ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อม โดยสำรวจผลกระทบที่ต่างฝ่ายมีต่อกัน รวมถึงศึกษาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุและพัฒนาวิธีการแก้ไข
4. ที่ปรึกษาด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Consultant) ตำแหน่งนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เนื่องด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตหมุนเวียนทั่วโลกในปี 2020 ขยายตัวมากกว่า 45% จากปี 2019 ที่ปรึกษาด้านพลังงานแสงอาทิตย์ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือลูกค้า ทั้งเชิงพาณิชย์และเอกชนในการเลือกระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามความต้องการ
5. ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (Environtmental Health and Safety Specialist) ตำแหน่งนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบและติดตามเทคโนโลยี เครื่องจักร และกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมที่กำหนดโดยรัฐบาลระดับชาติ และนานาชาติ และเป็นไปตามมาตรฐานของธุรกิจ โดยจำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับนโยบาย และข้อกำหนดในหลายอุตสาหกรรม
ใครอยากเป็นมนุษย์ทองคำในตลาดแรงงานสายนี้ หรือกำลังวางแผนการเรียนเพื่อมีหน้าที่การงานที่มั่นคงปลอดภัยได้ยาวๆในโลกที่ผันผวนเปลี่ยนเร็วแบบนี้ ก็อย่าเพิ่งเมินหน้าหนี หรือเอียนเวลาได้ยินธุรกิจหรือใครๆ พากันแห่พูดเรื่อง "ความยั่งยืน" เพราะสุดท้ายการมีความรู้ความเข้าใจด้านความยั่งยืน (Sustainability Literacy) จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
เพราะกฎกติกาโลกกำหนดให้ทุกธุรกิจต้องหันมาปรับปรุงประสิทธิภาพทำธุรกิจที่ไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อระบบนิเวศ ต้องปรับปรุงการใช้พลังงานและทรัพยากร ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดของเสียในกระบวนการผลิต และมีหน้าที่ต้องร่วมรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ตอนนี้รัฐบาลในหลายประเทศเลยหันมาส่งเสริมแนวคิดนี้ในสถานการศึกษา ปรับปรุงรายวิชาในโรงเรียน และมหาวิทยาลัย ให้มีหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสภาพภูมิอากาศในโปรแกรมการศึกษาแล้ว จะเห็นว่าระบบการศึกษาในต่างประเทศเริ่มหันมาสร้างหลักสูตรใหม่ ๆ ที่มุ่งแก้วิกฤตเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และหลักสูตรพวกนี้พอไปดูรายละเอียด ไม่ได้สอนแค่ออกไปทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่สอนกันในระดับปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์ธรรมชาติกันเลยทีเดียว
เมื่อต้นปีนี้คณะกรรมาธิการยุโรปออกข้อเสนอให้นำเรื่องความยั่งยืนมาเป็นส่วนหลักและจำเป็นของระบบการศึกษา รวมถึงการฝึกอบรมผู้คนในด้านนี้เพิ่มขึ้น ยังมีตัวอย่างจากประเทศสิงคโปร์ ที่กระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาเปิดตัวโครงการ Eco Stewardship เป็นกิจกรรมด้านการศึกษาที่จะส่งเสริมความยั่งยืนในโรงเรียน และเป็นส่วนหนึ่งของแผน Singapore Green Plan 2030
ในอเมริกามีการจ้างงานในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นถึง 237% ตัวเลขสูงขนาดนี้ไม่ได้ตาฝาด เป็นการเพิ่มที่นับรวมตั้งแต่ปี 2017 - 2022 สะท้อนให้เราเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจสีเขียว ยิ่งถ้าไปเทียบกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลและก๊าซธรรมชาติส่วนนี้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 19%
ขณะที่ถ้าดูในรายงาน Global Green Skills โดย LinkedIn ระบุว่า มีการจ้างงานคนที่มีความรู้และทักษะสีเขียวเพิ่มขึ้น 6% โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ที่มีความต้องการตำแหน่งอย่าง "ผู้จัดการด้านความยั่งยืน" เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2015-2021 โดยในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 40% จีน 33% และออสเตรเลีย 24%
นอกจากนี้ กลุ่มคนทำงานที่มีพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เช่น นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม นักชีววิทยา นักอุทกวิทยา และนักชีวเคมี จะมีบทบาทสำคัญในการประยุกต์ความรู้ตัวเองมาช่วยจัดการและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
ตอนนี้ใครที่มีความรู้ มีทักษะสีเขียว หรือลงทุนเสริมความรู้ด้าน Green Skill เพิ่มเข้ามาได้ และยังมีมุมมองที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วยแล้ว ก็จะเป็นความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคตแน่นอน
#TODAYBizview
#MakeTomorrowTODAY
โฆษณา