ล้างก้น ล้างใจ ไปนิพพาน ตอนที่ 2
หน่วยฝึกวัจกุฏีวัตร (ห้องน้ำ)
#ธรรมทาน #ธรรมะ
#ไทยแลนด์ #ธรรมชาติ
#ข้อคิด #ความรู้
#คำสอน #ทุกคน
#วัยรุ่น #ปราจีนบุรี
#สระแก้ว #นครพนม
#asia #shorts
#word #thailand
#international #funny
หน่วยฝึกวัจกุฏีวัตร
* ที่มาของวัจกุฏิวัดร
* แนวคิดความประพฤติการใช้ห้องสุขา
* ความประพฤติการใช้ห้องสุขาของพระภิกษุ
* ข้อแนะนำเบื้องต้นการใช้ห้องสุขา
** ระดับความประพฤติการใช้ห้องสุขาของ พระกำลังฝึกตัว พระตั้งใจฝึกตัว และพระดันแบบ
*บทฝึกวัจกุฏวัตรสำหรับพระกำลังฝึกตัว
* บทฝึกวัจกุฏิวัตรสำหรับพระตั้งใจฝึกตัวและพระต้นแบบ
* การจัดกระบวนการเรียนรู้การฝึกตัวผ่านวัจกุฏวัตร
* การติดตามให้กำลังใจการฝึกตัวผ่านวัจกุฏิวัตร
* การประเมินผลการฝึกตัวผ่านวัจกุฏวัตร
ที่มาของวัจกุฏีวัตร
เกริ่นนำ
ก่อนการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งโลกไม่เคยมีใครทราบ มาก่อนเลยว่า ทุกชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ไม่เว้นแม้แต่เทวดานางฟ้า
ล้วนตก อยู่ภายใต้กฎธรรมชาติที่เป็นจิตภาพกฎหนึ่งทั้งสิ้นที่คอยติดตามควบคุม ความสุข ทุกข์ของสัตว์โลกอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก กฎนั้นก็คือกฎแห่งกรรม ซึ่งมีกฏว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
อย่างดีชาวโลกผู้มีการศึกษา ช่างสังเกตในยุคก่อนพุทธกาลนั้นจะรู้จักก็ แต่เพียง กฎธรรมชาติที่เป็นกายภาพ เป็นกฏวิทยาศาสตร์ที่ควบคุมความเป็นไป
ของธรรมชาติสิ่งแวดล้อมทั่วๆไป เช่น กฏว่าด้วยข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ กฏว่าด้วยฤดูกาลในรอบปี กฎเกี่ยวกับน้ำขึ้นน้ำลง ลมบกลมทะเล เป็นต้น
ไม่ว่ากฎธรรมชาติที่เป็นจิตภาพหรือที่เป็นกายภาพก็ตาม ล้วนไม่มีการ ติดประกาศแจ้งให้ชาวโลกทั้งคนและสัตวได้ทราบทั่วถึงทั้งสิ้น แต่ก็มีผลเป็น ทุกข์-สุข ความเป็น-ความตายของชาวโลกได้
การจะทราบความจริงถึงกฎธรรมชาติแต่ละชนิด จึงต้องอาศัยความ ช่างสังเกตของผู้คนแต่ละยุคสะสมไว้ในสังคม แล้วถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไปซึ่ง
กว่าจะสังเกตให้รู้ความจริงได้แต่ละกฎ ล้วนยากเข็ญชนิดเลือดตาแทบกระเด็น ทั้งสิ้น และตลอดทุกยุคที่ผ่านมา
ชาวโลกสังเกตได้ส่วนมากก็เป็นกฎธรรมชาติ ที่เป็นกายภาพคืออาศัยสัมผัส ๕ ทางกายของท่านผู้รู้ที่เป็นนักปราชญ์ในยุคนั้นๆ
เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งมีพื้นฐานทางจิตใจงามเป็นหลัก แต่ไม่เคยมีใครใจสะอาดบริสุทธิ์พอ จะสัมผัสรู้เห็นกฎธรรมชาติที่เป็นจิตภาพ
เช่น กฎแห่งกรรมได้เลย จะมีก็แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเปี่ยมล้นด้วย พระบริสุทธิคุณและพระปัญญาธิคุณเท่านั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพบความจริงของกฎแห่งกรรมว่า มีความ สลับซับซ้อนเหลือประมาณ
ในการควบคุมการดำเนินชีวิตของชาวโลกให้มี ความสุข ความทุกข์ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ใน “ปฐมสัญเจตนิกสูตร” ความว่า
“ภิกษุทั้งหลาย เรายังไม่รู้วิบากกรรม จะไม่กล่าวถึงความสิ้นสุด แห่งกรรมที่สัตว์เจตนาทำขึ้น สั่งสมขึ้น ก็วิบากนั้นเอง ที่สัตว์ฟังเสวย
๑) ในปัจจุบันก็มี
๒) ในอัตภาพถัดไปก็มี หรือ
๓) ในอัตภาพต่อๆ ไปก็มี"
จากพุทธดำรัสนี้ สะท้อนให้เห็นว่า
๑) กรรมใดที่สัตว์โลกทำไว้ ไม่ว่าทางกาย วาจา หรือใจ จะมากหรือน้อย หนักหรือเบาล้วนมีวิบาก คือ มีผล
๒) ผลของกรรม มีทั้งส่งผลในปัจจุบันชาติก็มี ส่งผลชาติหน้าก็มี และ ส่งผลชาติต่อๆ ไปก็มี ดังนั้น เรื่องชาตินี้ ชาติหน้า จึงมีจริง ตายแล้วไม่สูญ การ เวียนว่ายตายเกิดมีจริง เพราะ เป็นผลของกรรม หาใช่มีเทวดา ภูติผีปีศาจ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหนบันดาลไม่
๓) กรรมที่ทำ สั่งสมไว้ได้ และล้วนมีผลทั้งสิ้น
ก็สัตว์โลกเวียนว่ายตายเกิดมาแล้วไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ แต่ละชาติก็ล้วน
ทำกรรมไว้ทั้งสิ้น กรรมของสัตว์โลกแต่ละชีวิตจึงมีจำนวนมากมา
ก็สัตว์โลกเวียนว่ายตายเกิดมาแล้วไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ แต่ละชาติก็ล้วน ทำกรรมไว้ทั้งสิ้น กรรมของสัตว์โลกแต่ละชีวิตจึงมีจำนวนมากมายเหลือ
ติดตามตอนต่อไป
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
