Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
History With Me
•
ติดตาม
3 ธ.ค. 2023 เวลา 16:47 • ประวัติศาสตร์
4 เหตุการณ์น่าศึกษาในประวัติศาสตร์
ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำเหตุการณ์น่าศึกษาในประวัติศาสตร์กันโดยที่ผมได้หยิบยกมา 5 เหตุการณ์ โดยทั้งหมดที่ผมเลือกผมได้เลือกตามความนิยมและคุณค่าที่ได้หลังจากการศึกษา ที่สามารถเป็นหัวข้อในพูดคุยสานสัมพันธ์กับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ด้วยกันเอง หรือพูดคุยกับคนอื่นที่มีความสนใจเดียวกันโดยการเชื่อมโยงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์กับความสนใจของคู่สนทนา เพื่อให้การพูดคุยและการทำความรู้จักกันเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกมากขึ้น!
เหล่านักปราชญ์ในยุคเรเนซองส์
ยุดเรเนซองส์ หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ความเด่นของยุคก็ตรงตามชื่อเลย คือเป็นยุคที่มีการฟื้นฟู”ศิลปะ”กับ”วิทยาการ”และ”หลักการคิดแบบมีเหตุผล”จากยุคกรีก-โรมัน ที่ถูกลืมเลือนในช่วงของยุคกลาง นอกจากจะมีการนำของเก่าจากอดีตนำมาใช้อีกครั้ง ก็ยังเป็นยุคที่มีสิ่งใหม่ๆถูกคิดค้นขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น แท่นพิมพ์,กายวิภาคศาสตร์(Anatomy),เทคนิคการวาดรูป,องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ทำให้ยุคนี้มีเรื่องราวที่เป็นเสน่ห์สำหรับการสนทนากับคนอื่นๆที่มีความสนใจต่างกันได้อย่างลงตัว
ซึ่งหัวข้อสำหรับสนทนาของยุคนี้มีอยู่เยอะมากๆเราอาจจะคุยเรื่อง “กายวิภาคศาสตร์”กับเพื่อนที่ชอบเรียนวิชาชีววิทยา หรือคุยเรื่องหลักการออกแบบกับครูสอนศิลปะ หรือคุยเรื่องการเมืองการปกครองกับเพื่อนที่มีความสนใจในด้านนี้ ส่วนตัวผมศึกษายุคเรเนซองส์งเพื่อใช้คุยกับครูสอนศิลปะที่สอนควบคู่กับประวัติศาสตร์ และใช้จีบคนที่ชอบโดยเฉพาะเลย
สงครามโลกครั้งที่ 1-2
ทหารอเมริกาในโอกินาวา
สงครามโลก ความขัดแย้งที่สร้างความเสียหายเป็นอันดับต้นๆในประวัติศาสตร์ สงครามโลกทั้ง 2 ครั้งมีจุดร่วมเดียวกันคือเป็นความขัดแย้งกันระหว่างชาติมหาอำนาจในยุโรปทั้ง 2 ฝั่ง ที่สู้รบกันจนไฟแห่งสงครามรุกรานไปทั่วโลกและกินเวลาไป 4 ปีในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 6 ปีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ความนิยมของสงครามโลกนั้นมีอยู่เยอะมากในเหล่าคนที่ชอบประวัติศาสตร์เรียกได้ว่าแทบจะรู้จักกันทุกคนอยู่แล้วส่วนนึงผมคิดด้วยความนิยมจากหนังและเกมที่นำไปดัดแปลง
ทำให้เวลาที่เราเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับสงครามโลกไม่ว่าจะครั้งที่ 1 หรือ 2 มักก็จะคุยกันเพลินและยาวกันแบบสุดๆเพราะด้วยความเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างโมเดิร์น (Modern) เข้าใจง่าย ความเป็นทหารและชาตินิยม (Nationalism) ของแต่ละประเทศที่น่าสนใจและดึงดูดให้เบียวกันไปตามๆกัน ซึ่งสามารถนำไปสนทนากับคนอื่นที่อาจจะไม่ได้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ได้ในระดับนึง แต่จะดีกว่าถ้าเรานำมันไปสนทนากับคนที่รู้จักหรือชอบอยู่แล้ว จากประสบการณ์
