19 ธ.ค. 2023 เวลา 12:00 • สุขภาพ

ฝุ่นจิ๋ว PM2.5 กับโรคมะเร็งปอด ที่คนเมืองไม่ควรมองข้าม

นับวันปัญหามลพิษทางอากาศส่งผลต่อสุขภาพของคนในยุคนี้ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องเจอทั้งฝุ่น PM2.5 ควันรถจากท่อไอเสีย ไมโครพลาสติก ร่างกายของเรามีการสูดดมและสะสมเข้าไปเก็บไว้ทีละเล็กทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวร่างกายก็เริ่มมีอาการของโรคบางอย่างเกิดขึ้น เช่น ไอ มีเสมหะ ระคายเคืองจมูก แสบจมูก และที่เลวร้ายไปกว่านั้นที่หลายคนกลัวมากที่สุดก็คือ มะเร็งปอด ที่มาจาก ฝุ่นจิ๋ว หรือ PM2.5 ที่เรากำลังเผชิญกันอยู่ตอนนี้
⭕ สาเหตุที่ฝุ่น PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดได้
อย่างที่เรารู้กันว่า ฝุ่นจิ๋ว หรือ ฝุ่น PM2.5 (Particulate Matter) มีขนาดอนุภาคเล็กกว่า 2.5 ไมครอนเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ 20 กว่าเท่า มีขนาดเล็กพอที่เราจะหายใจเข้าไปสู่ปอด และซึมผ่านผนังปอดเข้าสู่กระแสเลือดของเราได้ ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบ และถ้าหากร่างกายได้รับฝุ่น PM2.5 ในปริมาณที่มากและยาวนานเกินไป ก็อาจส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้แบบที่หลายคนกลัว
โดยข้อมูลจากวารสารการแพทย์ Oncology Letter – PMC5920433 ได้ระบุว่า PM2.5 มีผลทำให้เซลล์ในร่างกายอาจกลายพันธุ์หรือแบ่งตัวผิดปกติ และสร้างสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดมะเร็ง
ปัญหามลพิษทางอากาศยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ส่งผลให้โรคที่เป็นอยู่กำเริบขึ้นมาได้ และยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดหัวใจวาย โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคหอบหืดกำเริบ โดยเฉพาะเด็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ ที่ต้องดูแลสุขภาพตัวเองเป็นพิเศษมากกว่าคนทั่วไป
และยังรวมถึงสารพิษอื่นๆ ที่นอกเหนือจากฝุ่น PM2.5 เมื่อร่างกายถูกสะสมเป็นเวลานานๆ ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
  • ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุสาหกรรม
  • สารปนเปื้อนในเครื่องสำอาง ยาย้อมผม สีทาเล็บ
  • สารปนเปื้อนในอาหาร ผักผลไม้ มาจากการใช้ยาเคมี หรือยาฆ่าแมลง
  • ภาชนะใส่อาหาร กล่องโฟม แกงถุง แก้วกาแฟ
ทุกปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้ในอนาคต
⭕ สัญญาณเตือนร่างกายมีสารพิษสะสมมากเกินไป
  • อ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่สดชื่น
  • นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
  • สมองล้า ไม่มีสมาธิ
  • หลงลืมง่าย ความจำแย่ลง
  • หอบหืด หายใจติดขัด
⭕ ตรวจเช็กสารพิษ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอดจากฝุ่น PM2.5
แม้เราจะใช้ชีวิตที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะมากมาย ทั้งจากควันบุหรี่ ไอเสียรถยนต์ สารปนเปื้อนในเครื่องสำอาง ฝุ่น PM2.5 หรือสารโลหะหนักต่างๆ แต่ ในปัจจุบันเราสามารถตรวจเช็กระดับสารพิษ สารโลหะหนักในร่างกายได้ ทั้งจากการตรวจจากเลือดและการตรวจจากเนื้อเยื่อ เพื่อจะได้วางแผนป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังในอนาคตได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะสมองเสื่อม โรคภูมิต้านทานทำลายตัวเอง โรคภูมิแพ้ หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็ง ที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทยอีกด้วย
⭕ การตรวจจากเลือด (Toxin Heavy Metal)
เป็นการตรวจหาสารตะกั่ว ปรอท สารหนู แคดเมียม อลูมิเนียม ที่สะสมอยู่ในร่างกาย โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในเมืองมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารโลหะหนักสะสมอยู่เยอะ ทั้งจากทางมลภาวะทางอากาศ ทางน้ำ หรืออาหารที่รับประทาน เมื่อร่างกายถูกสะสมมากเกินไปก็จะส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ฮอร์โมนเกิดเสียสมดุล รวมถึงยังเป็นตัวการที่ทำให้หลอดเลือดอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายกับสุขภาพเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ร่างกายคนเราจะมีระบบการขจัดสารพิษอยู่ก็ตาม แต่ในบางคนอาจจะไม่รวดเร็วเพียงพอ คงจะดีกว่าหากเราได้รู้ว่าร่างกายเรามีสารพิษโลหะหนักสะสมอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันภัยเงียบจากสารพิษโลหะหนักที่อาจสร้างความเสียหายให้กับสุขภาพของเราได้ทันท่วงที
⭕ การตรวจจากเนื้อเยื่อ (Oligoscan)
เป็นการตรวจวัดระดับวิตามิน แร่ธาตุ และโลหะหนักในร่างกายระดับเซลล์ (ไม่ต้องเจาะเลือด) ทำให้เรารู้สมดุลแร่ธาตุในร่างกาย และประสิทธิภาพในการขับสารพิษของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไม่มีแรง ปวดหัวบ่อย การตรวจ Oligoscan จึงช่วยให้เราเสริมวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายขาดได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
⭕ วิธีขับสารพิษออกจากร่างกายด้วย คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy)
ปกติแล้วร่างกายของเรามีกลไกในการขับสารพิษออกได้เองผ่านทางเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระ แต่ถ้าเราได้รับสารพิษสะสมมากเกินไป และถ้าเรายังเพิ่มการสะสมสารพิษในทุกๆ วัน ผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดสารพิษออกมาได้หมด สารพิษเหล่านั้นก็จะถูกสะสมค้างอยู่ในร่ากายเรา จนอาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ในอนาคต
ในทางเวลเนสเองเราก็มีวิธีการขับสารพิษง่ายๆ ผ่านทางสายน้ำเกลือ ที่เราเรียกกันว่าการทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) โดยจะมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินคนไข้แต่ละคนในการขับสารพิษแต่ละครั้ง รวมถึงการเพิ่มวิตามิน หรือกลุ่มสารแอนตี้ออกซิแดนท์เข้าไปด้วย เพื่อให้ระหว่างทำนั้นไม่รู้สึกเพลียเกินไป
ดังนั้น การหันมาดูแลและใส่ใจ ถึงประสิทธิภาพของระบบการขับสารพิษ (Chelation Therapy) ของร่างกายสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง จึงเป็นสิ่งที่ควรตระหนัก และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
“อย่าปล่อยให้สารพิษสะสมอยู่ในร่างกายจนเกิดเป็นอาการเรื้อรัง” ให้ W9 Wellness Center ดูแลระบบขับสารพิษของคุณนะคะ
🍀ถามตอบทุกเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพ 𝙒𝙚𝙡𝙡𝙣𝙚𝙨𝙨 (𝙏𝙚𝙡𝙚-𝘾𝙤𝙣𝙨𝙪𝙡𝙩𝙖𝙩𝙞𝙤𝙣)
Line : @w9wellness หรือคลิก https://lin.ee/IQTvyLn
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Inbox เลย!
📍 W9 Wellness Center (ชั้น 3 รพ.พระรามเก้า)
🕐 เวลาทำการ : 08.00 น. -17.00 น.
📲 โทร. 092-993-6922, 1270
📷 IG : w9wellness
#ฝุ่นจิ๋ว #PM25 #มะเร็งปอด
#Immune #Immunity #Cancer #NKCell
#W9Wellness #W9WellnessCenter
#InvestInHealthYourUltimateWealth
โฆษณา