9 ธ.ค. 2023 เวลา 05:30

“เวลาคือสิ่งที่ควรค่าแก่การลงทุน” รู้จักกฎเหล็ก 5/25 จัดการเวลาแบบ Warren Buffett

“เวลาคือสิ่งที่มีค่า” ค่อนข้างมั่นใจว่าหากกล่าวประโยคคลาสสิกนี้ หลายๆ คนก็ต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอน เราถูกสอนกันมาตั้งแต่เด็กว่าไม่ว่ามนุษย์จะมีฐานะร่ำรวยจนสามารถซื้อทุกสิ่งที่ต้องการได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อได้ก็คือ “เวลา” เวลาเป็นต้นทุนชีวิตหนึ่งที่ทุกคนมีเท่ากันและยากที่จะเอาเวลาที่เสียไปกลับมาได้อีก
3
แม้ว่ามนุษย์ทุกคนจะใช้มาตรวัดในเรื่องเวลาที่เหมือนกัน แต่จุดที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนมีต้นทุนทางเวลาไม่เท่ากันก็คือความสามารถในการจัดสรรเวลาให้มีค่ามากที่สุดเพื่อนำต้นทุนทางเวลาที่มีอยู่ไปลงทุนทำกิจกรรมที่สร้างมูลค่ามากที่สุดโดยไม่เสียเปล่า ถ้าหากจะให้พูดถึงคุณค่าและการลงทุนกับสินทรัพย์ที่เรียกว่า “เวลา” ก็คงไม่มีใครที่สามารถเป็นกรณีศึกษาได้อย่างน่าสนใจมากเท่ากับเจ้าพ่อในโลกของการเงินการลงทุนอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
5
วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เป็นนักลงทุนระดับโลก ซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ และยังเป็นเจ้าของหนังสือดังอย่าง Buffettology, 10 Golden Principles of Warren Buffett และ The Essays of Warren Buffett นอกจากจะมีปรัชญาการลงทุนที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นไอดอลให้กับนักลงทุนทั่วโลกแล้ว
1
วอร์เรน บัฟเฟตต์ยังเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการบริหารจัดการเวลาที่มีค่าและมีคำกล่าวที่โด่งดังในโลกการเงินการลงทุนอย่าง “The rich invest in time, The poor invest in money” หรือคนรวยลงทุนในเวลา คนจนลงทุนในเงิน และมีกฎเหล็กในการจัดการเวลาในชีวิตอย่างกฎ 5/25
3
เมื่อหัวข้อเรื่องเวลาเป็นเรื่องที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ให้ความสำคัญและกฎ 5/25 เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างมูลค่าจากเวลาของนักลงทุนเลื่องชื่อของโลกได้มากกว่าสินทรัพย์ใดๆ วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปเรียนรู้กฎเหล็กอย่าง 5/25 เพื่อให้เวลาที่มีค่าของเราไม่เสียเปล่า
1
ปฐมบทของกฎ 5/25 “เวลาที่เสียไป มักมีต้นทุนค่าเสียโอกาสเสมอ”
4
เคยรู้สึกหรือไม่ว่าทุกครั้งที่เราทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต เราจะรู้สึกว่าเวลานั้นไม่พอเสมอและต้องการเวลาที่มากขึ้นในแต่ละวันเพื่อให้ทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จ หรือถึงแม้ว่าเราจะทำสำเร็จแต่ถ้าหากผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่ดีพอ เราก็จะรู้สึกเสียดายเวลาที่เสียไปจนอยากที่จะย้อนกลับไปแก้ไข
3
ความรู้สึกเสียดายเวลาเหล่านี้ เราสามารถเรียกชื่อในทางเศรษฐศาสตร์ได้ว่าเป็น “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” หรือ Opportunity Cost ซึ่งเป็น “มูลค่าของผลตอบแทนจากกิจกรรมที่เราสูญเสียโอกาสไปเพื่อทำกิจกรรมอย่างอื่น” ตัวอย่างเช่น เราเลือกที่จะทำงานให้หนักขึ้น แต่การทำงานหนักนั้นก็ย่อมมาพร้อมกับเวลาที่ให้กับครอบครัวน้อยลง เท่ากับว่าเราจะสามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ แต่ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็จะแย่ลงด้วยเช่นกัน
4
กฎ 5/25 จึงเป็นกฎที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเลือกที่จะเสีย “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” ให้กับสิ่งที่จำเป็นน้อยที่สุดในชีวิตและให้เวลากับสิ่งที่สำคัญจริงๆ ก่อน เพื่อป้องกันโอกาสในการบรรลุเป้าหมายของชีวิตนั้นและป้องกันไม่ให้ชีวิตต้องเสียต้นทุนทางด้านเวลาที่มีค่าอย่างมหาศาล
5
กฎ 5/25 กฎเหล็กเพื่อเวลาที่มีค่าและไม่เสียเปล่า
2
เราอาจจะเคยได้ยินกฎในการบริหารจัดเวลาอย่าง 60-30-10, 8-8-8 หรือกฎยอดนิยมอย่าง 80/20 แต่สำหรับกฎ 5/25 นั้นคงจะต้องนิยามอย่างง่ายๆ ว่าเป็นเหมือนกับเกมที่ท้าทายเราให้มุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชีพ ความฝัน สุขภาพ ครอบครัว คนรัก แล้วทุ่มเทเวลาที่มีค่าเพื่อทำเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดนั้นให้สำเร็จ ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นให้สำเร็จง่ายขึ้น มากกว่าการที่เราจัดการเป้าหมายทั้งหมดในคราวเดียวโดยไม่รู้ว่าเป้าหมายใดที่สำคัญกับชีวิตกันแน่
2
สำหรับขั้นตอนในการทำตามกฎ 5/25 นั้นเริ่มต้นจากการเขียนเป้าหมายในชีวิตที่เราอยากทำให้สำเร็จออกมาเป็นจำนวน 25 ข้อ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เลือกและวง 5 ข้อที่สำคัญกับชีวิตของเรามากที่สุด แล้วจึงหันมาให้ความสำคัญโดยลงมือทำ 5 ข้อหลักนั้นเป็นลำดับแรกในชีวิต ส่วนอีก 20 ข้อที่เหลือนั้นให้เก็บไว้ ไม่ต้องสนใจจนกว่าจะทำเป้าหมาย 5 ข้อนั้นสำเร็จ
4
วิธีเลือกเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิต 5 ข้อ
1
เมื่อชีวิตมีเวลาที่จำกัดและเราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ในเวลาเดียว การเลือกเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิต 5 ข้อจึงเป็นหัวใจหลักที่จะบ่งบอกเส้นทางของชีวิตที่เรากำลังจะเดินทางไปในอนาคต แล้วเราจะตัดสินใจเลือกเป้าหมาย 5 ข้อหลักได้อย่างไร?
วิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย 25 ข้อนั้นเพื่อให้ได้ 5 ข้อหลักก็คือการใช้เฟรมเวิร์กในการจัดเรียงเป้าหมายที่สำคัญผ่านเกณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น SMART (เจาะจง, วัดผลได้, ทำได้จริง, มีความสอดคล้องและมีกรอบเวลาที่ชัดเจน) หรือ Eisenhower Matrix (ทำเป้าหมายที่สำคัญและเร่งด่วนทันที ส่วนเป้าหมายที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วนให้จัดสรรเวลาในการทำ)
แต่ไม่ว่าจะใช้เฟรมเวิร์กใดก็ตาม สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามในการเลือกเป้าหมาย 5 ข้อหลักก็คือ “เป้าหมายนั้นเป็นความสุขที่แท้จริงหรือไม่” ให้ลองนึกภาพหลังจากที่เราประสบความสำเร็จในเป้าหมายนั้นดูว่าชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริงหรือไม่ และเป้าหมายนั้นดึงดูดให้เราลงมือทำได้มากแค่ไหน เพราะสุดท้ายแล้วการตั้งเป้าหมายที่เราไม่ได้ต้องการจริงๆ ก็จะทำให้เราไม่สามารถมีวินัยในการทำสิ่งนั้นได้ในระยะยาว
1
ได้เป้าหมายหลักแล้ว ควรทำอย่างไรเพื่อให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ
1
แม้ว่ากฎ 5/25 จะเป็นกฎที่ได้ผลดี แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะอดทนและมีวินัยในการทำตามแผนของตัวเองได้ ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์ ต้องต่อสู้กับการผัดวันประกันพรุ่งและสิ่งรบกวนจิตใจ การ “เคลียร์พื้นที่ของสมอง เพิ่มเวลาลงมือทำ” จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จกับกฎ 5/25 ได้จนสุดทาง
2
[ ] เริ่มจากการเชื่อมั่นในเป้าหมาย 5 ข้อหลักก่อน โดยเป้าหมายทุกข้อเราต้องมีเหตุผลในใจว่าทำไมเราจึงต้องการเป้าหมายเหล่านั้น
[ ] สร้างบรรยากาศให้รบกวนน้อยที่สุดและขจัดสิ่งรบกวนสมาธิรอบๆ ตัว
4
[ ] มีเครื่องมือในการจัดระเบียบงานที่มีประสิทธิภาพ (เช่น การใช้สมุดแพลนเนอร์หรือแอปพลิเคชันในการจัดระเบียบตารางงาน แทนการจดลงในเศษกระดาษที่ไม่มีระเบียบและมีโอกาสสูญหาย)
[ ] อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน ให้ทำเพียงงานเดียวอย่างตั้งใจ
[ ] อย่าโฟกัสกับเป้าหมายจนรู้สึก Burnout พยายามหยุดพักเพื่อฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาจากวันที่เหนื่อย (เช่น เดินเล่นข้างนอกบ้าน ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ตามสวน หรือหยุดเล่นโทรศัพท์เพื่อลดความเครียด)
2
และที่สำคัญที่วอร์เรน บัฟเฟตต์พยายามย้ำก็คืออย่าเสียเวลาไปกังวลกับเป้าหมายรองที่นอกเหนือจาก 5 อันดับแรก เพราะการที่ไปสนใจสิ่งที่รองลงมานั้นเท่ากับว่าเราได้เบียดเบียนพื้นที่ในสมองและเบียดเบียนเวลาที่มีค่าไปแล้ว ให้ทำเป้าหมายหลักให้สำเร็จแล้วจึงค่อยเลื่อนเป้าหมายรองนั้นขึ้นมาทำเป็นลำดับต่อไป
1
ถ้าหากจะค้นหาคำตอบว่ากฎ 5/25 มีประสิทธิภาพมากเพียงใดนั้น เราต้องยอมรับว่าการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ยากๆ นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำในชีวิตการทำงานของวอร์เรน บัฟเฟตต์มาโดยตลอด เขาเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักลงทุนมหาเศรษฐีจากเด็กวัยรุ่นตัวเล็กๆ ที่ก้าวเข้าตลาดจากการเลือกศึกษาและลงทุนในหุ้น Cities Service Preferred ที่ราคา 38 ดอลลาร์ต่อหุ้น
1
ไปจนถึงการลงทุนในหุ้น Apple ที่สร้างมูลค่าให้พอร์ตมากถึง 139 พันล้านดอลลาร์ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเส้นทางที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เลือกจากการถือครองเพียงไม่กี่หุ้นและใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อลงทุนทั้งความรู้ ความตั้งใจ แรงกาย และเม็ดเงินไปกับหุ้นเพียงไม่กี่ตัวนั้น
3
กับมนุษย์วัยทำงานอย่างเราก็เช่นกัน แม้ว่าเราจะมีหลายสิ่งที่อยากได้ อยากมี และอยากเป็นในชีวิต แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะทำสิ่งใหญ่ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน “การลงทุนกับเวลา” ด้วยการนำทรัพยากรเวลาที่มีค่าไปลงมือทำเป้าหมายหลัก 5 อันดับในชีวิต จึงเป็นวิธีที่ทำให้เราค่อยๆ คิด ค่อยๆ เลือกและค่อยๆ ทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ ซึ่งไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะยากเพียงใดแต่ถ้าหากเราลงมือทำโดยไม่ต้องสนใจสิ่งรบกวน เราก็จะมีโอกาสเห็นผลตอบแทนที่ดีได้อย่างแน่นอน
1
ที่มา
- The 5/25 Warren Buffet Rule for Sky High Productivity : Brandon Evans, Friday - https://bit.ly/3N1Mk5P 
- What are the most effective ways to prioritize your goals? : LinkedIn - https://bit.ly/411yXbF 
- Getting Started with the 5/25 Warren Buffett Rule: The Key to Better Productivity : Samir Luintel, timeTracko - https://bit.ly/3T0TICq
1
#selfdev
#warrenbuffett
#timemanagement
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
โฆษณา