ผมเคยมีเพื่อนสนิทอยู่ประถมคนนึงชอบประวัติศาสตร์เหมือนกันโดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เพื่อนผมคนนั้นฉ่ำชอนยิ่งกว่าอะไร รู้ทุกอย่างในเหตุการณ์ อย่างไทม์ไลม์ในเหตุการณ์ ชีวประวัติผู้นำแต่ละประเทศและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ส่วนตัวผมก็ชอบประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมือนกันแต่ไม่ได้รู้เยอะเท่าเพื่อน แต่ถึงอย่างนั้นเวลาเราสองคนคุยกันก็จะคุยกันด้วยภาษาที่เข้าใจกันแค่สองคน (ตามสไตล์คนชอบอะไรเหมือนกัน) และคุยกันได้ทั้งวัน
แต่ก็น่าเสียดายที่ผมกับเพื่อนสนิทคนนี้ต้องแยกจากกันตอนเริ่มต้นขึ้นเรียนมัธยม แต่ถึงงอย่างนั้น ก็ได้ทำให้ผมรู้ว่าประวัติศาสตร์สงครามโลกที่ถึงแม้เนื้อหาข้างในมันจะค่อนข้างโหด แต่มันก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ช่วยสานสัมพันธ์กันระหว่างคนที่ชอบประวัติศาสตร์ด้วยกันได้เป็นอย่างดี
ประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ธงชาติไทย
ประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผมจะเขียนถึงคือการเมืองไทยตั้งเหตุการปี พ.ศ.2475 ถึงปัจจุบัน ตัวผมเองยังไม่เคยลองศึกษาอย่างจริงจังเท่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่ผมคิดว่าการศึกษาเรื่องนี้น่าจะทำให้เราเข้าใจการเมืองของประเทศไทยได้มากขึ้น และทำให้เรากลายคนที่มีเสน่ห์ประวัติศาสตร์ทุกๆ 4 ปี (หลังเลือกตั้ง)
ถึงแม้คนส่วนใหญ่เริ่มมีความรู้ความเข้าใจในการเมืองมากขึ้น เริ่มรู้ระบบการทำงานต่างๆของการบริหารประเทศ การเลือกตั้งต่างๆ แต่ผมคิดว่ายังขาดสิ่งหนึ่งไป…นั้นคือการเข้าใจความเป็นมาของมัน ซึ่งเป็นหัวข้อสนทนาที่ดีมากๆสำหรับผม เพราะความเป็นมาเหล่านี้เองที่จะช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของการเมืองไทยได้มากขึ้น
ประวัติศาสตร์ในพื้นที่ของคุณ
หนังสือ
ใช่ครับ ประวัติความเป็นมาในพื้นที่ของคุณเอง ลองคิดดูว่ามันจะเจ่งแค่ไหนที่คุณรู้ความเป็นมาของที่ที่คุณอาศัยอยู่ อย่างการที่คุณรู้ว่า ชื่อสถานที่แห่งนี้ตั้งขึ้นตามอะไร? อนุสาวรีย์ตรงนี้ตั้งขึ้นเพราะไร? เกิดอะไรบ้างขึ้นบ้างในอดีต? ซึ่งสำหรับผมมันเป็นวิธีการเพิ่มเสน่ห์ในกับตัวเองได้อย่างดี หรือใช้พูดคุยกับคนอื่นโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ ในขณะที่คนอื่นเลือกที่จะละเลยมันไป
ซึ่งบางทีการที่เราลองเปิดใจกับประวัติศาสตร์ในพื้นที่ของตัวเอง อาจจะทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ๆที่เราไม่เคยมาก่อนก็ได้ แต่ต้องยอมรับอยู่อย่างนึงคือแหล่งข้อมูลในอินเตอร์เน็ตนั้นหายากมากๆ ยิ่งถ้าคุณอยู่ในจังหวัดหรือที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักแทบจะหาข้อมูลไม่เจอเลย ซึ่งปัญหานี้ผมเองก็เคยเจอเหมือนกันซึ่งผมแก้โดยการถามคนเฒ่าคนแก่ในพื้นกับไปจุดท่องเที่ยวของจังหวัดแล้วอ่านป้ายให้รู้ หรือไม่ก็โพสต์ถามคำถามในกลุ่มเฟสของของคนที่ชอบประวัติศาสตร์ด้วยกัน
สุดท้ายผมหวังบทความน่าจะพอช่วยให้คนที่ชอบประวัติศาสตร์ได้มีเรื่องมีราวที่สามารถนำไปใช้พูดคุยกับคนอื่นที่มีความสนใจต่างกันได้นะครับ หากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยไว้มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับขอบคุณครับ
แหล่งที่มาภาพ
Pixelbay ภาพประกอบที่ 1,2,3,4
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย